หลังจากที่ท่านหมอพูดจบ เขาก็สั่งยาบำรุงให้ตามปกติ จากนั้นจึงแนะนำวิธีการทานยา ก่อนที่จะเก็บค่ารักษาและค่ายา ก่อนจะออกไป
หลิวซื่อร้องไห้ด้วยความดีใจ “พระเจ้าเป็นใจ...”
เหอฮัวเองก็ดีใจรีบเข้ามาสัมผัสหน้าท้องที่แบนราบของหลิวซื่อ “ท่านแม่ คราวนี้ข้าหวังว่าท่านจะมีน้องชาย เช่นนี้ ท่านพ่อจะได้ดูแลท่านดีขึ้น”
แม้แต่ลูกยังรู้ว่า หลิวซื่อตั้งตารอเด็กคนนี้มานานแค่ไหน
หลิวซื่อกอดลูกสาวไว้ น้ำตาไหลริน
ลู่ม่านมองไปที่ท้องของหลิวซื่อด้วยความกังวล ที่จริงแล้ว ถ้านางเป็นหลิวซื่อ นางจะไม่เลือกตั้งท้องเลย แน่นอน ถ้านางคือหลิวซื่อนางคงทิ้งผู้ชายเฮงซวยคนนั้นไปนานแล้ว
ดังนั้น ความคิดของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน
พอเห็นว่าเฉินจื่อฟู่ไม่เห็นแก่ตัวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เห็นได้ชัดว่าตาแก่เฉินทำการสั่งสอนได้ไม่เลว หวังว่า เขาจะเป็นห่วงหลิวซื่อให้ดีบ้าง เป็นห่วงเด็กที่กำลังจะเกิดขึ้นมาบ้าง
ตอนนี้ท้องของหลิวซื่อยังเจ็บอยู่ ลู่ม่านจึงขอให้เหอเย่วไปต้มยาป้องกันการแท้งให้หลิวซื่อ หลังจากให้นางดื่มแล้ว นางก็พักผ่อนสักพัก ก่อนที่จะให้เหอฮัวไปเรียกเฉินจื่อฟู่มา
ในครั้งนี้เฉินจื่อฟู่รีบมาอย่างรวดเร็ว ดูจากท่าทางเขาน่าจะดีใจมากเช่นกัน
เหอฮัวรีบก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดยิ้มอย่างดีใจ “ท่านพ่อ ท่านแม่จะมีน้องชายแล้ว”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำว่า “น้องชาย” หรือเปล่าที่ทำให้เฉินจื่อฟู่ดูมีความสุขมากแบบนี้ แม้แต่เหอฮัวที่ปกติเขาไม่ชอบ เขาก็ยังยิ้มให้นางมากขึ้น
“เหอฮัวบอกว่าเป็นน้องชาย ก็ต้องเป็นน้องชายแน่นอน”
ในขณะที่เขาพูด หลิวซื่อก็ตื่นขึ้นมา ตอนที่นางกำลังจะลุกขึ้น เฉินจื่อฟู่ก็รีบเดินไปประคองนางไว้ “อย่าเพิ่งขยับแรง ค่อยๆ เดิน”
ความอ่อนโยนที่หาได้ยากของสามี ทำให้หลิวซื่อตาแดงก่ำด้วยความซาบซึ้งใจ
เฉินจื่อฟู่รีบเอื้อมมือออกไปและเช็ดน้ำตาจากหางตาของหลิวซื่อเบา ๆ “ร้องไห้ทำไม? เจ้าท้องอยู่จะร้องไห้ไม่ได้ เดี๋ยวคลอดลูกออกมาก็กลายเป็นเด็กขี้แยหรอก”
“ตกลง ข้าจะไม่ร้องไห้!” หลิวซื่อยิ้มอย่างเขินอายและก้มหน้าลง
เฉินจื่อฟู่คอยดูแลนางอย่างระมัดระวัง และทั้งสามคนก็กลับบ้านไปพร้อมกัน
ลู่ม่านมองดูพวกเขาเดินจากไป และพอนางเห็นหลิวซื่อซบอยู่ในอ้อมกอดของเฉินจื่อฟู่ ในใจที่จริงแล้วนางค่อนข้างจนใจ ที่แท้ ความปรองดองของครอบครัวหนึ่ง สามารถใช้ลูกเป็นสิ่งผูกพันจริงๆ
แต่ว่า ครอบครัวที่ใช้ลูกเป็นการผูกพันจะมีความสุขได้นานจริงหรือ?
ถ้าหลังจากความสุขจากชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้นมาถูกเจือจางไปกับชีวิตประจำวันที่แสนน่าเบื่อแล้ว สุดท้ายหลิวซื่อจะต้องเจอกับอะไร?
เรื่องที่กำลังตั้งท้อง ถือว่าเป็นข่าวดีที่หาได้ยากในบ้านเฉิน ในช่วงเย็นตอนที่เฉินจื่ออานกลับมา ก็ได้ยินเฉินจื่ออานบอกว่าทุกคนในบ้านเฉินดีใจกันมาก โชคยังดี ตอนนี้นางยังเดินได้สะดวก จึงให้หลิวซื่อไปที่วัดเป้าเอินในเมืองเพื่อทำการอบธูปเทียนสักการบูชา
ลู่ม่านขมวดคิ้ว “ไม่จำเป็นหรอกมั้ง?”
