ดวงตาของเซียวเฉวียนสว่างแวววาว เขาเข้าใจลักษณะเฉพาะของคนโบราณเป็นอย่างดี พวกเขาจะยึดมั่นคำสัญญา ไม่เกี่ยงเรื่องความเป็นความตาย
คุณสมบัติลักษณะนี้ จะโดดเด่นอยู่ในตัวไพร่คุนหลุน
"ลองว่ามาซิ"
ชายผู้นำกล่าวอย่างหนักแน่น ดูเหมือนว่าเขามีฐานะค่อนข้างดีในอ้านย้วน ทุกครั้งที่เขาเอ่ยปาก ไพร่คุนหลุนคนอื่นๆ จะตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ
"ถ้าฉันเซียวเฉวียนสามารถปล่อยพวกเจ้าทุกคนพ้นจากการเป็นไพร่ได้ ถ้าวันข้างหน้าตระกูลเซียวมีความต้องการ พวกเจ้าจะตอบแทนบุญคุณของการพ้นไพร่ครั้งนี้"
เซียวเฉวียนช่วยเหลือผู้คน และหวังผลตอบแทน
เขาไม่ใช่ปราชญ์ เขาทำดีช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ขอให้ผู้อื่นตอบแทนเขาทุกอย่าง แต่อย่างน้อยผู้อื่นต้องรู้สึกถึงบุญคุณนั้น
ชายคนนั้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ตกลง”
ไพร่คุนหลุนไม่มีอะไรจะเสีย มีเพียงชีวิตเดียว ตอบตกลงก็ไม่เห็นจะเป็นไร
ขอให้ได้หลุดพ้นจากการเป็นไพร่ ใช้ชีวิตได้อย่างมนุษย์ พวกเขาก็เต็มใจที่จะตาย
"ไป่ฉี ไปกันเถอะ"
เซียวเฉวียนหันกลับมาและกำลังจะจากไป ชายคนนั้นผงะ "คุณชายเซียว เดี๋ยวก่อน ทำสัญญา คุณไม่ทำหนังสือเป็นหลักฐานหรือ"
เมื่อใดก็ตามที่ทำข้อตกลง จะต้องเขียนเป็นหนังสือกระดาษสีขาวตัวอักษรสีดำและพิมพ์ลายนิ้วมือด้วย
"ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้น วาจามีค่าเยี่ยงทองคำและหยก พวกเราเพียงตกลงกันด้วยคำพูด ตราบใดที่เจ้ากับฉันซื่อสัตย์ต่อกัน คำพูดก็ถือเป็นสัญญา แต่ถ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน มีอักษรขาวอักษรดำแล้วจะมีประโยชน์อะไร?"
เซียวเฉวียนดูเฉยเมยอย่างมาก และดูเหมือนจะไว้ใจพวกเขาอย่างมากด้วย
ไพร่คุนหลุน ไม่เคยเห็นผู้รู้หนังสือเช่นนี้มาก่อน
เท่าที่ผ่านมาพวกผู้รู้หนังสือมองพวกเขาเหมือนหมูและสุนัข มองพวกเขาก็ไม่เคยมากกว่าหนึ่งครั้ง
มีเพียงเซียวเฉวียนเท่านั้นที่สายตาส่งประกายอบอุ่น ในสายตาของเขา พวกเขาดูเหมือนจะเป็นคนปกติ
เซียวเฉวียนกระโดดขึ้นหลังม้าเหงื่อโลหิต เปล่งเสียงเหมือนดั่งระฆัง "เซียวเฉวียนขอตกลงกับพวกเจ้า! ถ้าฉันเซียวเฉวียนทำให้พวกเจ้าไม่เป็นไพร่อีกต่อไป วันข้างหน้าถ้าตระกูลเซียวมีภัยต่อชีวิต พวกเจ้าต้องช่วยฉัน พวกเจ้าจะเต็มใจสาบานว่าจะรักษาทำตามสัญญานี้ไหม?"
ลมแรงพัดอู้ๆ ทรายปลิวว่อนกวนตา
เสียงของไพร่คุนหลุนราวกับเสียงฟ้าร้องในทะเลทราย ตอบกลับพร้อมเพรียงกันว่า "พวกเรา! สัญญา!"
