ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 822

“เดิมทีสุขภาพของภรรยาเขาไม่ดีนัก เหนื่อยเพลียเป็นอย่างมาก วินิจฉัยแล้วว่าเป็นภาวะยูรีเมีย”(*เป็นกลุ่มอาการในภาวะท้ายของโรคไตวาย)

ถ้าถามเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนมากจะเกิดจากสาเหตุ ‘เมื่องานยุ่งๆ ก็นั่งตลอดทั้งวัน ปวดฉี่ก็ไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำ อั้นฉี่จนเป็นนิสัย’ เป็นต้น

ซู่เป่าตกตะลึงจนกระโดด “ไม่ฉี่จะเป็นภาวะยูรีเมียเหรอคะ”

ผีรองรับอารมณ์ชะงัก แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ในทางการแพทย์แล้ว ไม่มีอะไรที่แน่นอน แต่การอั้นฉี่จนเป็นนิสัย ตอนปวดฉี่ไม่ไปฉี่ ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะและกรวยไตอักเสบได้ง่าย และเมื่อกรวยไตอักเสบเรื้อรังเป็นเวลานานไม่ยอมรักษา ถึงจะมีโอกาสพัฒนาเป็นภาวะยูรีเมีย”

อั้นฉี่ไม่ได้ทำให้เป็นภาวะยูรีเมียเสียทีเดียว เพียงแต่โรคทั้งหลายล้วนค่อยๆ สะสม สาเหตุซับซ้อนเป็นอย่างมาก

“ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอไม่เข้าใจ อันที่จริงคนไข้หลายคนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”

“ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นถูกส่งตัวเข้ามา เพียงแค่มาตรวจอาการคลื่นไส้ อาเจียนและท้องเสีย สุดท้ายผลตรวจออกมาว่าเป็นภาวะยูรีเมีย”

“พอสามีของเธอได้ยินอย่างนั้น ก็ตบฉันฉาดหนึ่งตรงนั้นเลย!”

ซู่เป่า “หา?”

นี่ๆๆ นี่มันเกี่ยวอะไรกับหมอ

ผีรองรับอารมณ์พูดขึ้นลอยๆ “เขาพูดว่า ตอนเข้ามาเมียฉันยังดีๆ อยู่เลย ทำไมพอมาให้พวกคุณตรวจดูก็ตรวจเจอภาวะยูรีเมียล่ะ!”

พูดราวกับว่าพวกเขาตั้งใจตรวจเจอภาวะยูรีเมียให้เขาอย่างนั้น

ชายหนุ่มคิดอย่างนี้จริงๆ คิดว่าหมอจงใจตรวจเจอภาวะยูรีเมีย จากนั้นก็สั่งให้พวกเขาไปทำการตรวจชุดใหญ่ และสั่งให้แอดมิตโรงพยาบาลเพื่อรักษา จะได้ไถเงินของพวกเขา!

ซู่เป่ากับเหล่าผีมองหน้ากัน

“แปลกแฮะ...ไอ้นิสัยสร้างปัญหาวุ่นวายนี่ทำไมฟังดูคุ้นๆ จัง...”

ผีรองรับอารมณ์แค่นเสียงฮึทีหนึ่ง “จะไม่คุ้นหูได้ยังไง ผู้ชายคนนี้ก็คือเฉินซินเจี้ยน”

ว้าวไม่นึกเลย ผ่านไปสิบกว่าปียี่สิบปีแล้ว ไม่นึกเลยว่าเธอจะยังเจอเฉินซินเจี้ยนในโรงพยาบาลอีก

ซู่เป่าว้าวเสียงหนึ่ง “ที่เจอกันแบบนี้ เขาเรียกว่าอะไรแล้วนะ”

ผีขี้ขลาดเอ่ย “นี่เรียกว่าเวียนว่ายตายเกิดตามเหตุและผล”

ซู่เป่าพยักหน้า “อืมๆ! จากนั้นล่ะคะ”

ผีรองรับอารมณ์เอ่ยขึ้น “เฉินซินเจี้ยนไม่เชื่อผลการวินิจฉัยของเรา พออ้าปากได้ก็พูดว่า ตอนมาคนเขายังดีๆ อยู่เลย ทำไมจู่ๆ ถึงได้ตรวจเจอภาวะยูรีเมีย”

“พวกเราเป็นหมอ สิ่งที่เกลียดที่สุดก็คือการได้ยินประโยคนี้ ตอนมาคนเขายังดีๆ อยู่เลย...แม่เอ้ย! ถ้าคนเขาดีๆ อยู่จะพามาส่งโรงพยาบาลทำไมล่ะ”

เมื่อผีรองรับอารมณ์พูดขึ้นมาก็รู้สึกแค้นใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ การอธิบายระยะป่วยและการสื่อสารกับคนไข้และญาติเป็นงานของพวกเขาอยู่แล้ว

“ฉันอธิบายสาเหตุกับเขาอย่างอดทน ร่างกายของภรรยาเขาไม่ดีอยู่แล้ว นิสัยในการดำเนินชีวิตประจำวันก็ไม่ดี แต่ภาวะยูรีเมียเป็นภาวะท้ายของการพัฒนาในผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง เพราะงั้นต้องได้รับการฟอกไตและรักษาทันที...”

“เดิมเฉินซินเจี้ยนไม่เชื่อการอธิบายของฉันอยู่แล้ว เขาพูดต่อไม่หยุดว่า ไม่เคยได้ยินว่าใครนั่งนานๆ แล้วอั้นฉี่จะเป็นภาวะยูรีเมียเลย! พวกคุณต้องหลอกเราแน่ๆ!”

ตอนนั้นผีรองรับอารมณ์ก็โกรธเหมือนกัน แต่จะทำอะไรได้ อธิบายก็อธิบายแล้ว จะรักษาหรือไม่รักษาก็สุดแท้แต่พวกเขาจะตัดสินใจเอง!

“เฉินซินเจี้ยนไม่เชื่อพวกเรา ปักใจเชื่อว่าโรงพยาบาลคิดจะหลอกเอาเงินของพวกเขา เลยพาภรรยากลับไป ก่อนไปยังพูดอีกว่า ก็แค่คลื่นไส้อาเจียนท้องเสียไม่ใช่เหรอ บอกพวกคุณจนใกล้จะตายแล้ว!”

เฉินซินเจี้ยนไม่เพียงแค่ตบเธอฉาดหนึ่ง แต่ยังไม่ขอโทษและเอาแต่ด่าอยู่ตลอดเวลา มิหนำซ้ำสุดท้ายยังร้องเรียนเธออีกด้วย

“สองเดือนหลังออกจากโรงพยาบาล เฉินซินเจี้ยนก็พาภรรยาไปซื้อยาแก้ท้องเสียที่คลินิกมารักษา กินยาแก้ท้องเสียแล้วอาการไม่ดีขึ้น เลยพาไปให้น้ำเกลือที่คลินิกทางการแพทย์เล็กๆ ที่ไม่มีแม้แต่ใบประกอบธุรกิจ ให้น้ำเกลือไม่ดีขึ้นใช่ไหม ก็ไปหาตำรายาสมุนไพรพื้นบ้านพวกนั้น แล้วก็จบด้วยกินยาจีน”

เดิมผู้ป่วยที่มีภาวะไตวาย ห้ามกินยามั่วซั่วเป็นอันขาด

หากกินยามั่วซั่วและกินยาเยอะ จากเดิมที่ไตไม่มีปัญหาอะไรก็จะเกิดปัญหาขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นภรรยาของเฉินซินเจี้ยนเขามีภาวะยูรีเมียอยู่แล้ว

“สายเกินไปแล้ว ไม่รักษา สุดท้ายก็ตาย” ผีรองรับอารมณ์ถอนหายใจ พูดขึ้นมาก็ยังคงเสียดาย

เมื่อภรรยาจากไป เฉินซินเจี้ยนก็ยิ่งเดือดดาล

เขาคิดว่าโรงพยาบาลรักษาภรรยาของเขาจนตาย

“ที่ยิ่งน่าโมโหก็คือ เขาสงสัยว่าฝีมือการแพทย์ของฉันไม่ได้เรื่อง ฉันเด็กเกินไป ไม่มีความสามารถ ฉันรักษาภรรยาเขาตาย”

“เขาบอกว่า หมอที่มีประสบการณ์เป็นคนมีอายุ หัวล้าน หนวดเคราขาวกันทั้งนั้น เธอดูสิเธอยังเด็กแค่ไหน ต้องรักษาไม่เป็นแน่ๆ”

“ต้องเป็นเพราะเธอใช้ยามั่วซั่ว ต้องเป็นเพราะเธอรักษาไม่ดีแน่ๆ”

โรงพยาบาลทำได้เพียงเอาเวชระเบียนตอนแอตมิตของผู้ตายออกมา เพื่อพิสูจน์ว่าเธอทำตามกระบวนการและอยู่ภายในขอบเขต

เฉินซินเจี้ยนก็พูดขึ้นอีกว่า นั่นเพราะเธอรักษาโรคไม่ได้ รักษาโรคยังต้องอ้างอิงคำตอบ ทำตามกระบวนการ เปลี่ยนไปตามอาการไม่ได้เหรอ

สรุปคือวิวาทกันอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลก็ไม่ดี เพื่อให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ สุดท้ายโรงพยาบาลก็ชดใช้ให้เฉินซินเจี้ยนสองแสน ชดใช้ในนามด้านมนุษยธรรม

แน่นอนว่า โบนัสของเธอในเดือนนั้นก็ถูกหักไปตามระเบียบ

ซู่เป่า “...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน