บทที่ 1313 ให้ผมกอดแปบนึง
หลังจากที่เสี่ยวเหยียนได้รับการส่งสายตาจากเขาแล้ว ก็รู้ว่าหานชิงเข้าใจความหมายของเธอแล้ว และตอนนี้เองพ่อจางก็ตั้งสติกลับมาได้“ยัยเด็กน้อยแอบกระซิบกระซาบอะไรกับเสี่ยวชิง มาๆๆ เสี่ยวชิงพวกเราดื่มกันต่อ”
“ครับคุณลุง”
หานชิงยกแก้วขึ้นมาชนกับพ่อจางทีละแก้วเรื่อยๆ
หนึ่งแก้ว สองแก้ว สามแก้ว……
เสี่ยวเหยียนนั่งอยู่ข้างๆมองอย่างร้อนใจ เพราะเวลาแต่ละวินาทีแต่ละนาทีก็ค่อยๆผ่านเลยไป แต่ทั้งสองคนก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลย
เมื่อครู่ก็เห็นชัดว่าเธอบอกกับหานชิงแล้ว หรือว่าเขาไม่เข้าใจความหมายที่เธอพูด ไม่น่าจะเป็นไปได้ ด้วยสติปัญญาของเขา ต่อให้เธอไม่ต้องพูดคาดว่าเขาก็น่าจะเดาได้ด้วยตนเอง
มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องทำอย่างนั้น
ตอนที่เสี่ยวเหยียนกำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่างนั้นเอง หานชิงก็แสดงอาการเมามายให้เห็น แต่มือก็ยังคงจับแก้วไว้แน่นวางลงบนโต๊ะ จากนั้นก็หันไปหาพ่อจางเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มีความรู้สึกผิดเล็กๆ
“ขอโทษด้วยนะครับคุณลุง ผมเริ่มดื่มไม่ค่อยไหวแล้ว”
ได้ยินดังนั้น พ่อจางก็ยินดีทันที ตบที่หน้าขาของตัวเองพูดว่า:“เสี่ยวชิง ไม่ทันไรก็เมาแล้วเหรอ คออ่อนแบบคุณนี่ไม่ไหวนะ นี่ดื่มไปแค่นิดเดียวเอง!”
หลัวหุ้ยเหม่ยที่อยู่ข้างๆได้ยินเข้า ก็หยิกพ่อจาง พ่อจางรู้ว่าเธอหมายความว่าอะไร แต่ตอนนี้ก็ยังดีใจมาก
“ดื่มต่อไม่ไหวแล้วจริงๆเหรอ ฉันเพิ่งเริ่มอุ่นเครื่องเท่านั้น ยังไม่ทันได้ดื่มให้สะใจเลย!”
ความจริงพ่อจางก็ดื่มไปพอสมควรแล้ว เขารู้ว่าตัวเองดื่มมากไม่ได้ แต่บางเรื่องพอมันเริ่มต้น ขอแค่อีกฝ่ายไม่ได้แพ้ ตนเองก็ไม่กล้าที่จะร้องให้หยุด ดังนั้นจึงได้แต่ยืนหยัดอยู่ต่อไป
ถ้าหานชิงล้มคว่ำลง อย่างนั้นเขาก็ได้หน้าและก็ไม่ต้องดื่มอีกต่อไป ถือว่าเป็นผลดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ดังนั้นพ่อจางภายนอกดูเหมือนจะเรียกหานชิงให้ดื่มกับเขาต่อ แต่ในใจกลับคิดว่ารีบคว่ำลงไปเร็ว คุณล้มลงไปผมก็ไม่ต้องดื่มแล้ว
และหานชิงก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง มือคลำอยู่ที่หน้าผาก“ขอโทษด้วยนะครับคุณลุง ดื่มไม่ไหวแล้วจริงๆครับ”
พ่อจาง:“อย่างนี้ได้ยังไงกัน นี่เพิ่งจะดื่มได้ไม่นานเองเสี่ยวชิง คุณ……”
“พอได้แล้วมั้งคุณ”หลัวหุ้ยเหม่ยหยิกเขาอีกครั้ง ครั้งนี้หยิกแรงขึ้นมา และยังถลึงตาอย่างโกรธใส่พ่อจางด้วย พูดอย่างโมโหว่า:“มีความเป็นผู้ใหญ่หน่อยได้มั้ย เสี่ยวชิงเขาก็บอกว่าดื่มไม่ไหวแล้ว คุณยังจะให้เขาดื่มอีก”
“แค่กๆ……”พ่อจางกระแอมเบาๆ โบกไม้โบกมือ:“พอแล้ว ในเมื่อเสี่ยวชิงดื่มไม่ไหวแล้ว อย่างนั้นก็ไม่ดื่มแล้ว เหยียนเหยียนลูก ให้แฟนลูกดื่มน้ำแกงแก้สร่างเมาหน่อย จากนั้นก็ประคองเขาไปพักผ่อนเถอะ”
ได้ยินดังนั้นเสี่ยวเหยียนก็ถอนใจอย่างโล่งอก รีบยกน้ำแกงแก้สร่างเมาที่วางอยู่ข้างๆไปวางข้างหานชิง“ดื่มสักหน่อยก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะประคองคุณไปพักผ่อน”
หานชิงรับไปดื่มหลายอึก จากนั้นเสี่ยวเหยียนก็ประคองเขาไปพัก
รอจนพวกเขาไปแล้ว พ่อจางที่ยังทำเป็นฝืนทนอยู่ได้ ในที่สุดตอนนี้ก็ปล่อยมือจากแก้วแล้ว จากนั้นก็ทิ้งร่างนอนลงบนโต๊ะอย่างหมดเรี่ยวแรง ถอนหายใจพลางเอ่ยว่า:“แฟนของเสี่ยวเหยียนคนนี้……คอแข็งไม่เบานะ”
ได้ยินอย่างนั้น หลัวหุ้ยเหม่ยอดไม่ได้ที่กลอกตามองบน ตำหนิว่า:“แล้วถ้าไม่ใช่ล่ะ คนเขายังหนุ่มยังแน่น ดื่มจนล้มพับไปมีผลดีอะไรกับคุณ หากเป็นไปได้ เขาก็คือลูกเขยเราในอนาคต!”
