บทที่ 28 ชะตาที่ฟ้าลิขิต
แน่นอนว่ามันไม่โอเค ถ้าหากเป็นไปได้ ใช้ปากเล็ก ๆที่เซ็กซี่ของเธอยังดีกว่า
แต่ผมก็ต้องยิ้มและยินยอมแต่โดยดี ในเมื่อมันเป็นครั้งแรกของเธอถ้าผมทำให้เธออายมันอาจจะทำให้เธออย่างผมก็เป็นได้ ผมจึงต้องทำให้เธอค่อยๆชินกับผมก่อน และหลังจากนั้นเธอก็ได้ใช้มือเล็ก ๆของเธอช่วยผมผอมเข็มขัดออก จากนั้นก็ได้งัดมังกรผมออกมาผงาด
และหน้าของหยู่ถิงก็แดงฉ่า จนผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันร้อนแรงของเธอ
ตอนที่เราได้นั่งบนเตียงกันนั้น เธอก็ได้นำเท้าที่ขาวเนียนสวยของเธอสัมผัสลงบนมังกรยักษ์ของผม แต่ทว่าดันมีเสียงโทรศัพท์มาขัดช่วงเวลานี้สะก่อน
หลังจากหยู่ถิงได้วางสาย เตรียมจะบอกกับผม ผมนั้นได้เตรียมสวมรองเท้าให้เธอแล้ว จุมพิตเธอเบาๆ
“ถิงถิงคุณอยู่ในใจผมเสมอ และผมก็รู้ว่าในใจของคุณก็มีผมเช่นกัน เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับคนอย่างผมแล้ว
หลังจากที่ช่วยถิงถิงใส่รองเท้า และขณะที่ผมกำลังจะเตรียมลุกขึ้นมาจะจูบเธอ แต่เธอก็ได้โน้มตัวลงมา
และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้นคือ เธอได้ใช้ปากและลิ้นของเธอกับมังกรของผม มันทำให้ผมซาบซึ้งใจเธอมาก
เธอได้ยืนขึ้นมาด้วยใบหน้าที่แดงฉ่า และพูดกับผมว่า “ฉันไปก่อนนะ เก็บมันไว้ให้ฉันนะ ครั้งแรกของมันต้องเป็นแค่ฉันเท่านั้น”
หลังจากที่พูดจบ เธอก็ไม่รอให้ผมพูดอะไรต่อและรีบเดินออกไปด้วยความเขินอาย และได้ตรงลิ่วไปที่รถแล้วซิ่งออกไป
หลังจากที่มองรถออดี้ขับออกไปไกลแล้ว และผมรู้ว่าตอนนี้ผมมัดใจถิงถิงได้ในขั้นนึงแล้ว แต่คงติดแค่ตรงที่ปัญหานอกกายแค่เท่านั้นสิ่งที่ผมต้องการจากเธอนั้น คือให้เธอไม่สามารถขาดผมได้ ถ้าในจุดนี้ยังนับว่า ไกลพอสมควร
และผมก็ได้ยินเสียง “จี๊ดๆ”จากในครัว ดังมาสักพักแล้ว แต่ผมไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งหยู่ถิง
กลับไปแล้ว ผมถึงนึกออกว่าได้ต้มน้ำไว้ที่ครัว และก็ได้รีบไปที่ครัวเพื่อปิดแก๊ส
วันเวลาผ่านไปและผมก็ได้ใช้ชีวิตที่แสนจะธรรมดาถึงขั้นพูดได้เต็มปากว่า เป็นชีวิตที่จืดชืดไร้สีสันใด ๆ เกือบหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ การฝึกมารยาทผู้ดี การเพิ่มความรู้ในด้านๆ พี่ก็ขนเอามาให้ผมเรียน เหมือนโยนหนังสือกองเท่าภูเขามาให้ผมอ่านยังไงอย่างงั้น หัวแทบจะระเบิดแล้วเนี่ย
วันนี้เป็นวันที่ผมต้องไปตรวจร่างกายอีกรอบ ไม่ต้องไปสนหรือรับรู้เรื่องน่าเบื่อพวกนั้นแล้ว
หลังจากที่มาถึงโรงพยาบาล ผมก็ได้มาตามคำที่กำชับผมของโจงเฉียวเฉียว
วันนี้เธอไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ หลังจากที่เธอมาที่ผม ก็ได้พาผมไปตรวจที่ห้องว่างในสุด
“ถอดเสื้อผ้าออก”
เธอเป็นถึงหมอ และที่นี่ก็เป็นโรงพยาบาล และแน่นอนว่าผมต้องเช่อฟังในสิ่งที่หมอพูด และได้ถอดเสื้อผ้า
โจงเฉียวเฉียวก็พูดอย่างหน้าแดงว่า “ฉันหมายถึงให้นายถอดเสื้อ นายจะถอดกางเกงทำไมล่ะ”
แน่นอนว่าที่ผมถอดกางเกงเพื่อจ้องจะแต๋ะอั๋งเธอไง จะเป็นอะไรได้อีกล่ะ แต่มันจะเป็นไปได้เหรอ บ้าละฮ่า ๆ
“ผมคิดว่าชาตินี้คงจะไม่มีโอกาสได้เจอกับคุณอีกแล้ว แต่โชคชะตาก็ทำให้เรากลับมาเจอกันอีก ถ้าหากว่าแผลเย็บสิบแปดเข็มนี้คือพรหมลิขิตทำให้เรากลับมาพบกันใหม่ ผมก็ยอมที่จะเย็บอีกร้อยเข็มพันเข็ม เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณ....”
ผมได้พูดออกไปหลายสิ่ง ทุก ๆประโยคนั้นล้วนออกมาจากใจจริงของผม ล้วนออกมาจากความรู้สึกที่ผมมีให้ต่อเธอ และผมสัมผัสได้ว่าโจงเฉียวเฉียวหายใจแรงขึ้น ดูลุกลี้ลุกลน ดูไม่เป็นระเบียบ แสดงออกถึงใจของเธอกำลังสับสน
”และผมก็ได้ลุกขึ้น โอบกอดเธอเข้ามาหาผมเบาๆ”ผมชอบคุณนะ และใจดวงนี้ของผมมันก็ไม่เคยเปลี่ยนไป”
“โจงเฉียวเฉียวพยายามจะดิ้นออกจากผม แต่แรงออกเธอนั้นน้อยมาก เธอไม่สามารถดันผมออกไปได้”
“ฉันต้องขอบคุณความรู้สึกดี ๆของนายที่มีให้ฉันนะ เฉินเฟิง ฉันซึ้งมากถ้าหากตอนนี้ฉันยังไม่มีใครล่ะก็ ฉันยินดีที่จะใช้ชีวิตที่เหลือด้วยกันกับเธอ แต่ว่า...ตอนนี้ฉันมีแฟนแล้ว และเราก็กำลังจะจดทะเบียนสมรสกัน ต้องขอโทษด้วยนะ”
เฉินเฟิงได้เชยคางของโจงเฉียวเฉียว และมองเธอด้วยความรู้สึกอันลึกซึ้ง “ฉันชอบเธอ เธอทำให้ฉันหลง การที่เราได้เจอกันอีกครั้ง มันต้องเป็นสิ่งที่ชะตาลิขิต การตัดสินใจของเธอ มันสำคัญเท่ากับโชคชะตาเลยเหรอ?”
ตอนแรกเธอยังปฏิเสธและขัดขืน แต่หลังจากผมได้มอบจุมพิตอันแสนหอมหวานไป เธอก็ไม่มีวี่แววที่จะขัดขืนผม มิหนำซ้ำเธอยังให้ความร่วมมือ
ลมหายใจเร่าร้อนและถี่นั้น ก็พิสูจน์ได้ทุกอย่าง
เริ่มละเลงจากปากที่ชวนให้คนหลงใหล ไปยังซอกคอที่ขาวออร่า และได้เคลื่อนลงไปยังกกหู บวกความความรู้สึกทั้งหมดที่ผมได้ไหลลงไป นั้นทำให้โจงเฉียวเฉียวสมาธิไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและผมด้เริ่มถลำลึกเข้าไปเรื่อย ๆ
หลังจากนั้น ผมก็ได้ถอดเสื้อคลุมที่ผมได้ถอดกระดุมอ้ารับไว้ตั้งแต่แรกออก จากนั้นก็ได้ใช้มือสำรวจไปยังเนินภูเขาสองลูกใหญ่นั่น..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+