เจ้าพ่อกบฏโลก นิยาย บท 62

บนรถ ไม่ว่ายังไงหลินลั่วเจียวก็ต้านทานวาจาที่ฉะฉานของซ่งซานสี่ไม่ได้เลย 

คุณซ่งคุยเก่งเกินไปแล้ว 

เธอจึงต้องบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างออกมาอย่างอดไม่ได้ 

ดังนั้น……

ซ่งซานสี่จอดรถ หลินลั่วเจียวไม่ได้ลงจากรถ

ซ่งซานสี่ลงจากรถก่อนเป็นคนแรก 

ฮู๋ห่ายเม่ยได้เดินเข้ามาต้อนรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อมยิ้มด้วยลักษณะท่าทางที่สวยเพริดพริ้ง

“โอ๊ะ สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย คุณมาบำรุงดูแลรถยนต์เหรอคะ? เชิญทางนี้ได้เลยค่ะ เชิญทางนี้เลย……”

ฮู๋ห่ายเม่ย อายุ 26 โสด สวย เซ็กซี่

ศักยภาพความสามารถก็ถือว่าพอมีอยู่ ไม่งั้นก็คงไม่ได้เป็นรองประธานของโชว์รูมเบนซ์หรอก

เมื่อเธอเห็นว่าซ่งซานสี่ดูสูงใหญ่และหล่อเหลาขนาดนั้น ราวกับจะหวั่นไหวแล้วยังไงอย่างนั้น 

อย่างไรเสียถึงแม้เมืองจงไห่จะกว้างใหญ่มาก ๆ แต่คนที่สามารถซื้อรถมายบัคได้นั้น กลับมีไม่มาก

มิหนำซ้ำฝ่ายตรงข้ามยังหนุ่มขนาดนี้

แต่เธอไม่รู้ว่ารถมายบัคคันนี้ ไม่ได้ซื้อที่นี่ แต่ซื้อที่เมืองหลวง

ซ่งซานสี่มองเธอด้วยสายตาที่เรียบนิ่งรอบหนึ่ง ไม่รู้สึกหวั่นไหวอะไรต่อความงามของเธอ

เธอจึงเดินอ้อมไปจากหน้ารถ 

“ผมมารับรถพร้อมคนใกล้ชิดผมครับ”

“ห๊ะ?”

ฮู๋ห่ายเม่ยเดินตามอยู่ด้านหลังซ่งซานสี่ และเดินอ้อมไปถึงตำแหน่งข้างคนขับแล้ว

เธอไม่เห็นคนใกล้ชิดที่เขาหมายถึงจริง ๆ

“เหอะ ๆ แฟนสาวของคุณผู้ชาย ต้องเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากแน่นอนค่ะ”

ฮู๋ห่ายเม่ยยิ้มให้ แต่ในใจกลับรู้สึกอิจฉาอย่างไม่มีเหตุผลเล็กน้อย

ที่แท้ก็เป็นคนที่มีเจ้าของแล้ว!

เมื่อลองนึกดูแล้วมันก็จริงเหมือนกัน หล่อเหลาขนาดนี้แถมยังรวยอีก ข้างกายต้องไม่ขาดแคลนผู้หญิงแน่นอน 

“ใกล้ชิดกันแบบเพื่อนน่ะ คุณคิดมากเกินไปแล้ว”

“เหอะ ๆ คุณผู้ชายนี้พูดจาฉะฉานจริง ๆ เลยนะคะ งั้นเพื่อนสาวของคุณก็ต้องเป็นสาวสวยแน่นอนใช่ไหมล่ะคะ?”ฮู๋ห่ายเม่ยนึกในใจ พวกผู้ชายก็พูดกันแบบนี้แหละ ใครเขาจะเชื่อ?

“น่าจะ……สวยกว่าคุณนิดหนึ่ง”ซ่งซานสี่ยิ้มอ่อนพลางกวาดตามองฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่หัวจรดเท้า 

จากนั้นเขาก็เปิดประตูรถตำแหน่งข้างคนขับ

ฮู๋ห่ายเม่ยอดใจรอไม่ไหว อมยิ้มพลางมองไปทางตำแหน่งข้างคนขับ

ซ่งซานสี่งดงามมีสง่ามาก

เชิญหลินลั่วเจียวลงมาอย่างสุภาพบุรุษมาก ๆ

หลินลั่วเจียวฟังการจัดแจงของคุณซ่งล่วงหน้าแล้ว 

เวลานี้เธอนิ่งมาก 

ท่าทางสวยเพียบพร้อม ลักษณะทะนงตัว แล้วผงกหัวให้ฮู๋ห่ายเม่ย

อ้าปากเล็กน้อย น้ำเสียงอ่อนโยนและสง่างาม “หวัดดีเพื่อนเก่า เจอหน้ากันอีกแล้วนะ”

“ห๊ะ……ห๊ะ……แก……”

รอยยิ้มบนใบหน้าฮู๋ห่ายเม่ยแข็งทื่อลงไปในทันที ตกตะลึงจนหน้าถอดสี ถอยหลังกลับไปหลายเมตร

เบิกตากว้าง ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่สายตามองเห็น

จิตใจสั่นคลอนอย่างไม่หยุดหย่อน

สีหน้าเริ่มค่อย ๆ ดูย่ำแย่ลง

นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่านังผู้หญิงชั้นต่ำนี่จะ……

ได้เกาะเสี่ยใหญ่ที่ยังหนุ่มและหล่อขนาดนี้ 

สภาพจิตใจของหลินลั่วเจียวสบายมาก

คุณซ่ง ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ!

ซ่งซานสี่มองข้ามฮู๋ห่ายเม่ย พูดกับหลินลั่วเจียวโดยตรงว่า: “น้องเจียว เมื่อกี้เธอถูกใจรุ่นไหนบ้างหรือเปล่า?”

“ฉัน……ฉันยังไม่ทันได้ดูเลยค่ะ!”สีหน้าของหลินลั่วเจียวแดงระเรื่อเล็กน้อยเพราะความเขิน กระดากอายปานวัยรุ่นสาว

คำว่าน้องเจียวของซ่งซานสี่อ่อนโยนมาก ๆ ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย 

“อ้อ โอเค งั้นไปเลือกดูดี ๆ ก่อนได้เลย วันนี้ถ้าเธอชอบรุ่นไหน พี่ซ่งก็จะซื้อรุ่นนั้นให้เธอ”

“ได้เลยค่ะ ขอบคุณนะคะคุณ……พี่ซ่ง!”หลินลั่วเจียวอยากเรียกคุณซ่ง แต่รู้สึกไม่ค่อยเหมาะ สถานการณ์แบบนี้เรียกพี่ซ่งดีกว่า 

ทั้งสองอมยิ้มให้กันและกัน ในระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น พวกเขาก็เดินเข้าไปภายในโชว์รูมใหญ่แล้ว 

สีหน้าของฮู๋ห่ายเม่ยที่อยู่ด้านหลังขาวซีดและแดงเถือกสลับกัน

รับไม่ได้อย่างยิ่ง!

การถูกมองข้ามเป็นการดูถูกเหยียดหยามที่ยิ่งใหญ่มาก!

เธอยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงนั้น 

จิตใจรู้สึกโกรธเกลียดอย่างบ้าระห่ำ

นังตัวดีหลินลั่วเจียว นังจิ้งจอกแรด ทำไมแกถึงได้สมคบกับผู้ชายที่ดีขนาดนี้อีก?

ฮู๋ห่ายเม่ยกำลังแนะนำอยู่ แต่ทว่าจู่ ๆ ซ่งซานสี่กลับพูดกับหลินลั่วเจียวว่า: 

“น้องเจียว เลิกคิดถึงคลาสอีได้แล้ว คุณภาพมันต่ำเกินไป ฉันว่าคลาสเอสก็ค่อนข้างดีเลยนะ”

หลินลั่วเจียวยิ้มอย่างอดไม่ได้ รู้สึกว่าถูกมองจนทะลุปรุโปร่งแล้ว

ยังไม่ทันได้พูดอะไร สุดท้ายฮู๋ห่ายเม่ยก็แบกหน้าพูดว่า: “ใช่ เพื่อน รถเบนซ์คลาสเอสดีมาก ๆ ซึ่งเหมาะกับออร่าราศีของเธอมาก ๆ เลยล่ะ……”

ซ่งซานสี่พูดตัดบทอย่างนุ่มนวล: “ขอความกรุณาอย่าพูดแทรกครับ คุณแนะนำของคุณต่อเลย”

“อ้อ ได้ค่ะ ได้ค่ะ……”ฮู๋ห่ายเม่ยรู้สึกเหมือนโดนน้ำเย็นลาดหัว ทำได้แค่แนะนำต่อ

ซ่งซานสี่พูด: “น้องเจียว สุดสัปดาห์นี้เราพาลูก ๆ ออกไปกินข้าวร่วมกันไหม?”

หลินลั่วเจียวยิ้มอย่างขมขื่น “พี่ซ่ง แบบนี้คงไม่ได้หรอกค่ะ งานที่บริษัทยังยุ่งมาก ๆ ……”

ฮู๋ห่ายเม่ยทำได้แค่หยุดแนะนำ อยากรอให้ทั้งสองคนพูดเสร็จก่อนค่อยแนะนำต่อ

แต่นึกไม่ถึงเลยว่าซ่งซานสี่จะชี้มาที่เธอครั้งหนึ่ง “ทำหน้าที่ของคุณต่อสิครับ อย่าหยุด!”

“ฉัน……”ฮู๋ห่ายเม่ยอัดอั้นความโกรธไว้เต็มท้อง ทรมานมาก แต่ก็ทำได้แค่เริ่มแนะนำต่อ

ดังนั้น……

ซ่งซานสี่และฮู๋ห่ายเม่ยจึงพูดคุยกันอยู่เป็นระยะ ๆ

ฮู๋ห่ายเม่ยก็ไม่กล้าหยุดด้วย ทำได้แค่แนะนำต่อ

นี่มันเป็นการแนะนำสินค้าอย่างอึดอัดชัด ๆ

เธอแนะนำรุ่นนี้ ซ่งซานสี่ก็พาหลินลั่วเจียวไปดูอีกรุ่นหนึ่ง

เธอทำได้แค่กัดฟันแล้วเดินตามไป ร้องไห้ในใจพลางด่าพ่อล่อแม่ ทว่าใบหน้ากลับต้องยิ้มแล้วแนะนำสินค้าต่อ

ภาพฉากดูแปลกประหลาด……

ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างจับจองมาทางนี้ 

ไม่มีใครกล้าพูดอะไร รู้แค่ว่ารองประธานอย่างฮู๋ห่ายเม่ยปอดแหกแล้ว ปอดแหกได้ดูค่อนข้างน่าสงสารเลย

เดิมทีเธอเป็นผู้หญิงที่งดงามคนหนึ่ง แต่กลับถูกผู้ชายของคนอื่นสั่งสอน 

ฮู๋ห่ายเม่ยแนะนำอยู่ครึ่งวัน ซ่งซานสี่ก็พูดขัดกะทันหัน: “ไปกันเถอะ น้องเจียว เราไปดูฝั่งคลาสอีกัน เอ่ออะไรนะ เพื่อน รบกวนนำทางให้หน่อยได้ไหม? ที่นี่กว้างใหญ่เกินไป ผมเป็นคนขี้หลงทางน่ะ”

ฮู๋ห่ายเม่ยมีจิตใจที่อยากจะฆ่าคนแล้ว 

เจ๊โดนดูถูกเหยียดหยามสารพัด พูดอธิบายอยู่ครึ่งวัน 

แกแม่งก็ตัดใจใช้เงินซื้อคลาสเอสไม่ได้ เลยอยากซื้อคลาสอีให้นังผู้หญิงชั้นต่ำนี่หรือ?

จิตใจที่กล้าได้กล้าเสียตอนดูคลาสเอสในเมื่อกี้นี้ หายไปไหนหมดแล้วล่ะ?

ผู้ชายมันเลวจริง ๆ ด้วย

อยากกินของอร่อย แต่กลับไม่ยอมควักเงินจ่าย…..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าพ่อกบฏโลก