ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 249

“ข้าแค่พูดล้อเล่นหรอก!” ลู่ม่านพูด “จะว่าไป เงินของเราสองคนก็เหมือนเงินของคนคนเดียว เงินของเจ้าก็คือเงินของข้า เงินของข้าก็คือเงินของเจ้า!”

เฉินจื่ออานยังคงมีท่าทีอึดอัดใจน้อย ๆ “ถ้าอย่างนั้นน้องนางชอบอะไร ข้าจะซื้อให้เอง”

“เจ้าบื้อ!” ลู่ม่านยิ้มอย่างจนใจ “ถ้าอย่างนั้น...พวกเราไปดูกันดีกว่า ว่ามีอะไรดี ๆ บ้างหรือไม่ ซื้อของขวัญกลับไปให้ทุกคนน่าจะดีนะ?”

“ดีเลย!” พูดจบ ทั้งสองคนก็มุ่งหน้าตรงไปยังใจกลางเมือง

รอจนถึงตอนซื้อของ ลู่ม่านก็เริ่มนึกเสียใจภายหลังขึ้นมาซะแล้ว “ถ้ารู้อย่างนี้ขับรถม้าเข้ามาเองเลยก็ดีหรอก ซื้อขนาดนี้เอากลับไปไม่ไหวแน่ ๆ เลย!”

เสี่ยวเอ้อร์ในร้านได้ยินก็หัวเราะแล้วพูดว่า “แม่นาง ของทุกชิ้นของเราที่นี่สามารถจัดส่งไปถึงหน้าประตูบ้านของเจ้าได้ ถ้าเจ้าเห็นว่าวิธีนี้ถูกใจ ก็สามารถจ่ายเงินมัดจำสินค้า แล้วให้ที่อยู่จัดส่ง เพียงเท่านี้พวกเราก็สามารถนำสินค้าไปส่งให้เจ้าได้ ก่อนจะถึงกำหนดเวลาห้ามไม่ให้ออกจากเคหสถานยามค่ำคืนแล้ว”

มีเรื่องที่สะดวกสบายแบบนี้ด้วยสินะ ลู่ม่านรู้สึกอิ่มเอมใจคลายความหงุดหงิดลงทันที

เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นยุคปัจจุบันหรือยุคโบราณ พวกเมืองใหญ่ ๆ ก็มักจะสะดวกสบายกว่าเมืองทุรกันดารอยู่เสมอ

อันที่จริง พอมาลองคิด ๆ ดูว่าพวกเขาสร้างโรงงานที่เมืองหย่งอานแล้ว ระยะเวลาที่พวกเขาต้องมาที่เมืองนี้จะต้องเยอะขึ้นแน่ ๆ จะพักอยู่แต่ในโรงเตี๊ยมตลอดก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่

ระหว่างที่กำลังคิดอยู่ จู่ ๆ เฉินจื่ออานก็พูดขึ้นมาว่า “เสี่ยวม่าน ถ้าเจ้าอยากซื้อบ้านสักหลัง พรุ่งนี้พวกเราก็ลองไปดูกันสักหน่อยเถอะ”

แม่จ้าวโว้ย! นี่มันเทพชัด ๆ !

ลู่ม่านหันมองไปเฉินจื่ออานด้วยความประหลาดใจ เขาถึงกับคาดเดาความคิดของนางถูกจริง ๆ

"จื่ออาน...." เดิมทีลู่ม่านคิดว่าเขาคงจะไม่ยอม ในเมื่อครอบครัวตระกูลเฉินตั้งแต่รุ่นเก่าก่อนต่างก็อยู่กันในชนบท รากเหง้าของเฉินจื่ออานก็อยู่ที่หมู่บ้านไป่ฮัวด้วย

“เสี่ยวม่าน เจ้าอยู่ที่ไหน รากเหง้าของข้าก็อยู่ที่นั่น”

หัวใจของลู่ม่านละลายจนเหลวเป็นน้ำไปเรียบร้อยแล้ว ตัดสินใจได้ทันที "ได้! พรุ่งนี้ไปดูบ้านกัน" พูดจบก็สั่งจองสินค้าที่นางต้องตาเมื่อครู่ จากนั้นก็บอกเสี่ยวเอ้อร์ในร้านว่าอีกสองวัน ค่อยบอกที่อยู่จัดส่งให้กับคนส่งของ

หลังจากนั้น ก็ซื้อข้าวของที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันอีกมากมายตามสูตรสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นพวกหม้อ ไห กระทะ อ่างล้างหน้า ผ้าปูที่นอน ผ้าห่มผ้านวมต่าง ๆ

ลู่ม่านยังซื้อพวกเครื่องประดับและเครื่องเรือนจำนวนมากด้วย ความรู้สึกที่ได้ใช้เงินแบบเต็มที่มันช่างทำให้รู้สึกสดชื่นจริง ๆ โดยเฉพาะเงินรางวัลเหล่านี้ ก็เหมือนเงินที่ตกลงมาจากฟากฟ้า ใช้มือเติบแค่ไหนก็ไม่ต้องรู้สึกเสียดายซักนิด

หลังจากซื้อไปได้พอสมควรแล้ว ลู่ม่านค่อยกลับไปที่โรงเตี๊ยมพร้อมกับเฉินจื่ออาน

วันนี้ทั้งวันก็เหนื่อยมากเช่นกัน หลังจากอาบน้ำหวีผมอย่างง่าย ๆ แล้ว ทั้งสองก็นอนหลับพักผ่อน เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อพวกเขาตื่นนอน ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานก็ไปถามผู้ดูแลเกี่ยวกับหยาหาง *ที่อยู่ใกล้ ๆ (*หยาหาง- เป็นบริษัทหรือพ่อค้าคนกลางที่ช่วยเจรจาและแนะนำธุรกรรมสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายในตลาด แล้วค่อยเก็บค่าคอมมิชชั่น)

พอดีว่ามีหยาหางที่ดูแล้วไม่เลวอยู่ตรงกันข้ามกับโรงเตี๊ยมอวิ๋นหลาย ผู้ดูแลแนะนำให้โดยตรง ลู่ม่านกลัวว่าอาจจะมีคนมาหา จึงบอกผู้ดูแลว่าตัวเองออกไปทำธุระ ถ้ามีคนมาหาก็ให้เขาฝากข้อความไว้ก็พอ

หลังจากเตรียมการพร้อมแล้ว ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานก็ไปฝั่งตรงกันข้าม

หยาหางที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นบริษัทที่จัดตั้งอย่างเป็นทางการจริง ๆ ทันทีที่ทั้งสองเข้าไปแสดงความจำนง ก็ถูกแจ้งให้ทราบว่าต้องมีการวางเงินมัดจำเพื่อเป็นประกันทำสัญญา ซึ่งสิ่งนี้ค่อนข้างเหมือนกับการซื้อบ้านในยุคปัจจุบัน

ที่จริงก็ไม่มาก ประมาณสองร้อยเหวิน

ลู่ม่านจ่ายเงินเลยโดยตรง จากนั้นเจ้าหน้าที่ของหยาหางก็ยึดตามความต้องการของลู่ม่าน นำเอาข้อมูลเกี่ยวกับบ้านหลายหลังออกมาให้ดู

มีบางแห่งที่อยู่ไกลไปหน่อย แล้วก็มีบางแห่งที่อยู่ใกล้กับใจกลางเมือง แน่นอนว่าราคาย่อมต่างกันมาก ถนนวงแหวนรอบสามที่อยู่ในเมืองหลวง มันจะเหมือนกับถนนวงแหวนรอบห้าที่อยู่นอกเมืองหลวงได้ยังไงล่ะ?

เมื่อพิจารณาถึงความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตในวันข้างหน้า ลู่ม่านก็หาบ้านที่มีทำเลอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมาก แต่ก็ไม่ใช่ย่านที่เจริญรุ่งเรืองไปเลย หลังจากตกลงกันเรียบร้อย นายหน้าคนนั้นก็พาลู่ม่านกับเฉินจื่ออานออกมา

จากจุดที่พวกเขาอยู่ตอนนี้เดินทางไปโดยใช้เวลาราว ๆ ครึ่งก้านธูป พวกเขาก็เห็นสถานที่ที่คล้ายกับย่านที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่ง เมื่อดูจากภายนอกแล้ว ไม่เหมือนสถานที่อยู่อาศัยของคนยากจน

นายหน้าพูดว่า "แม่นางช่างมีสายตาที่เฉียบคมนัก มีฮูหยินของขุนนางหลายคนที่ชอบซื้อบ้านที่นี่เพื่อลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ ตอนนี้ดูไปแล้ว เหมือนว่าจะยังไม่ถึงกับเจริญรุ่งเรืองนัก แต่ประเด็นคือสะอาดถูกสุขอนามัย นอกจากนี้ เมืองหย่งอานของเรายังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คิดว่าใช้เวลาอีกไม่นาน ราคาบ้านของที่นี่คงจะถีบตัวสูงขึ้นมากแน่ ๆ!”