"ตกลง! รอข่าวดีของฉันแล้วกัน!" เซียวเฉวียนจิตใจท่วมท้นและทำคำนับ "ฉันเซียวขอตัวก่อน! อีกสามวัน ฉันเซียวจะจัดงานเลี้ยงที่ตึกหมิงเยว่ ถ้าพวกเจ้าอยากมา ก็เชิญ!"
นี่เป็นบุคคลแรกที่แสดงคำนับต่อไพร่คุนหลุน
เขาเป็นปัญญาชนคนแรกที่เรียกตัวเองว่าเซียวและใช้คำสุภาพต่อหน้าพวกเขา
ทั้งเป็นคนแรกที่เชื้อเชิญไพร่คุนหลุนไปทานอาหาร
ด้วยความตกตะลึง พวกเขาตอบคำนับโดยจ้องตาของเซียวเฉวียน แสดงความเคารพในสายตาของพวกเขา
"ไป่ฉี ฉันจะไปที่จวนฉินก่อน คุณพาครอบครัวของคุณกลับไปที่บ้านของเซียว!"
"เจ้านาย......" ไป่ฉีผงะไปครู่หนึ่ง เซียวเฉวียนหันกลับมามอง "ต่อไปนี้ สมาชิกในครอบครัวคุณจะเข้ามาร่วมตระกูลเซียว"
ไป่ฉีน้ำตาเต็มเบ้า เซียวเฉวียนยิ้มเบาๆ "อย่าลืมคัดเลือกพนักงานสำหรับร้านอาหารและบ่อนพนันด้วย"
ที่นี่เป็นสถานที่ที่ไป่ฉีเติบโต รู้ทั้งรากและเหง้า เรื่องของคัดเลือกบุคคลนั้น ให้ไป่ฉีไปจัดการดีที่สุด
เซียวเฉวียนมาที่อ้านย้วนวันนี้ เดิมที่คือตั้งใจที่จะมาคัดเลือกคน ใครจะไปรู้องค์จักรพรรดิถือโอกาสทำเช่นนี้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บมากมาย ตอนนี้เขาก็ต้องมาส่งฉินเฟิงกลับไปยังจวนฉิน
ฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนใหญ่เจ็บที่ศีรษะและไหล่ โชคดีที่ยังไม่ถึงแก่ชีวิต
ในบรรดาคนที่ฉินเฟิงนำมานั้น มีเพียงสองสามคนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ละคนไม่ขาดมือก็ขาดขา คนเดียวที่สามารถส่งฉินเฟิงกลับบ้านได้คือเซียวเฉวียน
ตอนที่ฉินเฟิงเป็นลมหมดสติ เขายังกำดาบดีๆ เล่มนั้นไว้ในมืออย่างแน่น ดาบเป็นดาบที่ดี แต่ทำไมดูเหมือนเป็นของรักของหวงขนาดนั้น เซียวเฉวียนส่ายหัว ได้แต่ปล่อยให้เขากอดแน่นๆ ไว้อยู่อย่างนั้น
ที่เมืองหลวง
เซียวเฉวียนควบม้าเหงื่อโลหิตปรากฏตัวบนถนน ทันใดนั้นก็ดึงดูดความสนใจของทุกคน
ประการแรก ม้าตัวนี้ดีมาก
ประการที่สอง เซียวเฉวียนเป็นเจ้าของม้าตัวนี้ด้วย?
ประการที่สาม คนที่นั่งพิงหลังของเซียวเฉวียนดูเหมือนหุ่นเชิดที่สายเชือกขาด ดูทุลักทุเลมาก ผู้สัญจรไปมาต่างตกตะลึงเพราะจำไม่ได้ว่าเป็นใคร พวกเขามองอย่างสงสัย คนๆ นี้มีชีวิตหรือตายไปแล้ว?
ทั้งสองคนโชกไปด้วยเลือด ดูน่ากลัวอย่างมาก
เลือดส่วนใหญ่บนร่างของพวกเขาเหือดแห้งไปแล้ว ส่งกลิ่นคาวเลือดอย่างรุนแรง ซึ่งแม้ความหนาวเย็นของปลายฤดูใบไม้ร่วงก็ยังไม่อาจผ่อนเบาได้
ทุกคนต่างปิดจมูก ลุงเขยบ้านฉินคงไปก่อปัญหาเรื่องใหญ่มาแน่ๆ!
ที่จวนตระกูลฉิน
พอเซียวเฉวียนมาถึงหน้าประตูใหญ่ คนรับใช้ที่เฝ้ารอคุณชายใหญ่ต่างตกตะลึง ทำไมลุงเขยถึงกลับมาเอง?
คุณชายใหญ่อยู่ไหน?
หัวของฉินเฟิงห้อยลง ใบหน้าที่เปื้อนเลือดของเขายังพอแยกแยะโฉมเดิมได้อย่างชัดเจน
ความเงียบ......
เงียบ......
คนรับใช้อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
ไม้เท้าของท่านยายฉินเกือบจะร่วงหล่นลงกับพื้น
ฉินซูโหรวนิ่งทื่อไปทั้งตัว ทำไมเซียวเฉวียนเป็นคนส่งพี่ใหญ่ของเธอกลับมา?
“ยังงงทำอะไรอยู่ วางตัวคุณชายใหญ่ลงมา!” ท่านยายฉินที่กลับมามีสติก่อนพูดขึ้นอย่างร้อนใจ ไม่คิดว่า เซียวเฉวียนกลับห้ามไว้
”เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก จะถูกยื้อยุดขยับเขยื้อนไม่ได้ ต้องเข้าไปข้างในบ้านก่อน”
กฎระเบียบให้ลงจากหลังม้าที่ประตูใหญ่ จะให้ฝ่าฝืนง่ายๆ ได้หรือ?
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของตระกูลฉิน
ท่านยายฉินมือบีบไม้เท้า เซียวเฉวียนเห็นแล้ว จึงทำท่าจะปลดเชือกและวางฉินเฟิงลง "ไม่ให้เข้าก็ไม่เข้า ไหนๆ คนที่จะตายก็ไม่ใช่ฉัน"
ทุกคนตกใจ จึงรีบบอกให้หยุด
"เดี๋ยว! เดี๋ยว!" ท่านยายฉินไม่อาจคำนึงอะไรได้มากกว่านี้ "เข้าทางประตูด้านข้าง! เข้าทางประตูด้านข้าง!"
"ม้าของฉันนี้ จะเข้าทางประตูหน้าเท่านั้น"
เซียวเฉวียนไม่แยแส ตระกูลฉินผงะ และในที่สุดก็เข้าใจว่าเซียวเฉวียนกำลังจงใจกลั่นแกล้ง!
”คุณ!” ฉินซูหรวตะโกน ใบหน้าที่สวยงามของเธอแดงระเรื่อดูงามยิ่งขึ้น “เซียวเฉวียน คุณยังเป็นคนที่รักษากฏอีกหรือ?”
"ไม่ใช่แค่ม้าที่ต้องเข้าทางประตูหน้า แต่ตระกูลเซียวของฉันก็ต้องเข้าทางประตูหน้าเช่นกัน"
เซียวเฉวียนยืนยันจริงจังและไม่ยอมให้ตระกูลฉินปฏิเสธ ไม่ต้องเดาเขาก็รู้ว่าตอนที่แม่เขามาขอร้องตระกูลฉิน ต้องได้รับความอัปยศอดสูและทนดูสีหน้าพวกเขามาไม่น้อย
ตอนนี้เขาเป็นคนที่นำฉินเฟิงกลับมา คนของตระกูลฉินก็ต้องดูสีหน้าของเขาเช่นกัน
"หลานชายฉัน......" ท่านยายฉินเช็ดน้ำตา ฉินเฟิงตอนนี้ดูเป็นคนก็ไม่ใช่ผีก็ไมเชิง คงไม่สามารถทนทรมานได้อีก
นางยกมือที่อ่อนแรงขึ้น “ให้ลุงเขยเข้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...