เหลียงเจิ้นอ้าวเหมือนประทัดที่โดนไฟเผา แค่เสี้ยววินาทีก็กระโดดพุ่งขึ้นมา!
แต่น่าเสียดายเมื่อเขากำลังจะก้าวขาวิ่ง ก็ถูกผีขวางทางเอาไว้
“น้องชาย จะวิ่งไปไหน?” ผีขี้ขลาดพูดด้วยน้ำเสียงโหยหวน “ช่วยเรียกรถพยาบาลให้หน่อย…”
“ผมต้องการรถพยาบาลจริงๆ…”
ตอนแรกผีขี้ขลาดแค่ต้องการหลอกให้เหลียงเจิ้นอ้าวตกใจ
แต่ว่า…
บรรยากาศในตอนนี้ ที่ไม่มีคนอยู่ในโรงเรียนและอาคารเรียนที่เงียบกริบ…เขาเคยถูกลากตัวไปทำร้ายที่ใต้ต้นไม้
กระอักเลือดอยู่ในห้อง ร้องตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างสุดเสียงแต่ก็ไม่มีผู้ปกครองท่านไหนได้ยิน
เขาแค่ต้องการจะบอกให้ช่วยเรียกรถพยาบาล เขาต้องการเพียงแค่นี้จริงๆ…
“…ช่วยผมด้วย” ในดวงตาของผีขี้ขลาดมีเลือดไหลรินออกมาเป็นสาย “ช่วยด้วย…ช่วยผมด้วย”
เขากวักมือให้เหลียงเจิ้นอ้าว
เหลียงเจิ้นอ้าวอยากจะกรีดร้องอย่างสุดเสียง แต่เหมือนมีใครมาบีบลูกกระเดือกเอาไว้ ทำให้ร้องยังไงก็ไม่มีเสียงดังออกมา
เขาเบิกตากลมโต อยากจะสลบเต็มทีแต่ก็ทำไม่ได้ จึงต้องฝืนใจมองผีที่อยู่ตรงหน้า
จากนั้นไม่นาน เหลียงเจิ้นอ้าวรู้สึกเหมือนรอบตัวหมุนวนไปมา จนทำให้เกิดอาการเวียนหัว…
ในหูมีเสียงดังอื้ออึง เสียงของคนรอบข้างค่อยๆฟังไม่ชัดเจน เหมือนตัวเองกำลังจะจมลงไปในน้ำ
พันเจิ้นเอ๋า…ฮาๆๆ…พันเจิ้นเอ๋า!
มีคนเรียกชื่อเขาอยู่ข้างหู
เหลียงเจิ้นอ้าวได้ยินเสียงไม่ชัดเจน เหมือนชื่อนี้ไม่ใช่ชื่อของเขา แต่ก็ฟังเหมือนชื่อของเขา
สุดท้ายชื่อของพันเจิ้นเอ๋าและเหลียงเจิ้นอ้าวก็รวมอยู่ด้วยกัน จนเสียงเรียกนั้นค่อยๆกลายเป็นชื่อของเขา
“ฮาๆๆ เหลียงเจิ้นอ้าว คนขี้ขลาดอย่างแก ถ้าแน่จริงก็ลุกขึ้นมาสู้สิ!”
“โธ่~โธ่~แค่โดนต่อยไม่กี่หมัด ก็นอนหมอบอยู่กับพื้นเหมือนสุนัขที่ไม่มีแรงยืนแล้วเหรอ ?”
“ฮาๆๆ…”
ข้างหูมีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้น
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหลียงเจิ้นอ้าว จู่ๆก็มีพลังบางอย่างผลักดันให้เขาฮึดสู้ขึ้นมา!
“พวกแก…อย่าคิดแต่จะรังแกผู้อื่นนะ!” เขาพูดอย่างโมโห พยายามจะยืนขึ้นมาอย่างสุดเรี่ยวแรง
แต่ก็ลุกขึ้นมาไม่ไหว จึงถูกเหยียบไปที่ท้องด้วยฝ่าบาทอย่างแรง
โอ๊ย..เจ็บ!!
เหลียงเจิ้นอ้าวหายใจเข้าลึกๆ
“ฮาๆๆ…แค่นี้ก็ลุกไม่ขึ้นแล้วเหรอ? เมื่อกี้ยังพูดว่าอย่ามารังแกกันอยู่เลย!”
“โธ่เอ๊ย ฉันหมั่นไส้ขี้หน้าแกมานานแล้ว! คนขี้ขลาด ผิวพรรณขาวใส ไม่เหมือนลูกผู้ชายเลยสักนิด”
“เจ้าหน้าขาว! แกคงคิดว่าผู้หญิงทั้งห้องจะหลงใหลในใบหน้าอันขาวใสของแกอยู่ใช่ไหม คิดแต่เรื่องชั่วๆอยู่ในใจ? ให้ตายสิ ฉันทนเห็นผู้ชายที่มีความคิดวิปริตอย่างแกไม่ไหวแล้ว!”
ความเจ็บใจ ความอับอาย ความโกรธ ที่อยู่ในตัวเหลียงเจิ้นอ้าวประทุออกมาแล้ว
เขาไม่กล้าโต้ตอบกลับไป ได้แต่งอตัวกอดหัวอดทนไว้อย่างนั้น จนเมื่อพวกเขารู้สึกหมดแรงแล้ว แต่ละคนก็พากันถุยน้ำลายใส่ตัวเขา ก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับหัวเราะอย่างสะใจ
เหลียงเจิ้นอ้าวรู้สึกใบหน้าของเขาร้อนดั่งไฟเผา และปวดท้องอย่างหนัก ลุกขึ้นมาอย่างทรมาน ทุกก้าวที่เดินไปก็จะมีเหงื่อเย็นไหลออกมาพร้อมกัน
ทางเดินกลับบ้านช่างไกลเหลือเกิน…
ไม่รู้ว่าเดินไปได้นานเท่าไหร่ เขาเริ่มจะอดทนต่อความเจ็บปวดบนร่างกายไม่ไหวแล้ว
ไม่ง่ายเลยที่จะเดินกลับมาถึงบ้านจนได้ เขาใช้แรงที่ยังเหลืออีกนิดหน่อย พยายามปรับตัวเองให้เหมือนปกติ จากนั้นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถ้าพ่อแม่รู้ว่าเขาไปมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นมา ก็คงจะไม่ถามก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น มีแต่จะโทษเขาว่าไม่ยอมพูดคุยกับเพื่อนดีๆ หาเรื่องให้พวกเขาต้องเดือดร้อนตลอด
เหลียงเจิ้นอ้าวจับราวบันไดไว้ เหมือนบันไดตรงหน้ากำลังบอกกับเขาว่าแต่ละก้าวที่เดินไปจะต้องเจอแต่ความยากลำบาก
สุดท้ายก็มาถึงชั้นที่เป็นบ้านของตัวเอง ตรงหน้ามีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฎตัวขึ้นมา และถามขึ้นว่า “พันเจิ้นเอ๋า เกิดอะไรขึ้นกับนาย?”
พันเจิ้นเอ๋ารู้สึกมึงงง เวลานี้เขาได้เดินอยู่บนเส้นทางของผีขี้ขลาดแล้ว และพันเจิ้นเอ๋าก็คือชื่อของเขา
“ไม่มีอะไร…” เขาตอบอย่างเสียงเบา “แค่ยังไม่ได้กินข้าวจึงรู้สึกปวดทองนิดหน่อย”
หญิงคนนั้น ——แม่ของเขาไม่ได้ถามอะไรมาก ในปากก็พูดบ่นพึมพำตามปกติ จากนั้นก็ไปทำอาหาร
เมื่อถึงเวลาอาหารมื้อค่ำ เขาเจ็บปวดจนอดทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว
ระหว่างที่ทานข้าวอยู่ด้วยกัน พ่อกับแม่ก็มีปากเสียงขึ้นมา ทั้งสองทะเลาะกันอย่างดุเดือด ในคำพูดที่ด่ากันนั้นมีบางประโยคทำให้เขารู้สึกเศร้าขึ้นมา
【ถ้าไม่ใช่เพราะลูก แกคิดว่าฉันจะทนอยู่กับแกมาจนถึงตอนนี้เหรอ!】
【ถ้าไม่ใช่เพราะลูก ฉันก็หย่ากับแกตั้งนานแล้ว!】
ทันใดนั้นเหลียงเจิ้นอ้าวก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดขีด…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...