ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 268

หลิวซื่อลุกขึ้นมาเก็บข้าวของ ลู่ม่านก็ไปช่วย

หลิวซื่อเห็นแล้วจึงเอาชุดกระโปรงตัวหนึ่งมาเปลี่ยนชุดที่เปื้อนเลือด ตอนที่ลู่ม่านเดินไป ก็เห็นหลิวซื่อมองดูกระโปรงตัวนั้นอย่างเหม่อลอย

ลู่ม่านเห็นแล้วก็พูดปลอบขึ้นว่า “ข้าช่วยเจ้าเอาไปทิ้งไหม?”

“ไม่” หลิวซื่อหันไปเอากระโปรงตัวนั้นใส่ลงไปในถุง พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่เป็นเลือดลูกของข้า ทิ้งไม่ได้”

ที่จริง สิ่งที่ทำให้หลิวซื่อตัดสินใจตกลงหย่าก็เพราะลูก ลูกที่ไม่ได้รับการรอคอย เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของหลิวซื่อ

“เสี่ยวม่าน เจ้าช่วยข้าเชิญผู้ใหญ่บ้านมาได้ไหม?” หลิวซื่อพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ลู่ม่านพยักหัว แล้วก็เดินออกไป

เมื่อผู้ใหญ่บ้านรู้เรื่องนี้ ยังคิดว่าลู่ม่านล้อเล่น เขาไม่เชื่อเลยว่า หลิวซื่อที่ว่านอนสอนง่ายมาตลอด คิดจะตกลงหย่า?

ลู่ม่านพูดยืนยันหลายครั้ง เขาถึงจะยอมเชื่อ แล้วก็รีบเดินทางไปบ้านเฉินพร้อมกับลู่ม่าน

ในฐานะที่เป็นคนบ้านเฉิน เขาไม่อยากที่จะให้คนบ้านเฉินต้องอับอาย ดังนั้นลู่ม่านจึงเล่าเรื่องความเลวร้ายของเฉินจื่อฟู่ให้ผู้ใหญ่บ้านฟัง เพื่อให้ผู้ใหญ่บ้านเฉินจะได้ไม่ห้ามหลิวซื่อ

แต่แบบนี้ก็ยังรับประกันไม่ได้

เมื่อคิดไปคิดมา ลู่ม่านจึงกลับบ้าน ให้เฉินจูชิงไปบอกเหอฮัวที่โรงงาน ที่จริงในฐานะที่ลู่ม่านเป็นคนยุคปัจจุบัน คิดว่ายังไงเหอฮัวก็ต้องอยู่กับหลิวซื่อดีกว่า

แต่สถานการณ์ตอนนี้ หลิวซื่อต้องเผชิญหน้ากับคนทั้งหมู่บ้าน อาจจะยากที่จะเอาเหอฮัวไปด้วย

หลังจากลู่ม่านกลับไปอีกครั้ง หลิวซื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาเรียบร้อยแล้ว ในมือถือกระเป๋าเล็กเพียงใบเดียว ข้างในมีเสื้อผ้าเก่าเพียงไม่กี่ชุด

“ท่านผู้ใหญ่บ้าน ที่ควรพูดเมื่อกี้ข้าก็พูดแล้ว ตอนนี้ข้าจะตกลงหย่ากับเฉินจื่อฟู่ หวังว่าท่านจะเห็นด้วย”

ผู้ใหญ่บ้านเฉินขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “จื่อฟู่ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?”

เฉินจื่อฟู่หันไปมองดูตาแก่เฉิน ตาแก่เฉินแสดงท่าทีชัดเจน เขาไม่อยากให้ตกลงหย่ากัน เฉินจื่อฟู่ก็เหมือนกัน เขายอมที่จะหย่าเมีย ไม่ใช่ตกลงหย่า.....

การตกลงหย่าแสดงว่า เป็นความผิดของเขา จึงถูกเรียกร้องให้ตกลงหย่า

“ข้าไม่ตกลงหย่า” เฉินจื่อฟู่พูดขึ้นว่า “ไม่งั้นก็หย่าเมีย....”

“สารเลว” ตาแก่เฉินแทบกระอักเลือด พร้อมพูดขึ้นว่า “ใครตกลงให้เจ้าหย่าเมีย?”

“นี่เป็นเรื่องของข้า” เฉินจื่อฟู่พูดขึ้นมาอย่างโมโหว่า “เจ้าไม่ตกลงให้ข้าหย่าเมีย งั้นเราแยกบ้านกัน หลังจากแยกบ้าน เรื่องของข้า ข้าตัดสินใจเอง”

ตาแก่เฉินซ่อนความเหนื่อยล้าทั้งกายใจไว้ แล้วก็พูดขึ้นว่า “ดี เจ้าอยากแยกบ้าน ออกไปจากตระกูลเลยดีไหม? ข้าจะคิดว่าข้าไม่เคยมีลูกทรพีอย่างเจ้า”

เรื่องออกจากตระกูลยังไงเฉินจื่อฟู่ก็ไม่กล้า หลังจากออกจากตระกูลแล้ว ไม่มีคนในตระกูลยืนอยู่เบื้องหลัง ต่อให้ตายไปแล้ว ก็เข้าสุสานบรรพบุรุษไม่ได้

เฉินจื่ออานกล้า เพราะเขามีความสามารถ แต่เฉินจื่อฟู่เขาไม่กล้าจริงๆ

เฉินจื่อฟู่เม้นปากบูดเบี้ยว ยังไงก็ไม่กล้าพูดอะไร

หลิวซื่อหัวเราะเย้ย เดอนไปตรงหน้าตาแก่เฉิน คุกเข่าให้กับตาแก่เฉิน พร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อ ข้าแต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านเฉินตั้งแต่อายุสิบหก หลายปีมานี้ข้าปฏิบัติต่อท่านอย่างไรบ้าง?”

