ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 218

คำว่าพระราชโองการเป็นเหมือนระเบิดก้อนใหญ่ ระเบิดบรรยากาศรอบข้างเสียงดัง ‘ตู้ม’

คนพวกนั้นที่ยังทำท่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็รีบขยับเข้ามา แล้วมองเฉินจื่ออานด้วยรอยยิ้ม “จื่ออาน พระราชโองการอะไรเหรอ?”

เฉินจื่ออานมองดูพวกคนหน้าไหว้หลังหลอกพวกนี้ ถ้าไม่โกรธก็คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นจึงตอบกลับไปเสียงแข็งว่า “ข้าไม่รู้”

คนคนนั้นชะงัก สีหน้าเปลี่ยนไปทันที แล้วพูดประชดว่า “ไม่แน่อาจจะเป็นทหารที่จับตัวเจ้าก็ได้!”

เขาพูดแบบนี้ คนที่กำลังจะเข้ามาประจบประแจงก็เดินออกไปทันที

ผู้ใหญ่บ้านเฉินขมวดคิ้ว ถามเสียงเบาว่า “จื่ออาน เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

สำหรับผู้ใหญ่บ้านเฉินแล้ว เฉินจื่ออานยังพูดดีด้วย เขายิ้มแล้วพูดว่า “กลับไปท่านก็จะรู้เองขอรับ”

ว่าแล้ว เขาก็แบกพลั่วแล้วเดินกลับไป ตอนที่ผ่านหน้าตาแก่เฉิน เฉินจื่ออานก็เดินเข้าไปพูดว่า “ท่านพ่อ ไปรับด้วยกันเถอะ!”

ตาแก่เฉินเงยหน้าขึ้น มองเฉินจื่ออานด้วยสายตาที่ภาคภูมิใจ

“จื่ออาน พ่อรู้ว่าลูกต้องทำได้ พ่อดีใจแทนลูกมาก! แต่พ่อยังมีเรื่องที่ต้องทำ เจ้าไปเถอะ!”

“ท่านพ่อ……” เฉินจื่ออานสงสัย

“ตอนที่เจ้าลำบากที่สุด พ่อให้เจ้าแยกบ้านออกไป ต่อมาเพราะเรื่องของจื่อคัง ก็ทำให้เจ้าลำบากใจอยู่หลายครั้ง พ่อไม่มีหน้าไปรับเกียรติยศของเจ้าหรอกนะ”

เป็นแบบนี้นี่เอง……

เฉินจื่ออานรีบส่ายหน้า “พูดอะไรกันท่านพ่อ ท่านเป็นพ่อของข้านะ!”

ผู้ใหญ่บ้านเฉินที่อยู่ข้างๆก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้พี่รู้ตัวว่าผิดแล้ว ยังทันนะ ยังจำที่ข้าเคยพูดไว้ไหม? ตอนที่ไม่ควรลังเลก็อย่าลังเล รีบไปกับพวกเราเถอะ!”

เฉินจูชิงที่อยู่ข้างๆก็ฉลาด เห็นแบบนี้ก็รีบเข้าไปแย่งพลั่วในมือของตาแก่เฉินมา ตาแก่เฉินไม่มีพลั่วแล้วก็ไม่มีข้ออ้างที่จะอยู่ทำงานในที่นาต่อ จึงต้องตามพวกเขาไปแต่โดยดี

พวกคนที่เห็นแล้วก็รีบตามไปด้วยเหมือนกัน

พวกเขาเดินไปถึงหน้าประตูหมู่บ้าน คนที่อยู่ใต้ต้นไม้ต่างก็ยิ้มแย้มแจ่มใส เห็นเฉินจื่ออานมาก็รีบโอบล้อมเข้าไป “จื่ออาน ที่บ้านมีเรื่องดีอะไรเหรอ?”

เฉินจื่ออานตอบไปว่า “กลับไปก็รู้เอง”

เขาถูกรายล้อมโดยผู้คนจนไปถึงบ้าน เฉินจื่ออานเพิ่งเข้าบ้าน ก็เห็นกงกงที่มาเมื่อวาน เขามองเฉินจื่ออานด้วยรอยยิ้ม

“เฉินจื่ออาน บอกแล้วไงว่าวันนี้มาประกาศพระราชโองการ เจ้ายังจะไปทำงานอีกทำไม? เจ้าเป็นคนแรกที่มารับราชโองการโดยมีโคลนเปื้อนเสื้อผ้า”

เฉินจื่ออานรีบขอโทษ กงกงคนนั้นก็ปัดมืออย่างใจกว้าง “ยังไม่รีบเตรียมโต๊ะบูชา รับราชโองการอีก?”

โต๊ะบูชาเตรียมไว้นานแล้วล่ะ กงกงพูดจบ เหอเย่วก็รีบไปยกออกมา

เฉินจื่ออานใช้โอกาสนี้ปล่อยขากางเกงที่พับขึ้นลงมา รีบแต่งตัวให้เรียบร้อย ถึงเดินเข้าไปหากงกง ทั้งบ้านก็คุกเข่าลงพร้อมกัน

ตาแก่เฉินอยู่ข้างซ้ายของเฉินจื่ออาน ลู่ม่านอยู่ข้างขวา ผู้ใหญ่บ้านเฉินอยู่ข้างๆตาแก่เฉิน ด้านหลังคือเหอซาน เหอเย่วและเฉินจูชิง

เหยาซื่อมองเฉินหลี่ซื่ออย่างไม่อยากจะเชื่อ เหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าเฉินหลี่ซื่อจะใจดีขนาดนี้จริงๆ

เฉินหลี่ซื่อรีบอธิบายว่า “ที่บ้านมีไก่เยอะเกินไป กลัวว่าวันนี้พวกเจ้าจะมีไม่พอ”

“ขอบใจเจ้าค่ะท่านแม่!” ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม แล้วเรียกให้เหอเย่วไปรับไก่มา “พวกเราต้องการพอดีเลย”

เหอเย่วรีบไปฆ่าไก่และถอนขน เฉินหลี่ซื่อก็ทำหน้าที่ก่อไฟ หลิวซื่อกับเฉินเหมยเซียงเป็นผู้ช่วย เมื่อก่อนเหยาซื่อเคยเรียนทำอาหารกับลู่ม่านอยู่บ้าง จึงพอจะช่วยปรุงอาหารได้บ้าง

กงกงปกติก็อยู่กับฮ่องเต้ตลอด จะต้องรู้เรื่องสถานการณ์ในบ้านพวกเขาแน่นอน อีกอย่าง คนใกล้ตัวฮ่องเต้ ถ้าเขาไม่พอใจขึ้นมา พูดอะไรต่อหน้าฮ่องเต้ ก็จะเป็นผลกระทบร้ายแรงมากสำหรับชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเขา

ลู่ม่านจึงเอาความสามารถทั้งหมดที่มี ทำอาหารที่ดีที่สุดให้เขากิน

ลู่ม่านเตรียมเอาไก่และพริกมาทำเป็นไก่หั่นลูกเต๋าผัดซอส จากนั้นก็เอาเนื้อหมูมาทำหมูผัดซอสแดง ไหที่แตกเมื่อคราวที่แล้ว ตอนที่ลู่ม่านเปลี่ยนไหก็เก็บซีอิ๊วไว้เล็กน้อย

ถึงแม้รสชาติจะยังไม่เข้มข้นมากพอ แต่ให้พวกเขาที่ไม่เคยกินซีอิ๊วมาก่อนลองชิมก็ได้

หลังจากที่เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ลู่ม่านก็เตรียมทำซุปตุ๋นยาจีน ตุ๋นพวกหมูและไก่มาหั่นวางในจาน ในยุคนี้ มีน้อยมากที่สถเอาเครื่องเทศมาทำซุปตุ๋นยาจีน ทุกคนต่างก็รู้สึกว่านั่นเป็นยาสมุนไพร

แต่ไม่ว่าคนในยุคโบราณหรือยุคปัจจุบัน การยอมรับอาหารรสเลิศของพวกเขาก็เป็นเหมือนกัน

เครื่องเทศหอมขนาดนี้ พอรสชาติออกมาก็ส่งกลิ่นหอมโชยไปทั่ว ขนาดนั้นพวกทหารที่มาจากในเมือง ยังอดไม่ได้กลืนน้ำลายเอื๊อกๆ

อย่าว่าแต่คนอื่นๆในหมู่บ้านเลย ทุกคนต่างก็พูดชมกัน “นี่มันกลิ่นอะไรกัน? ทำไมถึงหอมขนาดนี้?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน