เหอเยว่ได้เตรียมเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนไว้เรียบร้อยแล้ว ชุดของชายหนุ่มเอาไปวางไว้ในห้องที่เรือนด้านหน้าลานที่หนึ่ง เพราะว่า ทางด้านนั้นมีห้องอาบน้ำอยู่แล้ว
ส่วนห้องอาบน้ำหญิงอยู่ในเรือนด้านในลานที่สอง ที่นี่เป็นห้องที่ให้แขกที่เป็นหญิงพักโดยเฉพาะ หลังจากจัดการเสร็จแล้ว ลู่ม่านจึงไปอาบน้ำ
เมื่อนางออกมา เฉินหลิ่วเอ๋อกับเฉินหลี่ซื่อต่างก็อาบน้ำเสร็จแล้ว หลิวซื่อยังรออยู่ข้างนอก
ลู่ม่านเกรงว่านางจะเป็นหวัด จึงเรียกให้นางไปอาบที่ห้องอาบน้ำของตนเอง
พอหลิวซื่อเข้าไปก็รู้สึกกระวนกระวายใจมาก เพราะว่าลู่ม่านใช้ท่อน้ำที่ทำมาจากดินเผา หลิวซื่อใช้ไม่เป็น
ลู่ม่านจึงเข้าไปชี้แนะอยู่ครู่หนึ่ง จึงออกมา
เมื่อนางออกมาแล้ว เฉินหลิ่วเอ๋อกับเฉินหลี่ซื่อยังไม่ออกมา ลู่ม่านคิดว่าพวกนางก็เจอปัญหาเหมือนกัน จึงเตรียมตัวจะเดินไปดูสักหน่อย
ไหนเลยจะคิดว่าเพิ่งจะก้าวเข้าไป ก็ได้ยินเฉินหลี่ซื่อที่ยืนอยู่หน้าประตู กำลังเกลี้ยกล่อมเฉินหลิ่วเอ๋อ
“นั่นมันชุดใหม่เชียวนะ ยังไม่เคยใส่เลย หลิ่วเอ๋อ เจ้ารีบเข้าไปเปลี่ยนเร็วเข้า เดี๋ยวจะไม่สบาย”
“ข้าไม่เปลี่ยน ข้าไม่อยากจะใส่เสื้อผ้าของนาง”เสียงของหลิ่วเอ๋อดื้อรั้นมาก
ลู่ม่านเลิกคิ้วขึ้น ยังไงเฉินหลิ่วเอ๋อก็ยังคงเป็นเฉินหลิ่วเอ๋อ นางคิดไว้แล้ว คนอย่างเฉินหลิ่วเอ๋อไม่มีทางคิดได้แน่
การมาครั้งนี้ คาดว่าคงจะถูกตาแก่เฉินบังคับให้มากระมัง
“หลิ่วเอ๋อ”เฉินหลี่ซื่อเอ่ยขึ้นอย่างระอาใจ “พ่อเจ้าบอกแล้ว ว่าพวกเราห้ามเอะอะโวยวายหาเรื่องเหมือนเมื่อก่อนอีก ถึงแม้เจ้าจะไม่สนใจตัวเอง ก็คิดถึงแม่บ้าง ตอนนี้แม้แต่เงินสักแดงพ่อเจ้าก็ไม่ให้แม่แล้ว……”
เฉินหลิ่วเอ๋อจึงสงบลงได้บ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ยอมใส่เสื้อผ้าของลู่ม่านอยู่ดี
“นี่ก็เก็บเกี่ยวหมดแล้ว ข้าจะกลับไปก่อน ท่านก็อยู่ที่นี่ต่อไปเถอะ”
พูดจบ เสียงฝีเท้าของนางก็ดังขึ้น เดินออกมาแล้ว
ลู่ม่านก็ไม่คิดจะหลบหลีกไปไหน ยืนรอนางอยู่ที่หน้าประตู กลับเป็นเฉินหลิ่วเอ๋อที่นิ่งอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก็ยิ้มเย็น “ที่ข้ามาช่วยเจ้าก็เพื่อท่านแม่ แต่เรื่องที่พวกเจ้าทำให้พี่สี่ของข้าต้องตาย ข้าไม่มีทางให้อภัยแน่”
ลู่ม่านจนคำพูด “ข้าไม่ได้ทำให้เฉินจื่อคังต้องตาย”
“มันเป็นเพราะเจ้า ถ้าหากตอนนั้นเจ้ายอมให้สูตร พี่สี่ก็คงไม่ต้องตาย”
ความคิดไม่เหมือนคนอื่นเช่นนี้สมกับเป็นเฉินหลิ่วเอ๋อ ลู่ม่านหมดคำพูดจริง ๆ
“แล้วแต่เจ้าจะคิด พี่สามของเจ้าให้คนเตรียมอาหาร……”
“ไม่กิน ”เฉินหลิ่วเอ๋อพูดจบแล้ว ก็เดินไปอย่างเอาแต่ใจ เฉินหลี่ซื่อรีบตามไป ตอนที่เดินผ่านร่างของลู่ม่าน นางก็ไม่ได้พูดอะไร
ตอนที่อาหารเตรียมเสร็จแล้ว เฉินหลี่ซื่อจึงกลับมา แต่มีแค่นางคนเดียว เฉินหลิ่วเอ๋อไม่ได้มาด้วย
ตาแก่เฉินถามถึง เฉินหลี่ซื่อก็ตอบอย่างสบายใจว่าเฉินหลิ่วเอ๋อไม่สบาย กลับไปพักผ่อนก่อนแล้ว ตาแก่เฉินถามอาการนิดหน่อยก็ถือว่าหมดหน้าที่แล้ว
อาหารที่เตรียมไว้หลากหลายมาก ยากมากที่คนทั้งครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้ากัน ตาแก่เฉินดีใจมาก ลู่ม่านนึกถึงเหล้าองุ่นที่ตนเองได้หมักเอาไว้ตั้งนานแล้ว จึงไปเอาออกมาให้ทุกคนดื่มกัน
ไม่ได้ไปดูตั้งนาน คิดไม่ถึงว่าเหล้าองุ่นจะหมักได้ผลดีมาก
ไม่เพียงแต่มีความเผ็ดร้อนของแอลกอฮอล์ ยังมีกลิ่นหอมขององุ่นแทรกอยู่ เมื่อดมแล้ว ทำให้รู้สึกอยากดื่มมาก
อาจารย์โจวได้กลิ่นก็รู้สึกหลงรักขึ้นมาทันที คงเป็นเพราะว่าคนที่เป็นปราชญ์ในใจต่างก็มีความคิดเป็นชนชั้นกลางอยู่กระมัง ดื่มเหล้าขาว มีความรู้สึกว่าถูกดึงให้ต่ำลงระดับหนึ่ง
นอกจากอาจารย์โจวแล้ว ทั้งเฉินหลี่ซื่อและหลิวซื่อต่างก็ชื่นชอบมาก หลังจากเฉินหลี่ซื่อดื่มแล้ว ยังต้องการเอากลับไปด้วยหนึ่งขวด บอกว่าจะเอาไปให้เฉินหลิ่วเอ๋อดื่ม
ลู่ม่านให้เหอเยว่ใส่ในไหเล็กๆให้นางหนึ่งใบ ในเวลาอย่างนี้ ทำตัวเป็นคนดีสักหน่อยคงไม่เป็นไร
แต่ว่า เทคนิคการเพาะปลูกในอนาคตไม่เหมือนกับตอนนี้ เมล็ดพันธุ์ก็ต่างกัน ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้
หลังจากที่ตากถั่วเหลืองให้แห้งดีแล้ว ลู่ม่านก็เริ่มเตรียมการหมักซีอิ๊ว
ขั้นแรกคือการล้างถั่วให้สะอาด จากนั้นก็นำไปต้มให้สุก ตอนที่ลู่ม่านกำลังยุ่ง เหอเยว่ก็คอยช่วยเป็นลูกมือ
นางรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่ลู่ม่านทำมาก นางรู้สึกว่าในสมองของลู่ม่านนั้นมีสิ่งที่แปลกประหลาดอยู่มากมาย ที่บ้านเกิดของนาง มีถั่วมากมาย
แต่ทุกคนต่างก็เอาออกไปขาย ไม่เช่นนั้นมากสุดก็แค่นำไปทำเป็นเต้าหู้กับฟองเต้าหู้ ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า ยังสามารถนำมาทำเป็นสิ่งที่เรียกว่าซีอิ๊วได้
หลังจากต้มถั่วจนสุกแล้ว ลู่ม่านก็หาเสื่อที่สานจากไม้ไผ่ออกมา ปูไว้ที่ลานบ้าน เกลี่ยถั่วทั้งหมดให้เรียบเสมอกัน ทำให้เย็นลง
ฉวยเวลาที่รอในขั้นตอนนี้ ลู่ม่านก็พาเหอเยว่ไปบนภูเขา
เหอเยว่ขึ้นมาบนภูเขาเป็นครั้งแรก ความรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะว่านางอายุยังน้อย ชื่นชอบเรื่องการผจญภัยเป็นอย่างยิ่ง
แต่การที่ลู่ม่านพาเหอเยว่ขึ้นไปบนภูเขาครั้งนี้เป็นการไปหาสิ่งของ ก่อนหน้านี้ตอนที่ไปหาดอกเก๊กฮวยป่า ลู่ม่านพบว่ามีหวงฮวาเฮาเยอะมาก พืชชนิดนี้สามารถช่วยให้ถั่วที่ทำการหมักเกิดยีสต์ได้มากขึ้น
เหมือนกับถั่วนัตโตในยุคปัจจุบันนั่นเอง เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่งในตอนเด็กที่อยู่ในบ้านเด็กกำพร้า เห็นแม่ของผู้อำนวยการบ้านเด็กกำพร้าเคยทำมาก่อน คนแก่คนนั้นมีเมตตามาก และรอบรู้มาก
น้ำเต้าหู้และอาหารที่ทำจากแป้งทั้งหลาย เด็กๆในบ้านเด็กกำพร้าต่างก็ชื่นชอบกันมาก
เมื่อเดินผ่านลำธารเล็กๆ ลู่ม่านหาสถานที่ที่เคยเก็บดอกเก๊กฮวยป่ากับเฉินจื่ออานในครั้งแรกจนพบ ดอกเก๊กฮวยป่าเริ่มเจริญเติบโตแล้ว แต่ว่าในฤดูนี้ก็แค่เจริญเติบโตขึ้น ไม่ออกดอก
ลู่ม่านเตือนเหอเยว่ อย่าทำให้ใบของต้นดอกเก๊กฮวยป่าเหล่านั้นเสียหาย จากนั้นจึงเดินผ่านพื้นที่ตรงนั้นอย่างระมัดระวัง ไปจนถึงด้านหน้าที่มีต้นหวงฮวาเฮาอยู่
ครั้งนี้ทำไม่มากนัก ที่สำคัญลู่ม่านยังต้องการทำการทดสอบดูก่อน เพราะฉะนั้น ที่ทั้งสองแบกได้ก็นับว่าเพียงพอแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...