ลู่ม่านไม่ได้พักอาศัยที่เมืองหย่งอานบ่อยนัก ไม่ได้รู้ถึงสถานการณ์ของราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นางแค่ต้องการหาที่ที่เงียบสงบสักหน่อย เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยเท่านั้น

เพราะบ้านหลังนี้ทั้งหลังยังใหม่เอี่ยม ไม่มีร่องรอยของคนที่เคยอยู่อาศัย เครื่องเรือนที่จำเป็นจึงไม่มีเลยแม้แต้ชิ้นเดียว มีเพียงอุปกรณ์ที่ใช้ติดตั้งบางส่วนเท่านั้น

ดูในขั้นแรกนับว่าพอใจทีเดียว ลู่ม่านจึงเริ่มถามราคา

นายหน้าพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ทำเลที่ตั้งแถวนี้ราคาไม่แพงเท่าใจกลางเมือง บ้านใหญ่ขนาดนี้ราคาอยู่ที่แค่สามสิบ.....”

“ สามสิบพวง? ” ลู่ม่านคิดในใจ นับว่าค่อนข้างถูก

ผลคือ นายหน้าส่ายหน้าตรง ๆ “สามสิบตำลึงทอง!”

เฮือก!……

ลู่ม่านแทบจะสำลักกระอักเลือดเก่าออกมาให้กบปาก ก็รู้นะว่าในเมืองหลวงมันต้องแพง แต่ไม่คิดว่ามันจะแพงขนาดนี้น่ะสิ!

นายหน้าพูดจบ ยังอุตส่าห์พูดจาให้ดูเหมือนว่าพวกเจ้าได้เปรียบเห็น ๆ อีกว่า “พวกเจ้าโชคดีมากจริง ๆ นะ ที่ทันตอนครอบครัวนี้รีบร้อนขาย ถ้าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ น่ากลัวว่าถ้ามีไม่ถึงสี่สิบตำลึงก็คงจะซื้อไม่ได้แน่!”

นายหน้าคนเดิมพูดจบ ยังชี้ไปที่บ้านที่อยู่ข้าง ๆ กันแล้วพูดว่า “ที่อยู่ถัดไปนั่น ก็เพิ่งมาดูเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง ทันทีที่ได้ยินราคา ก็รีบตัดสินใจจองซื้อทันที เพราะกลัวว่าทางเจ้าของบ้านจะเกิดเปลี่ยนใจ..…”

คำพูดลักษณะนี้ล้วนแล้วแต่เป็นหลุมที่ขุดไว้ดักลูกค้าทั้งนั้น ลู่ม่านมองออกตั้งนานแล้ว จึงไม่รีบร้อนจองบ้าน บอกแค่ว่าจะขอกลับไปคิดดูก่อน

หลังจากกลับไป ลู่ม่านไปสอบถามกับผู้ดูแลอีกรอบ พบว่าสำนวนพูดของผู้ดูแล ก็คล้ายกับคำพูดของนายหน้า แต่ผู้ดูแลก็บอกด้วยว่าถ้าเรียกราคาแบบนี้ ไม่แน่ว่าต่อรองสักนิดสักหน่อยก็อาจพอเป็นไปได้

ในใจลู่ม่านมีบทสรุปที่แน่ชัดแล้ว จึงเดินกลับขึ้นไปชั้นบน

หลังจากใช้เวลาปรึกษาหารือกับเฉินจื่ออานหนึ่งคืน วันต่อมา ลู่ม่านก็พกเงินไปที่หยาหาง หลังจากใช้ทักษะสาลิกาลิ้นทองของลู่ม่านไปเจรจา ราคาซื้อขายสุดท้ายก็อยู่ที่ยี่สิบห้าตำลึงทอง

นายหน้าคนนั้นเอาแต่บ่นพร่ำรำพันไม่หยุดว่าไม่ได้เงินเลย แต่ลู่ม่านไม่สนใจ สุดท้ายก็นับว่าซื้อบ้านได้สำเร็จ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน