ครอบครัวของเสี่ยวเหม่ยเช่าอยู่ชั้นยี่สิบแปด
สุดทางเดิน อีกด้านเป็นบันไดทางออก
อีกด้านเป็นหน้าต่างที่เปิดให้ลมพัดผ่าน ผู้ใหญ่เพียงแค่กระโดดเล็กน้อยก็พลิกตัวไปได้แล้ว...
มู่กุยฝานสัมผัสได้ถึงความตั้งใจที่สิ้นหวังเหมือนเถ้าถ่านในแววตาแม่ของเสี่ยวเหม่ย ตั้งแต่ตอนที่เธอพูดประโยคแรกออกมาตั้งนานแล้ว
ฉะนั้นในตอนที่แม่ของเสี่ยวเหม่ยพุ่งออกไป เขาก็ก้าวออกไปข้างหน้าก้าวหนึ่งทันที แล้วขวางเธอเอาไว้ไม่ให้ตกลงไป
พ่อของเสี่ยวเหม่ยตกตะลึงเป็นอย่างมาก รีบกอดแม่ของเสี่ยวเหม่ยเอาไว้!
“ปล่อยฉัน...ปล่อยฉัน!”
“ฉันจะไปเป็นเพื่อนลูก ให้ฉันไป ฉันไม่อยากให้ลูกต้องเดินไปในเส้นทางที่ทั้งมืดแล้วก็ยาวคนเดียว...”
“ถ้าเธอเกิดกลัวขึ้นมาจะทำยังไง ถ้าเธอหลงทางจะทำยังไง ถ้าหาเสี่ยวจิ่วไม่เจอ ต้องอยู่โดดเดียวเพียงลำพังจะทำยังไง...”
ได้ยินมาว่าวิญญาณยังต้องเดินผ่านเทือกเขาระกาทองและเทือกเขาจอทมิฬ ไก่จะไล่จิกตาของวิญญาณ หมาจะกัดแขนขาของวิญญาณ...
วิญญาณต้องวิ่งไปข้างหน้าอย่างสุดชีวิต...
เสี่ยวเหม่ยเคยถูกไก่จิกตอนเด็ก ตอนนั้นกลัวจนไข้ขึ้นต้องพาไปกู้ชีพที่โรงพยาบาล ไก่ตัวผู้ตัวใหญ่เป็นแผลในใจของเธอ
เมื่อนึกได้ว่าลูกน้อยที่เธอฟูมฟักอยู่ในอ้อมอกมาตั้งแต่เด็ก ต้องเดินผ่านเส้นทางเหล่านี้เพียงลำพัง เด็กน้อยที่ตั้งแต่เล็กก็ไม่ค่อยออกจากบ้านต้องเจอกับไก่และหมาตามจิกตามกัดด้วยตัวเองเพียงลำพัง เธอก็ทำใจไม่ได้ เจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก...
แม่ของเสี่ยวเหม่ยร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้งไปหมดแล้ว ร้องไห้อย่างสิ้นหวัง ดวงตาแดงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนอดสงสัยไม่ได้ว่าวินาทีถัดไปเธอจะหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด...
พ่อของเสี่ยวเหม่ยกอดแม่ของเสี่ยวเหม่ยเอาไว้แน่น ไม่กล้าปล่อยมือ
ในวินาทีนี้ สมองของเขาที่ราวกับเสียสติก็มีสติขึ้นมาไม่น้อย
พอเสี่ยวเหม่ยตายไป เขากับภรรยาก็กระโจนเข้าไปในจินตนาการอันว่างเปล่าราวกับเป็นบ้า เพื่อ ‘ฟื้นคืนชีพ’ เสี่ยวเหม่ย
หลังจากลูกสาวไม่อยู่ โลกของพวกเขาก็ราวกับสูญเสียเป้าหมายไปในชั่วพริบตา และไม่มีแรงขับเคลื่อนในการมีชีวิตอีก
ฉะนั้นจึงควานหาวิธีที่จะทำให้เสี่ยวเหม่ยฟื้นคืนชีพ จึงกลายเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ในการมีชีวิตอยู่ต่อไปของพวกเขา...
แต่ในกระบวนการนี้เอง ไม่ใช่เป็นการละเลยภรรยาหรอกเหรอ?
ไม่ได้ปลอบเธอดีๆ ทว่ากลับเดินเข้าไปในทางตันกับเธอ
เสี่ยวเหม่ยไม่อยู่แล้ว ถ้าภรรยาก็ฆ่าตัวตายไปอีก...
พ่อของเสี่ยวเหม่ยกอดแม่ของเสี่ยวเหม่ยเอาไว้แน่น ชายหนุ่มคนหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาเช่นกัน
“ให้ลูกไปเถอะ...” น้ำเสียงของเขาแหบพร่า “นี่ล้วนเป็นโชคชะตา...เราฝืนรั้งเธอเอาไว้ จะดีต่อเธอจริงๆ เหรอ?”
“เป็นไปได้ว่าชาติหน้าเธออาจจะไปเกิดใหม่ในครอบครัวที่ดีมากๆ ครอบครัวหนึ่ง มั่งมีด้วยทรัพย์สมบัติ...มีสุขภาพที่แข็งแรง สุขสงบ แข็งแรง...”
เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ เติบโตอย่างราบรื่น เข้าโรงเรียนอนุบาล เข้าเรียน...
เติบโต แต่งงาน มีลูก...
“งั้นเราก็ถ่วงเธอไม่ใช่เหรอ?”
ไม่ควรรั้งให้อยู่แบบนี้ ให้เธออยู่กระทั่งวิญญาณสลาย ท้ายที่สุดก็ไม่เหลืออะไร ไม่ควรเป็นแบบนี้สิ!
แม่ของเสี่ยวเหม่ยเป็นอัมพาตอยู่บนพื้น และเข้าใจขึ้นมาแล้ว
เธอเบือนหน้าร้องไห้จนแทบจะขาดใจ ทุบอกของตัวเอง เกลียดที่ตัวเองไร้ความสามารถ ที่ปกป้องลูกของตัวเองได้ไม่ดี
ซู่เป่ามอง รู้สึกเพียงว่าในใจมีความเศร้าซึม
ถ้าวันหนึ่งเธอเองก็ต้องจากไปแบบนี้ล่ะ?
ลิฟต์ลงไปแล้ว เสี่ยวเหม่ยเดินตามทางที่การเรียกวิญญาณชี้นำ กลับไปยังห้องดับจิตที่โรงพยาบาล เก็บใบหน้าครึ่งนั้นของตัวเองกลับมา
จากนั้นก็ก้าวไปบนทางน้ำพุเหลืองตามลำพัง
ตั้งแต่เริ่มจนท้ายที่สุด เส้นทางสายนี้ มีเพียงแค่เธอตัวคนเดียว เธอแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก...
พ่อแม่ของเสี่ยวเหม่ยนั่งนิ่งอยู่นานสองนาน ซู่เป่าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “คุณลุงคุณป้าคะ รีบไปรับเสี่ยวเหม่ยกลับมาฝังเร็วหน่อยเถอะค่ะ แบบนี้เธอถึงจะถึงตำหนักพญายมได้เร็วหน่อย จะได้หาเสี่ยวจิ่วเจออย่างราบรื่น...”
แม่ของเสี่ยวเหม่ยนิ่งไม่พูดอะไร พ่อของเสี่ยวเหม่ยลุกขึ้นยืน เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ขอบคุณพวกเธอมากนะ...”
เขามองภรรยาทีหนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “เราไปกันตอนนี้เลยเถอะ”
เขายอมรับความจริงเรื่องการจากไปของลูกสาวได้แล้ว เจ็บปวดเจียนจะขาดใจ ทว่าต้องประคับประคองบ้านหลังนี้เอาไว้...
ต้องจัดการเรื่องหลังจากนี้ ต้องนำทางภรรยาให้ดี ต้องประคับประคองบ้านหลังนี้ให้เดินหน้าต่อไปได้
ซู่เป่าเห็นการบอกลาของเสี่ยวจิ่วและเสี่ยวเหม่ยกับคนในครอบครัวอย่างต่อเนื่อง
สองครอบครัวที่แตกต่างกัน สองความเจ็บปวดที่แตกต่างกัน...
ในที่สุดเธอก็เอ่ยปากปลอบขึ้นว่า “คุณลุงคุณป้าคะ พวกคุณลุงต้องใช้ชีวิตดีๆ นะคะ เวลาการเกิดใหม่ของเสี่ยวเหม่ยและเสี่ยวจิ่วคือสองปี ไม่แน่ว่าอีกสามปีเสี่ยวเหม่ยอาจจะกลับมาอีก”
ประโยคนี้เท่ากับส่องแสงลำแสงหนึ่งไปในโลกอันสิ้นหวังแสนมืดมิดของแม่ของเสี่ยวเหม่ย
แม้เธอยังนิ่งไม่พูดไม่จา แต่นัยน์ตาเกิดประกายความหวังขึ้นมาเล็กน้อย...
ถ้าบอกว่า การเสียสติก่อนหน้านี้เป็นเพราะไม่มีแรงขับเคลื่อนในการมีชีวิตต่อ เช่นนั้นตอนนี้ก็มีแรงขับเคลื่อนใหม่แล้ว
หลังจากออกมาซูเหอเวิ่นก็ถามขึ้นว่า “น้องซู่เป่า เสี่ยวเหม่ยจะกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งได้จริงๆ เหรอ?”
เขาจำได้ว่าเคยมีกรณีก่อนหน้าที่เป็นแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นชื่อว่าถังถัง น้องซู่เป่าบอกว่าชาติหน้าเธอจะกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...