พ่อจางนอนแผ่อยู่บนโต๊ะ ไม่ขยับเขยื้อน ได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่พูดว่า:“คุณไม่เข้าใจ นี่ผมกำลังทดสอบเขาอยู่นะ”
“ทดสอบเหรอ ทดสอบอะไร”
“ทดสอบว่าเขาจริงใจกับเสี่ยวเหยียนของพวกเราหรือเปล่า”
เห็นเขาลืมตา เสี่ยวเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า:“ทำไมคุณไม่ฟังที่ฉันพูด ถ้าคุณยอมแพ้ไปตั้งแต่แรก ก็จบไปแล้ว จะต้องดื่มให้เป็นแบบนี้ให้ได้ รู้สึกแย่มากเลยใช่มั้ย ให้ฉันไปต้มน้ำแกงแก้สร่างเมาให้อีกมั้ย”
พอเธอพูดจบ มือก็ถูกหานชิงจับไว้แน่น
“ไม่ต้องลำบากหรอก ผมไม่เป็นไร”ริมฝีปากบางของหานชิงเม้มเข้าหากัน เอ่ยอย่างเรียบๆ ความจริงแล้วเขาไม่ได้ยอมแพ้ตั้งแต่แรกเพราะมีเหตุผล เป็นผู้ชายเหมือนกัน ทำไมเขาจะดูการสำรวจในแววของพ่อจางไม่ออก เขายอมแพ้ได้ แต่เขาจะแพ้ตั้งแต่แรกไม่ได้ และก็ไม่อาจแพ้ช้าเกินไป ดังนั้นหานชิงจึงได้แต่ควบคุมปริมาณการดื่มและเวลาของตัวเอง พอได้ที่แล้วก็เลิก
ดังนั้นมองจากแววตาของจากพ่อจางที่อยู่ด้านหลัง เขาน่าจะประสบความสำเร็จ
แต่ว่าเรื่องพวกนี้ ยังไม่บอกหญิงสาวดีกว่า
หานชิงหยิบผ้าเช็ดตัวในมือของเธอออกมา จากนั้นออกแรงที่มือ ร่างของเสี่ยวเหยียนก็พุ่งมาด้านหน้า เอามือโอบรอบตัวเธอ กอดเธอเอาไว้แน่น
เสี่ยวเหยียนก็นอนเกยอยู่บนร่างของหานชิง
“เออ……”
นี่เขาจะทำอะไร เสี่ยวเหยียนขัดขืนตามจิตใต้สำนึก ในเมื่อที่นี่คือบ้านของตัวเอง และพ่อแม่ของเธอก็อยู่ เมื่อครู่ตอนประคองเขาเข้ามาก็ไม่ได้ปิดประตู ถ้าหากหลัวหุ้ยเหม่ยวิ่งเข้ามาด้วยความเป็นห่วง จากนั้นเห็นภาพนี้เข้าจะทำอย่างไร
อย่างนั้นมันน่าอายมากเลยนะ
ในขณะที่เสี่ยวเหยียนดิ้นรนขัดขืนอยู่นั้น หานชิงก็ยิ่งออกแรงรัดแน่นขึ้น คางค่อยๆประชิดบนศีรษะของเสี่ยวเหยียน รอบจมูกมีกลิ่นอายหวานหอมที่เป็นของหญิงสาว
“อย่าขยับ ให้ผมกอดคุณแปบนึง”
น้ำเสียงแหบพร่าของเขา กลับประทับตราตรึงลงในใจของเสี่ยวเหยียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่