ด้วยความที่มีผู้สมัครจำนวนมาก ฐานะที่ต่ำที่สุดคือเซียวเฉวียน ต้องโดนรังแกแน่นอน อีกอย่าง ตึกหมิงเยว่ยมีแต่สาวสวยที่ค่อยบริการตลอด ผู้หญิงพวกนี้ทั้งงดงามและมีเสน่ห์ แต่ละคนสวยมากๆ ถ้าพี่สาวรู้เรื่องนี้ เธออาจจะหักขาพี่เขยของเขาก็เป็นได้
"จะตีขาฉันหักเลยเหรอ? งั้นก็ต้องยิ่งไปเลย!"
เซียวเฉวียนหัวเราะ จากนั้นก็เข้าไปนั่งในรถม้าของเว่ยชิง ถึงแม้ว่าฉินหนานจะรังเกียจขนาดไหน เขาก็ยิ่งอยากเห็นหยางจูเกลียดเขามากแค่ไหน
ฉินหนานกระทืบเท้าไม่พอใจ ดึงฉินเป่ยขึ้นหลังม้าและตามไป
กลุ่มวัยรุ่นที่มีความสุขจากเมืองหลวง กำลังขี่ม้าเข้าสู่เมืองที่โรแมนติก
เสียงเกือกม้าที่ดังและแข็งแรง คนที่เดินอยู่ข้างๆ ก็หลีกทางให้เรื่อยๆ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าใครอยู่ในรถม้า แต่พวกเขาก็ก้มหัวทำความเคารพ เมื่อเห็นเศรษฐีกำลังเข้ามาเที่ยว เปรียบเสมือนว่าถนนเส้นทางนี้เป็นของพวกเขา
นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวเฉวียนนั่งอยู่ในรถและเห็นภาพแบบนี้ ความสุขของคนมีอำนาจมันเป็นแบบนี้เอง
ทุกคนก็เปรียบเหมือนกับนก แถมลูกหลานของคนรวยก็อยู่เหนือพวกเขา แค่เดินทางแค่นี้ก็สามารถทำให้ตัวเองเหนือกว่าพวกเขาได้
ข้างในรถม้า เว่ยชิงบอกว่า "หยางจูคนนี้ไม่ธรรมดา ที่เชิญมากินข้าว เผลอๆ อาจจะเป็นมื้อสุดท้ายก็ได้"
เซียวเฉวียนหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
จูเหิ่งโดนจับ และถูกโดนให้ตัดคอ ครอบครัวของเขาจะปล่อยเขาไปได้อย่างไร?
เซียวเฉวียนไม่กลัว ปีศาจพวกนี้ไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้
เขาขอแค่ว่าได้กินกันอย่างมีความสุข ส่วนที่เหลือ ไป่ฉีจะช่วยเขาจัดการเอง
เว่ยชิงชำเลืองมองไปที่ไป่ฉีที่นั่งเงียบๆ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนใช้มานั่งที่รถม้าของเขา เขาเริ่มไอแห้งๆ "พี่เซียว เขาเป็นคนฆ่าหนุ่มหน้าตาดีนั้นเหรอ?"
“อืม ใช่” เซียวเฉวียนตบไหล่ของไป่ฉีอย่างชื่นชมพร้อมกับความภูมิใจ
เว่ยชิงรู้สึกกลัว และเงียบปากของเขา วันนั้น เขาเห็นหัวของเซินหยาง เป็นรอยแผลที่เรียบร้อยมาก ดูก็รู้ว่าไป่ฉีไม่ใช่คนธรรมดา แถมดาบก็ไม่ใช่แบบธรรมดา
มื้ออาหารในวันนี้ อาจจะเป็นมื้อสุดท้ายจริงๆ ก็ว่าได้
ตึกหมิงเยว่ยเป็นร้านอาหารอันดับหนึ่งในเมืองหลวง เป็นร้านที่ดังมากๆ และภายในร้านตกแต่งได้สวยงาม อาหารรสเลิศนับไม่ถ้วน และไวน์ที่สามารถทำให้เมา
งานอดิเรกประจำวันของคนที่มีฐานะและมีอำนาจในเมืองหลวง ไม่มีทองคำสิบตำลึง อย่าหวังว่าจะได้เข้าร้าน
การใช้จ่ายแบบนี้ มันเกินความสามารถของคนทั่วไป เงินที่หามากี่สิบชาติก็ไม่พอที่จะมาใช้บริการที่นี่ ทำได้แค่มองดูอยู่ข้างนอก และจินตนาการได้ว่าอาหารชั้นยอดนั้นอร่อยขนาดไหน และความสวยงามภายในร้านนั้นอบอุ่นและสวยงาม
สมัยก่อน ใครก็ตามที่ชนะจากการสอบ ทางเมืองหลวงจะเชิญมาทานอาหารที่ตึกหมิงเยว่ย และจะสั่งอาหารที่ขึ้นชื่อของร้านอาหาร
เซียวเฉวียนและคนอื่นๆ หาโต๊ะที่ใหญ่ที่สุด วันนี้หยางจูเป็นคนจ่าย พอมาถึงเขาก็สั่งอาหารที่ขึ้นชื่อของที่นี่ทันทีที่เขามาถึง
มันน่าตลกจริงๆ ผลการสอบระดับมณฑลยังไม่ออกมาเลย หยางจูก็ชวนมาเลี้ยงอาหารกันแล้ว ดูเหมือนว่าความบ้านี้ไม่ได้เป็นแค่เซียวเฉวียนคนเดียว
เซียวเฉวียนเงยหน้าขึ้นมอง ที่นี่เป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีทั้งหมดเก้าชั้น
ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดในการดูพระจันทร์ในเมืองหลวงแห่งนี้ มันจึงถูกตั้งชื่อว่าตึกหมิงเยว่ย
ตึกหมิงเยว่ยอยู่ห่างจากพระราชวังไม่ใกล้ไม่ไกล ว่ากันว่าตึกหมิงเยว่ยเป็นสมบัติของพระราชวัง เป็นที่ที่ไม่สามารถจับผิดได้ แต่มีความจริงอย่างหนึ่งคือวัตถุดิบของที่นี่เป็นของจริง
มีกลิ่นอาหารหอมอบอวลไปทั่วร้าน ภายในอาคารมีแต่ความครึกครื้น ผู้คนฐานะร่ำรวยจากเมืองหลวงชอบมารวมตัวกันที่นี่ ทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม แต่พอมีเซียวเฉวียนมาด้วย เขากลับกลายเป็นคนที่แต่งตัวไม่ได้เรื่องที่สุด
พอเจ้าของร้านได้ยินว่ามีคนสั่งอาหารที่ขึ้นชื่อในร้าน เขาจึงต้องมาดูด้วยตาตัวเอง "โอ้โห้ ที่แท้ก็เป็นนายท่านนั้นเอง ยินดีต้อนรับครับ!"
"เอาอาหารทั้งหมดที่มีในร้านมาเสิร์ฟให้หมด วันนี้เซียวผู้เป็นหนึ่งของเรามาเป็นครั้งแรก ให้เขาได้เปิดหูเปิดตาหน่อย" หยางจูทำเหมือนตัวเองเป็นพี่ชายคนโตที่พูดอวดเซียวเฉวียน ดูเหมือนว่าพอเขายิ่งใจกว้างเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เซียวเฉวียนต่ำต้อยยิ่งขึ้น
เจ้าของร้านนิ่งพักหนึ่ง และมองไปทางเซียวเฉวียน
ชายผู้นี้มีความสง่างามมีดวงตาที่แปรงประกาย ไม่มีความเกรงกลัวใดๆ เสื้อผ้าของเขาดูไม่เหมาะกับคุณชายกลุ่มนี้ แต่พอดูดีๆแล้ว เขาก็คิดว่าไม่คู่ควร
ณ เวลานี้ เซียนเฉวียนรู้สึกแปลกใจรู้สึกว่าตึกหมิงเยว่ย เป็นโครงสร้างแบบการต่อไม้ เป็นการต่อไม้ที่มีทิศทางเดียวกันมันเป็นโครงสร้างของอาคารจีนโบราณ ถูกคิดค้นโดยกลุ่มช่างไม้ชาวจีน ไม่คิดเลยว่าต้าเว่ยจะมีการใช้เทคนิคแบบนี้
ด้านนอกของตึกหมิงเยว่ยคล้ายกับอาคารทั่วไป แต่สำหรับข้างในสวยงามมากๆ ประเทศจีนสมัยนี้ อาคารที่ทำจากการต่อไม้ไม่ได้มีอีกแล้ว
อาหารมื้อนี้จะกินหรือไม่กินมันไม่สำคัญ มาที่นี่ได้เห็นวิธีการสร้างอาคารแบบนี้ เซียวเฉวียนถือว่าแค่นี้ก็เป็นบุญตาแล้ว
"คุณชายทั้งหลาย อาหารมาแล้ว!"
ผู้หญิงถืออาหารเดินเข้ามาหาเหมือนกับนางฟ้า
นอกจากจะสวยแล้วยังแต่งตัวดูมีสไตล์มาก ปกติแล้วในต้าเว่ยพวกผู้หญิงจะไม่พลาดที่จะโชว์แขนและเอวที่บางของพวกเธอ แถมกลิ่นกายของพวกเธอมีกลิ่นที่หอมชวนหลงใหลมากกว่าอาหาร
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฉินซูโหรวจะหักขาของเซียวเฉวียน ไม่ว่าผู้ชายที่ไหนที่มาที่นี่ ดวงตาของพวกเขายจะเป็นประกาย มันทำให้เพลิดเพลิน อดไม่ได้ที่จะโอบกอดพวกเธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนอื่นอยู่ น้ำลายของหยางจูคงไหลออกมาแล้ว
พอผู้หญิงพวกนั้นเห็นหน้าของหยางจูแล้ว แอบขมวดคิ้วพร้อมกับฝืนยิ้มและพูดว่า "คุณชายหยาง ดีใจที่ได้พบท่านค่ะ!"
เหล่าผู้หญิงสวยกำลังเสิร์ฟอาหาร และสายตาก็มองไปที่เซียวเฉวียนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา
คุณชายผู้นี้หล่อมาก
คิ้วและดวงตานั้นไม่ได้เห็นได้บ่อยๆ ดูเย็นชาเล็กน้อย ซึ่งแตกต่างจากลูกๆ ของครอบครัวฐานะร่ำรวยที่อยู่ที่นี่
บนโต๊ะอาหารมีโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารขึ้นชื่อที่อวดกันหนักหนา
เซียวเฉวียนที่ตั้งหน้าตั้งตารอเริ่มอึ้งเล็กเล็กน้อยและพูดไม่ออก พร้อมกับหัวใจที่เกือบจะหยุดเต้น
ทำไมไม่มีหนังสือเล่มไหนบอกเลยว่าอาหารสมัยก่อนจะเหมือนอุจจาระขนาดนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...