ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 61

ร้องไห้ไปพอสมควรแล้ว เธอก็ปัดน้ำตา ถัดมา เสียงเคาะประตูได้ดังขึ้น

“เปิดประตู เอาเสื้อผ้า”

ญาธิดาเปิดประตูห้อง เห็นคณินยื่นเสื้อผ้าราตรีมาให้หนึ่งชุด “นี่คือเสื้อผ้าที่ฝ่ายจัดงานเค้าเตรียมไว้ให้ สะอาดนะ คุณดูไซซ์ว่าใส่ได้มั้ย ”

ญาธิดามองดู ไซซ์ m เธอใส่ได้พอดีเลย

เธอรับเสื้อเอาไว้ และมองหน้าคณิน รู้สึกว่าเขาก็ไม่ได้ดูขัดหูขัดตาขนาดนั้นนี่

“ขอบคุณ”

คณินได้ยินปุ๊บ ยักคิ้ว“ระหว่างเรายังต้องเกรงใจกันด้วยหรอ?”

ญาธิดาประหลาดใจ หรือว่าพวกเขาสนิทสนมกันมากเลยหรือ?

เวลานี้เธอไม่มีกระจิตกระใจวิเคราะห์คำพูดของเขาหรอกนะ ปิดประตู แล้วล็อคประตู จากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าในตัว

ชุดราตรีสีขาวตัวนี้เป็นแบบที่ธรรมดาที่สุดแล้ว เธอใส่ขึ้นไปถือว่าพอดีตัว ถึงแม้เรียบๆ แต่ว่าดีกว่าใส่เสื้อผ้าสกปรกออกไปเยอะเลยนะ

เธอพับเสื้อราตรีของเธอแล้วใส่เข้าไปในถุง  จากนั้นถึงผลักประตูแล้วเปิดออกมา

ที่หน้าประตู คณินกำลังพิงอยู่ที่กำแพงด้วยท่าทางที่ขี้เกียจ เมื่อมองเห็นญาธิดาออกมา สีหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมา

ญาธิดาหายใจเข้าลึกๆ อดไม่ไหวที่จะกล่าวขอบคุณอีกครั้ง “ประธานคณินคะ……”

คณินที่ได้ยินการเรียกนามแบบนี้ ขมวดคิ้วและขัดคำพูดของเธออย่างไม่ค่อยพึงพอใจ “เมื่อสักครู่ยังเรียกชื่อผมอยู่เลย ทำไมถึงเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้หล่ะ?”

ญาธิดาขยับปาก ไม่รู้จะตอบยังไงดี

“ตั้งแต่นี้ไป เรียกชื่อผมนะครับ” คณินพูดอยู่ จู่ๆก้าวไปข้างหน้าสองก้าว แล้วเข้าไปใกล้เธอโดยตรง และหัวเราะเยาะพูดว่า “ไปกันเถอะ ที่นี่ไม่สนุก ผมพาคุณไปทานข้าว”

ญาธิดาหายใจเข้าลึกๆ และพูดเสียงเบาว่า “ฉันกลับบ้านดีกว่านะ”

คณินยักคิ้ว น้ำเสียงสนุกสนาน “ญาธิดา คุณปฏิเสธผมสองครั้งได้ลงคอเชียวหรือ?”

ย้อนคิดความรักที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเขา ไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเกินสองครั้ง

ญาธิดาพูดแบบชัดถ้อยชัดคำว่า “ต้องขอโทษด้วยนะฉันแต่งงานแล้ว”

ไม่ได้พูดตรงๆแต่ให้รู้ด้วยตัวเอง เธอเป็นหญิงที่มีสามีแล้ว ไม่ยอมรับใครมาจีบ

คณินได้ยิน แววตาเผยความสนุกสนานออกมา“แต่ว่าสามีของคุณนั้นไม่ค่อยได้เรื่องเลยนะ เห็นคุณถูกรังแก ยังทำเป็นเฉยเมย”

ญาธิดาแข็งทื่ออย่างกะทันหัน เงยหน้าขึ้นมามองไปที่เขาอย่างไม่น่าเชื่อ“คุณ…คุณรู้?”

“แค่ผมอยากรู้ มีเรื่องอะไรที่จะปกปิดผมได้หล่ะ?”คณินนิ่งไปสักครู่ “เพียงแต่ว่าตอนที่รู้ความสัมพันธ์ของคุณกับภวินท์นั้นก็ประหลาดใจอยู่นะ”

ได้ยินเขาพูด “ภวินท์” ออกจากปากญาธิดายิ่งตื่นตระหนกไปใหญ่

คิดไม่ถึง ความสัมพันธ์ของพวกเขาถึงกับถูกคนอื่นได้ข่าวไปแล้ว

ญาธิดาหายใจเร็วขึ้น จ้องหน้าเขาแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เรื่องนี้คุณอย่าบอกใครเชียวนะ”

คณินยกมุมปากขึ้นมา แล้วพูดแบบจงใจว่า “ทำไมหล่ะ?นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีสักหน่อยนี่”

ญาธิดากังวล “สรุปก็คือไม่ได้!”

มองดูหน้าตาผู้หญิงที่ถูกยั่วโมโห คณินกลับรู้สึกว่าสนุกสนานมากเลยทีเดียว “งั้นคุณต้องรับปากผมหนึ่งข้อ”

ญาธิดาหายใจเข้าลึกๆ “คุณพูดมาเลย”

“ทานข้าวกับผมสักมื้อ ไม่ใช่วันนี้ก็ได้ ติดค้างไว้ก่อน แต่ว่าห้ามขี้โกง ไม่อย่างนั้น……” เขาตั้งใจลากเสียงยาว

ญาธิดาใจร้อนปุ๊บ ไม่ได้คิดอะไรมากก็รับปากทันที “ได้เลย ฉันรับปากคุณ!”

เวลานี้ เธอกลัวที่สุดก็คือคณินจะเอาความสัมพันธ์ของเธอกับภวินท์ไปพูดไปทั่ว ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะสร้างความวุ่นวายให้กับภวินท์

เห็นเธอรับปากอย่างเต็มปากเต็มคำ คณินก็ยิ้มออกมา “งั้นก็ตามนี้เลย”

เธอหยิบมือถือขึ้นมาเตรียมจะเรียกรถกลับบ้าน แต่ใครจะไปรู้หล่ะว่าข้างหน้ายังมีคนต่อแถวเป็นสิบ เกรงว่ากว่าจะถึงคิวของเธอ ก็ต้องอีกนานเลยแหละ

ญาธิดามองดูฝนที่ตกอยู่ข้างนอก ขณะที่ไม่รู้ว่าจะทำไงดี จู่ๆพนักงานข้างๆก็เดินเข้ามา “คุณครับ ร่มนี้ให้คุณครับ”

ญาธิดามองดูร่มสีขาวใสๆที่ส่งมาตรงหน้า อบอุ่นใจขึ้นมาทันที ยื่นมือรับไว้  “ขอบคุณนะคะ”

กางร่มขึ้นมา ญาธิดาลงจากขั้นบันได ลมแรงมาก เธอยังเดินไปได้ไม่ไกลมากนัก ร่างกายก็ถูกฝนสาดจนเปียกไปทั้งตัวแล้ว แต่ว่าเธอคิดอะไรมากไม่ได้แล้ว คิดแค่ว่าไปข้างถนนโบกtaxiดีกว่า

ไปไปมามารอตั้งครึ่งค่อนวันแล้ว มีรถโดยสารแค่ไม่กี่คันเอง และยังมีคนอีกด้วย ญาธิดายืนอยู่ตรงนั้น ถึงแม้กางร่มอยู่ก็ตาม แต่ว่าตัวก็เกือบเปียกชื้นไปหมดแล้ว

ข้างๆไม่ไกลมากนัก ทางออกใต้ดินโรงจอดรถ รถคันหนึ่งกำลังขับตรงมาอย่างช้าๆ

พายุนั่งอยู่ฝั่งคนขับ มองเห็นใครสักคนที่คุ้นเคย เขารีบหันหน้าพูดขึ้นมาว่า “คุณภวินท์ครับ คุณผู้หญิงอยู่ตรงนั้นครับ”

มองไปทิศทางที่พายุชี้ไป และมองเห็นข้างหลังบางๆของคนนั้นซึ่งยืนอยู่กลางฝนอย่างมัวหมองภวินท์ขมวดคิ้วเบาๆ หลังจากหยุดนิ่งไปสักสองวินาทีก็หันหน้ากลับมาอีกครั้ง

“ขับรถของนายไป”

พายุอดที่จะถามไปอีกคำไม่ได้ว่า “ไม่พาคุณผู้หญิงกลับไปด้วยหรือครับ?”

ภวินท์เงยหน้าขึ้นมามองไปที่เขา น้ำเสียงเย็นชาขึ้นมาอีกนิด “ขับรถ”

ทันทีนั้นพายุจึงไม่พูดมากอีกเลย เหยียบคันเร่งและตั้งใจขับรถ

มองดูรถยนต์ที่กำลังขับเคลื่อนอยู่ และห่างจากstarlight venueยิ่งไกลขึ้นเรื่อยๆ ภวินท์หดหู่ใจขึ้นมา เขาโยนแท็บเล็ตไปที่ข้างๆ ในหัวสมองล้วนเป็นภาพที่ญาธิดาเดินจากไปกับคณินอย่างไม่ขาดสาย

เขาไม่พอใจ ความรู้สึกแบบนี้ยากที่จะอธิบายนัก

แต่ว่าตอนนี้  คิดถึงเธอโบกรถยนต์อยู่กลางสายฝนปุ๊บ เขาก็ทำไม่ลงคอ

เงียบไปสักครู่ จู่ๆภวินท์ได้ออกคำสั่งอย่างกะทันหัน “กลับรถ!”

เขาจะทิ้งเธออยู่ที่นั่นคนเดียวได้ไงหล่ะ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์