แต่เฉินจื่ออานกลับไม่ใส่ใจ “พวกท่านแม่ชอบก็พอแล้ว” หลังจากพูดจบ เฉินจื่ออานก็คีบผักให้ลู่ม่าน แล้วพูดยิ้มๆ “ข้าเห็นช่วงนี้เจ้าดูไม่มีความสุขเลย ตามไปเดินเล่นพักผ่อนด้วยกันได้ พอดีเลย ครั้งที่แล้วเราคุยกันว่าในช่วงวันไหว้บะจ่างจะไปเที่ยวพักผ่อนกัน แต่เราไปไม่สำเร็จ...”
ลู่ม่านนิ่งเงียบไปสักพัก แล้วพยักหน้าให้ “งั้นท่านก็ไปกับข้าด้วยแล้วกัน”
เฉินจื่ออานรีบส่ายหน้า “ข้าเกรงว่าตอนนี้ข้าจะถอนตัวไปไหนไม่ได้”
“งั้นข้าก็ไม่ไปเหมือนกัน ไปคนเดียวจะมีความหมายอะไร”
เฉินจื่ออานจึงได้แต่ยกยิ้มจนใจ “ได้ ข้าจะไปกับเจ้าด้วย!”
ลู่ม่านได้ยินแบบนี้ถึงได้ยิ้มออกมา “ต้องแบบนี้สิ!”
วันรุ่งขึ้น เฉินจื่อฟู่ก็หานถม้ามาจริงๆ บอกว่าเขาจะพาหลิวซื่อไปขอพรที่วัดที่วัดบนภูเขา พอรู้ว่าลู่ม่านกับเฉินจื่ออานจะไปด้วย เขาจึงเสนอให้ทุกคนไปด้วยกัน
ลู่ม่านหัวเราะอย่างจนใจ “ไม่มีอะไรแล้ว” ผู้ชายคนนี้ยังซื่อบื้อได้น่ารักเหมือนเดิน แต่ว่า มันก็แสดงให้เห็นว่า เขาปฏิบัติต่อนางเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไม่ใช่หรือไง?
ช่วงเย็น ตอนที่กลับมา หลิวซื่อก็ดูเหนื่อยล้ามากแล้ว
ลู่ม่านเดินไปเห็นว่านางดูสีหน้าไม่ค่อยดี จึงถามออกมา “การอาบน้ำอบกลิ่นธูปนี่ เหนื่อยมากเลยเหรอ ทำไมพี่สะใภ้รองดูอาการไม่ดีเลย”
เฉินจื่ออานมองไปทางเฉินจื่อฟู่ เขาเองก็ไม่รู้
เฉินจื่อฟู่ส่ายหัวเบาๆ “เหนื่อยมันก็เหนื่อย แต่ขอแค่ได้ลูกชาย ทุกอย่างที่ทำก็คุ้มค่า!”
ลู่ม่าน “...”
ในขณะที่เขาพูด สามเณรตัวน้อยก็ยกอาหารเย็นมาให้ ลู่ม่านจึงเรียกหลิวซื่อลุกขึ้นมาทานอาหารเย็นด้วยกัน
หลิวซื่ออาจจะเหนื่อยเกินไป เรียกอย่างไรก็ไม่ตื่น ลู่ม่านไปบอกเฉินจื่อฟู่ แล้วเฉินจื่อฟู่ก็เดินเข้ามาเพื่อสำรวจลมหายใจของนาง และถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ไม่เป็นไร พระพุทธเจ้าจะทรงอวยพรพวกเราแน่นอน”
หลังจากพูดจบ เขาก็บอกให้เฉินจื่ออานไปทานอาหารเย็นด้วยกัน พอเห็นว่าสีหน้าของลู่ม่านดูไม่ค่อยดี เฉินจื่ออานจึงกล่าวว่า “พี่รอง พี่ไปกินข้าวเถอะ อีกเดี๋ยวข้าค่อยตามไป!”
เฉินจื่อฟู่จากไปโดยไม่สงสัยอะไร
ทันใดนั้นเอง ลู่ม่านก็ยิ้มเยาะ และความโมโหในใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้น “เฉินจื่ออาน ถ้าในอนาคตท่านปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้ พวกเราก็หย่ากัน! ไม่มีการต่อรองเด็ดขาด!”
จู่ๆ เฉินจื่ออานก็รู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตราย “เจ้าจะโมโหก็ไม่ว่า ทำไมถึงโทษข้าล่ะ”
ลู่ม่านรู้สึกอธิบายไม่ถูกเช่นกัน และหายใจเข้าลึกๆ หลังจากผ่านไปได้สักพัก “ช่างเถอะ ข้าแค่คิดว่าพี่สะใภ้คนที่สองโง่เกินไป”
เฉินจื่ออานกอดลู่ม่านไว้ แล้วพูดออกมาเบา ๆ “ข้าไม่มีวันทำอย่างนี้กับเจ้าแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...