“ดีมาก เหมือนเป็นลูกสาวคนหนึ่ง”

“งั้น หากวันนี้ลูกสาวของท่านถูกกระทำเช่นนี้ ท่านจะบอกให้นางไม่ต้องตกลงหย่าหรือ?”

ตาแก่เฉินคิดไม่ถึงว่าหลิวซื่อจะถามเช่นนี้ จึงนิ่งอึ้งอยู่กับที่

“ข้า......”

“ขอร้อง พ่อให้ข้าไปเถอะ” หลิวซื่อพูดขึ้นมาอีกครั้ง

ในที่สุดตาแก่เฉินก็หันหน้าไป ไม่มองดูหลิวซื่ออีก พร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องของพวกเจ้า ข้าไม่ยุ่งแล้ว”

“ขอบคุณท่านพ่อ” หลิวซื่อพูดเสร็จ แล้วก็หันไปมองผู้ใหญ่บ้านเฉิน พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านผู้ใหญ่บ้าน ร่างหนังสือตกลงหย่าเถอะ ข้าไม่เอาอะไรเลย ขอเหอฮัวไปด้วยเท่านั้น”

“เหอฮัว” หลิวซื่อที่เพิ่งสูญเสียลูกไป หลังจากเห็นเหอฮัวก็ยิ่งเสียใจ ทั้งสองแม่ลูกกอดกันร้องไห้

หลังจากเหอฮัวร้องไห้สักพักแล้ว จู่ๆ ก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ เงยหน้าพูดขึ้นว่า “แม่ น้องชายล่ะ?”

ที่แท้เหอฮัวลูบท้องหลิวซื่อ เดิมที่นูนตรงนั้นราบเรียบแล้ว ถึงแม้นางยังเด็ก แต่ก็พอรู้อยู่บ้าง

เมื่อนางพูดขึ้นมาเช่นนี้ ชาวบ้านที่อยู่ด้านข้างคิดถึงก่อนหน้านี้ที่หลิวซื่อตั้งครรภ์ แล้วก็มองดูสาวงามที่อยู่ด้านข้าง กับท้องที่แบนเรียบของหลิวซื่อ ยังจะมีอะไรไม่เข้าใจอีก

“ที่แท้เจ้าสองของบ้านเฉินไปมีเมียน้อย ยังทำให้สูญเสียลูกที่มีกับภรรยา......”

“เมียน้อยของเขาคนนั้นก็ดูสวยดี”

“เมียน้อยอะไร พวกเจ้าดูไม่ออกหรือ เป็นผู้หญิงหอนางโลมต่างหาก....”

“หา?”

หลังจากได้ยินเช่นนี้ สายตาทุกคนที่มองบ้านเฉินต่างก็เปลี่ยนไป พาผู้หญิงหอนางโลมมาถึงบ้านแล้ว งั้นชื่อเสียงในบ้านของผู้หญิงจะดีหรือ?

เหอฮัวไม่รู้จักคำว่าผู้หญิงหอนางโลม นางได้ยินว่าลูกของแม่ไม่มีแล้ว ก็ร้องไห้ออกมาอย่างเสียใจ หันไปมองเฉินจื่อฟู่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดแค้น

หลิวซื่อรีบเอามือมาปิดตาเหอฮัว และก็เป็นกังวลขึ้นมา หากไม่พาเหอฮัวไปด้วย เหอฮัวอยู่ที่บ้านนี้ต้องแย่แน่

เป็นไงเป็นกัน นางลุกขึ้นมาแล้วเดินตรงไปหาเฉินจื่อฟู่ พร้อมพูดขึ้นว่า “เฉินจื่อฟู่ ข้าจะพาเหอฮัวไปด้วย เจ้าจะตกลงไหม?”

“ข้าไม่ตกลง” เฉินจื่อฟู่พูดขึ้นด้วยเสียงแข็ง

“งั้นใต้เท้าซวน.....” หลิวซื่อจึงจำต้องเอาเรื่องของเฉินจื่อคังมาข่มขู่ วันนั้นหลังจากนางเห็นเฉินจื่อคังในอำเภอ ก็มั่นใจแล้วว่าเฉินจื่อคังก็คือซวนเหวินลี่

ตอนที่ไปในอำเภอ ก็ใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ ถึงได้อยู่ต่อ เดิมคิดว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงเฉินจื่อฟู่ ตอนนี้คิดดูแล้วตนเองไร้เดียงสาอย่างมาก

“หุบปาก” หลิวซื่อเพิ่งพูดเสร็จ ตาแก่เฉินกับเฉินจื่อฟู่ก็พูดออกมาพร้อมกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน