นางถอนรากถอนโคนดอกไม้นั้นออกมา ลู่ม่านสังเกตดูดินพวกนั้น
ดินที่ติดรากมาด้วยเป็นดินในสวนของจวงลี่จ้ง ดูจากเนื้อดินแล้วก็ดูดีมาก ตามหลักแล้วน่าจะเหมาะแก่การเจริญเติบโตของพืชพันธุ์นะ แต่ดอกไม้นี้กลับยิ่งโตยิ่งเหี่ยว
“ฮูหยิน ดอกไม้นี้ดูท่าจะช่วยไม่ได้แล้วนะเจ้าคะ……”
ลู่ม่านส่ายหน้า “เพราะยังไงคุณชายจวงก็ช่วยพวกเราไว้ พวกเราควรจะทำอะไรตอบแทนเขาบ้างไม่ใช่หรือ?”
อันที่จริง ดอกกุหลาบป่าไม่ต้องใช้ดินที่ดีมากก็โตได้ ทนทานกับความแห้งแล้งได้ดี กำลังคิดอยู่นั้น นิ้วมือที่จับรากดอกกุหลาบของลู่ม่านก็เต็มไปด้วยไอน้ำ
นางเอียงหัวดู ก้นกระถางกำลังมีน้ำหยดออกมา
ถึงว่าล่ะ ดอกกุหลาบป่าทนกับความแห้งแล้งได้ แต่ทนกับน้ำไม่ได้ แปลงที่ดินตรงนั้นของพวกเขา ติดอยู่กับคลองน้ำแปลงที่ดินทดลองของกรมเกษตรพอดี ดังนั้นจึงทำให้มีน้ำขังได้ง่าย บวกกับที่คนในบ้านดูแลและสนใจดอกไม้ต้นนี้เป็นพิเศษ จะต้องมารดน้ำต้นไม้ทุกวันแน่
ดังนั้น ดอกไม้ต้นนี้ที่จริงตายเพราะน้ำต่างหาก
คิดได้ดังนี้ ลู่ม่านก็เอาจอบมา ขุดดอกกุหลาบป่าในกระถางออกมา
หรูอวี่อึ้ง คิดว่าลู่ม่านจะยอมแพ้เสียอีก จึงรีบพูดว่า “ฮูหยิน ท่านให้ข้าทำเถิด ข้าเอาออกไปทิ้งก็ได้แล้ว”
“ใครบอกว่าข้าจะทิ้ง?” ลู่ม่านพูดแล้ว ก็เอาดินส่งให้หรูอวี่ “เอาดินพวกนี้ออกไปตากแดด”
ถึงแม้หรูอวี่จะไม่เข้าใจ แต่ก็เอาไปตากแดดตามคำสั่ง
ลู่ม่านก็เอาดอกกุหลาบป่าไปวางไว้ที่เย็นๆและมีอากาศถ่ายเทดี ตรงรากมีดินเล็กน้อย โดนลมพัดอยู่หนึ่งวัน
รอถึงตอนบ่าย ดินพวกนั้นก็แห้งดีแล้ว ลู่ม่านก็เอามาปลูกดอกไม้ต่อ แล้วสั่งหรูอวี่ว่า “ช่วงนี้อย่าเพิ่งรดน้ำนะ”
“เจ้าค่ะ!” หรูอวี่พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ
พอทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เฉินจื่ออานก็กลับมาแล้ว
แตกต่างจากสถานการณ์ของลู่ม่านมาก เฉินจื่ออานบอกว่า ทางนั้นจัดการได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเลย
ลู่ม่านคิดแล้วก็เตือนเฉินจื่ออานว่า “หลี่ยวี่เป็นคนจำพวกที่ทำไม่สำเร็จก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ครั้งนี้เขาทำไม่สำเร็จ จะต้องหาทางอื่นแน่ ดังนั้น เจ้าอย่าเพิ่งประมาทไปล่ะ”
“อืม ข้าเข้าใจแล้ว” เฉินจื่ออานพูด
ลู่ม่านก็ถึงวางใจ แต่ว่า นางไม่ได้บอกเรื่องที่วันนี้จวงชิ่งเฟิงมา เดี๋ยวเขาจะเป็นห่วงเปล่าๆ
ผ่านไปอีกสองสามวัน ต้นกล้าพริกของเฉินจื่ออานก็โตขึ้นมาแล้ว พอดีเลย ช่วงนี้เพราะการจัดแจงของเฉินจื่ออาน ทั้งกรมเกษตรเหมือนพลิกผันไปหมด ที่เหลือก็ไม่กล้าเข้ามาที่แปลงทดลองอีก แทบจะไปอยู่ที่ศาลาว่าการกันหมด อยู่ห่างๆเฉินจื่ออานยิ่งไกลยิ่งดี
ลู่ม่านใช้โอกาสนี้ช่วยเฉินจื่ออานย้ายต้นกล้าพริกไปปลูกด้วยกัน หรูเฟิงกับหรูอวี่ เถียนโหย่วเต๋อพวกเขามาปลูกพร้อมกัน ใช้เวลาสองวันก็ปลูกต้นกล้าพริกลงดินได้หมดแล้ว
อากาศร้อน อุณหภูมิก็เหมาะสมพอดี ดังนั้น หลังจากที่ปลูกต้นกล้าพริกเสร็จแล้ว ต้นพริกเติบโตขึ้นอย่างราบรื่น แต่ละต้นดูแข็งแรงมาก
หลังจากที่ปลูกเสร็จแล้ว ที่เหลือก็มีแค่ปัญหาการดูแล ลู่ม่านกลัวว่าเฉินจื่ออานจะทำคนเดียวไม่ไหว พอมีเวลาว่างก็จะมาช่วยกันทำ
วันนี้ นางเห็นดอกกุหลาบป่าของจวงลี่จ้งกลับมาดีขึ้นแล้ว จึงเอามาคืนให้เขาด้วย นางวางดอกกุหลาบป่าไว้ในห้องโถง แล้วเดินไปดูเฉินจื่ออานที่ด้านหลัง
ทั้งสองยืนขึ้นพอดี หน้าประตูก็มีเสียงแหลมตะโกนขึ้นว่า “ฝ่าบาทเสด็จ!”
ลู่ม่านอึ้ง รีบสบตากับเฉินจื่ออาน ทั้งสองรีบวิ่งออกไปรับเสด็จ
“นั่นสิ!” หลี่ยวี่พูดไม่หยุด “เจ้าคงไม่ได้จะทำอะไรผิด ตอนนี้รู้สึกผิดล่ะสิท่า”
เฉินจื่ออานก็ถึงพูดว่า “งั้นฝ่าบาท เชิญพ่ะย่ะค่ะ!”
ว่าแล้ว เฉินจื่ออานก็พาทุกคนเดินไปที่แปลงที่ดินทดลอง ตลอดทั้งทางเต็มไปด้วยโคลนอย่างที่ว่าจริงๆ หลี่ยวี่เห็นแล้วก็ยิ่งมั่นใจเข้าไปใหญ่ว่าเมล็ดพันธุ์พริกทั้งหมดจะต้องเน่าหมดแน่ๆ
สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มสะใจ
“เฉินซือหนง ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนตอนงานวันเกิดฝ่าบาท เจ้าเคยบอกว่า ปีนี้จะต้องปลูกพริกชนิดนี้ออกมาให้ได้สินะ?”
หลี่ยวี่ตั้งใจพูดแบบนี้ก็เพื่อเตือนฮ่องเต้
ถ้าครั้งนี้เฉินจื่ออานเอาต้นกล้าออกมาไม่ได้ และไม่มีเมล็ดพันธุ์ล่ะก็ งั้นเฉินจื่ออานอาจจะมีความผิดที่โกหกฮ่องเต้ และถูกประหารตามบทลงโทษ!
หลี่ยวี่โหดร้ายมากจริงๆ
เฉินจื่ออานก็ต้องรู้ดีอยู่แล้ว เขาแค่ยิ้มแล้วตอบว่า “เรื่องที่ข้ากระหม่อมเคยสัญญาไว้ ไม่มีทางลืมอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
กำลังพูดอยู่นั้น ในที่สุดพวกเขาก็เดินมาถึงแปลงที่ดินที่ปลูกพริกไว้แต่แรก แปลงที่ดินนั้นยังคงรักษาสภาพแบบเดิมไว้ เมล็ดพันธุ์พริกขึ้นราหมดแล้ว
หลี่ยวี่หัวเราะแล้วพูดว่า “เฉินซือหนงหมายความว่ายังไงกัน? เมล็ดพันธุ์พริกเสียหมดแล้วหรือ?”
ฮ่องเต้ได้ยินแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที “เฉินซือหนง? นี่มันหมายความว่ายังไง?”
เฉินจื่ออานได้ยินแล้ว ก็กลับหลังหัน ชี้ไปยังแปลงที่ดินเขียวชอุ่มด้านหลัง “ต้นพริกที่ฝ่าบาทอยากเห็นอยู่ด้านหลังพ่ะย่ะค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...