ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 871

สุดท้ายซืออี้หรันก็ถูกผีคลั่งรักแบกกลับไป

ผีคลั่งรักเป็นคุณปู่คนหนึ่ง นิสัยเป็นกันเอง ยังดีที่หลังจากกลายเป็นผีร้ายไม่ใช่คุณปู่จริง ๆ มิฉะนั้นชายชราคงแบกซืออี้หรันไม่ไหวจริง ๆ

ผีแบกคนขี่ลมหมื่นลี้ ซืออี้หรันทอดตัวอยู่บนหลังของผีคลั่งรัก ครั้งแรกที่ถูกผีแบกเดิน รู้สึกเพียงแค่พิลึกกึกกือ

ทันใดนั้นผีคลั่งรักก็พูดขึ้นว่า “พ่อหนุ่ม นายน่ะ...ต้องรีบโตเร็วๆ นะ”

ซืออี้หรันพยักหน้า “อืม ผมรู้ครับ...ขอบคุณครับคุณปู่”

เขาจะตามซู่เป่าให้ทันให้ได้

ภายในหัวใจดวงน้อยๆ ของซืออี้หรัน ลึกๆ ฝังจุดประสงค์เอาไว้ข้อหนึ่ง

แข็งแกร่งขึ้น ต้องเปลี่ยนเป็นคนที่ในยามที่ซู่เป่าต้องการการปกป้อง...ไม่ว่าจะที่ไหนเวลาไหน ก็ปกป้องเธอได้เป็นอย่างดี...

ใบหน้าของซืออี้หรันยังมีกลิ่นอายของความเป็นเด็ก ทว่านัยน์ตากลับเต็มไปด้วยความหนักแน่น

ผีคลั่งรักพลันหัวเราะหึๆ ขึ้นมา ไม่ได้พูดอะไรต่อ

หลังซู่เป่ากับซืออี้หรันไป

สองคนที่อยู่บนรถตรงริมหน้าผาทั้งไหว้ทั้งอ้อนวอนต่ออากาศ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรรอบๆ ก็เงียบสงบลง

ในตอนนี้เองพวกเขาถึงกล้าชะโงกหน้ามามองทีหนึ่ง เห็นเพียงบนพื้นมีโทรศัพท์เครื่องหนึ่งวางอยู่แน่นิ่ง แล้วก็...

เงินกงเต๊กหนึ่งแผ่น?!

ที่แท้เป็นเพราะซู่เป่ารีบร้อนเกินไป วิ่งเร็วเกินไป มียันต์วางอยู่บนโต๊ะในตำหนักพญายมกองแกองพะเนินเทินทึก เงินกงเต๊กเองก็มีกองหนึ่ง...บอกว่าเอาลงไปเก็บไว้ให้ตัวเองล่วงหน้า

เมื่อครู่เธอคิดจะคลำยันต์ออกมามอบให้พวกเขาเป็นการขอบคุณ ใครจะรู้ได้เลยว่าคลำไปคลำมาคลำผิดได้เงินกงเต๊กมาใบหนึ่ง

และยังเป็นใบที่จำนวนเยอะที่สุดอีกด้วย

ทั้งสองคนตกใจจนขาอ่อน กล้ารับเงินกงเต๊กนี้เสียที่ไหน ในใจคิดว่าเจอผีเข้าแล้วจริงๆ แน่

เมื่อนึกถึงที่เมื่อครู่ผีตนนั้นยังโทรหาพ่อของเธอ? คุณยาย? ร้องไห้ฮือ ๆ อีก...

ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ไม่กล้าเอาแล้ว เหยียบคันเร่งอย่างแรงรีบหนีไปอย่างไว

โทรศัพท์ถูกล้อรถเหยียบไปทีหนึ่งพอดี จากนั้นก็ตกไปล่างหน้าผา...

ลมข้างหูซู่เป่าพัดดังฟิ้วๆ พัดจนหน้าเจ็บไปหมด

ทว่าลมเหล่านี้เมื่อเทียบกับหุบเหวผีร้องก็ไม่ควรค่าให้พูดถึงแล้ว

ความเร็วของจี้ฉางรวดเร็วกว่าผีร้าย เพียงแค่หนึ่งชั่วโมงก็กลับถึงบ้านแล้ว

เพียงแค่ช่วงเวลาเลี่ยงกล้อง ก็ถึงประตูบ้านเลย

ในบ้าน

นายหญิงซูกำลังทำกับข้าวอย่างอลหม่าน

“ป้าอู๋...หั่นผักนี่ก่อน...”

“ป้าอู๋ ฉันทำไก่ย่างนี่เอง...ซู่เป่าต้องหิวมากแน่ๆ เนื้อไก่เติมพลังงาน...”

หนึ่งปีแล้ว...เด็กดีของเธอทนหิวมาหนึ่งปีแล้ว

คนอื่นต่างกำลังคิดว่า ตกลงซู่เป่าไปพบเจอความยากลำบากอะไรกันแน่ หนึ่งปีมานี้ใช้ชีวิตยังไง

ทว่าในใจของนายหญิงซูกลับมีเพียงความคิดเดียว เด็กดีของเธอทนหิวมาหนึ่งปีแล้ว...

ไข่ฝูหรงยังคงจัดให้ดังเดิม ไข่ฝูหรงอันนุ่มละมุน ให้กระเพาะที่หิวมาหนึ่งปีของซู่เป่าได้รองท้องก่อน ไม่อย่างนั้นกินของหนักเข้าไปในทันทีจะปวดท้องได้…

กุ้งมังกรปูอลาสก้าพวกนี้ย่อมไม่ต้องพูดถึง ซู่เป่าชอบกิน ต้องจัดให้อยู่แล้ว

ขาหมู เป็ดย่าง ไก่ผัดพริกดอง เนื้อวัวมีครบ อาหารประเภทเนื้อพวกนี้เติมพลังงานได้ดีที่สุด หิวมานานขนาดนั้นจะไม่มีได้ยังไง?

นายหญิงซูเพียงแค่ร้องไห้ และส่ายหน้าสุดชีวิต

นัยน์ตาของคุณท่านซูเองก็แดงเช่นกัน เขาเบือนหน้าไปมองอีกฝั่งอย่างอึดอัด จากนั้นกระแอมขึ้นเสียงหนึ่ง

“เอาละ กลับมาก็ดีแล้ว ร้องไห้งอแงจะไปเข้าท่าอะไร...”

ป้าอู๋เองก็มาแล้ว มือข้างหนึ่งถือผ้ากันเปื้อน มืออีกข้างหนึ่งปาดน้ำตา จากนั้นพูดขึ้นพลางยิ้มว่า “กลับมาก็ดีแล้วค่ะ พวกพี่ๆ ของคุณหนูซู่เป่าไปเรียน ไม่งั้นได้เสียงดังจนตึกถล่มแน่...”

มู่กุยฝานกำหมัดแน่น ยืนอยู่กับที่เงียบๆ ไม่ได้เดินเข้าไป

เขามองดูนายหญิงซูกอดซู่เป่า จากนั้นก็จูงมือเธอเข้าไป

จากนั้นก็มองดูเธอไถ่ถามทุกข์สุข ยกไข่ฝูหรงที่เพิ่งทำเสร็จออกมา

แล้วกลับไปยังห้องครัวด้วยความเร่งรีบ พูดพรวดไปอย่างเดียวก็พอ

ตอนนี้เองถึงได้มีเวลาว่าง มู่กุยฝานคอแห้งผาด เขาพูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ซู่เป่า...”

เด็กดีของเขาโตแล้ว

ไม่เจอกันหนึ่งปี สูงขึ้นนิดหน่อย แต่ผอมสุดๆ

ใบหน้าน้อยๆ ดูหมองคล้ำ ไม่เหมือนตอนอยู่บ้านก่อนหน้านี้ เลี้ยงดูปูเสื่อจนขาวท้วมและมีเลือดฝาด...

ซู่เป่าหิวมากจริงๆ หลังกินไข่ฝูหรงจนเกลี้ยงไปชามหนึ่ง ท้ายที่สุดก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังไม่ได้กอดพ่อ

เธอลุกขึ้นยืนอย่างรีบเร่ง ไข่ชิ้นน้อยๆ ยังติดอยู่ที่มุมปาก เธอกระโจนเข้าไปในอ้อมอกของมู่กุยฝาน

“พ่อขา หนูคิดถึงพ่อมากๆ เลย!” ศีรษะน้อยๆ ของซู่เป่าถูไถอยู่ในอ้อมอกของเขา “ขอโทษนะคะ เป็นเพราะหนูจากไปนานเกินไป ทำให้พวกพ่อต้องเป็นห่วงแล้ว”

นิ้วโป้งของมู่กุยฝานลูบไล้ใบหน้าของเธอเบาๆ และไม่รังเกียจเศษไข่เล็กๆ ที่มุมปากของเธอ

ลูกกระเดือกของเขาขยับไปมา น้ำเสียงแหบพร่า “กลับมาก็ดี...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน