เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 1313

บทที่ 1312 แข่งกันดื่ม

หลังจากความครึกครื้นสนุกสนานผ่านไปแล้ว สิ่งที่หลงเหลืออยู่มีแค่เพียงความเงียบเหงา

ดังนั้นต่อมาหานชิงจึงไม่ยอมกลับบ้านไปร่วมฉลองปีใหม่กับหลินสวี่เจิ้ง

เพราะทุกครั้งที่กลับบ้าน สิ่งที่เขาต้องเจอก็คือความอ้างว้างเยือกเย็นของบ้าน แม้ว่าจะมีคนรับใช้ แต่ข้างในกลับไม่มีญาติพี่น้องอยู่เลย

เขาเองก็กลัวว่ากลับไปบ้านบ่อย ต่อไปก็จะยิ่งรับไม่ได้กับความอ้างว้างโดดเดี่ยว ดังนั้นจึงเลิกไปเสียเฉยๆ แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ภายในจิตใจเขาอยู่ในสภาพไหน

เสี่ยวเหยียนยังไม่เข้าใจอดีตของเขามากนัก กระทั่งวันนี้ได้ยินที่เขาพูด ในแววตาเหมือนมีอ้างว้างฉายขึ้นมาชั่วแวบหนึ่ง แต่ไม่นานก็ถูกอารมณ์ความรู้สึกอื่นของเขาปกคลุมไว้ มองไม่เห็นอีก เสี่ยวเหยียนใจร้อนอยากจะตามหา แต่กลับหาไม่เจอ

“มองอะไรผม กินเข้าไปสิ มือของหานชิงที่อยู่บนโต๊ะเอื้อมมา กุมมือของเธอไว้ บีบเบาๆ

การกระทำแบบนี้ ต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ เสี่ยวเหยียนหน้าแดงขึ้นมาทันที เธอจึงไม่มองเรื่อยเปื่อยอีก ก้มหน้ากินข้าวทันที

สามีภรรยาจางที่อยู่ตรงข้ามมองการกระทำของคู่รักหนุ่มสาวคู่นี้ ในแววตาก็อดไม่ได้ที่จะฉายรอยยิ้มบางๆออกมา

อาหารมื้อนี้ตอนแรกทุกคนยังอึดอัดอยู่บ้าง แต่ก็ค่อยๆพูดคุยกันมากขึ้น พ่อจางเริ่มพูดคุยกับหานชิงเรื่องปัญหาในการทำงาน ต่อมาก็พูดคุยกันเรื่องธุรกิจ ทัศนคติของหานชิงดีมากมาตลอด

และต่อมาพ่อจางก็นึกครึ้มอกครึ้มใจ อยากจะดื่มเหล้า

เป็นเพราะหลังจากที่เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งก่อน พ่อจางก็ตัดสินใจรักษาสุขภาพ หลัวหุ้ยเหม่ยพอได้ยินว่าเขาจะดื่มเหล้า ก็มองเขาตาขวางทันที

“ไม่ใช่จะรักษาสุขภาพเหรอ รักษาสุขภาพจะดื่มเหล้าได้ยังไง”

พ่อจางตบหน้าขาฉาดทันที พลางพูดว่า:“นี่ไม่ใช่เพราะหานชิงมาเหรอ ผมก็ดีใจ อยากจะดื่มกับเขาสักสองสามแก้ว”

หลัวหุ้ยเหม่ยตอนแรกไม่อยากจะยอมรับ แต่มาคิดดูแล้วนานทีหานชิงจะมาสักครั้ง วันนี้จะดื่มสักครั้ง ก็คงไม่เป็นไร

ดังนั้นเธอจึงยอมตกลง

เสี่ยวเหยียนเห็นพ่อจางดีอกดีใจ ก็ได้แต่ลุกขึ้นไปหยิบเหล้า จากนั้นก็พูดกับพ่อจางว่า:“พ่อ ดีใจก็ส่วนดีใจ แต่พ่อจะดื่มมากไม่ได้นะคะ”

“ไปๆๆ เด็กน้อยมายุ่งวุ่นวายอะไรเยอะแยะเล่า”

เสี่ยวเหยียนนั่งลงข้างหานชิงอีกครั้ง พูดเบาๆว่า:“พ่อฉันอยากดื่มมานานแล้ว คุณเองก็อย่าดื่มเยอะล่ะ”

ดื่มเยอะ ดื่มจนเมาแล้วจะทำยังไง ถึงเวลาจะกลับยังไง

“อืม”หานชิงตอบรับ มือใหญ่ยื่นมาจากใต้โต๊ะ กุมมือของเสี่ยวเหยียนเอาไว้แน่น เสี่ยวเหยียนหน้าแดงเรื่อ คิดจะดึงมือกลับ แต่หานชิงออกแรงยึดไว้ ดังนั้นเสี่ยวเหยียนจึงยังดึงมือกลับมาไม่ได้

เพราะพ่อแม่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ดังนั้นเสี่ยวเหยียนจึงไม่กล้าแสดงท่าทีอะไรมาก ดึงหลายครั้งก็ดึงไม่ออก จึงปล่อยเลยตามเลยไป

หลังจากที่ผู้ชายทั้งสองคนเริ่มดื่ม หลัวหุ้ยเหม่ยก็เป็นห่วงสุขภาพร่างกายของพ่อจาง ตอนที่เขาดื่มเธอก็ลุกไปต้มน้ำแกงที่ในครัว เตรียมไว้ให้ทั้งสองคนดื่มเผื่อทั้งคู่เมาก็จะได้ใช้ดื่มเลย

ตอนแรกพ่อจางดื่มเพียงเล็กน้อย แต่พอได้ดื่มจริงๆแล้ว ก็ดื่มไม่หยุด และยิ่งดื่มยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ในความเป็นจริงมิตรภาพของผู้ชายส่วนใหญ่นั้นเรียบง่ายมาก ไม่ว่าจะมีความโกรธแค้นอะไรก็ตาม เมื่อใดที่ได้ดื่มด้วยกัน พวกเขาจะกลายเป็นพี่น้องกัน หรือปล่อยใจให้เป็นอิสระจากความหวาดระแวง

“ถ้างั้นก็แย่แล้ว”พอหลัวหุ้ยเหม่ยได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นกังวลขึ้นมาทันที:“ขี้เหล้าอย่างพ่อของลูกถ้าไปเจอคนที่คอแข็งเข้าสักคน ก็คงต้องดื่มกับเขาทั้งคืน รู้แต่แรกห้ามไว้เสียก็ดี”

“แต่เมื่อกี้แม่ก็ห้ามพ่อไปแล้วนี่คะ พ่อมีความสุขมาก ช่างเถอะค่ะ คืนเดียวคงไม่เป็นไร”

แม้ว่าเสี่ยวเหยียนจะยังกังวลอยู่บ้าง แต่เรื่องดื่มเหล้า แม้ดื่มมากจะทำลายสุขภาพ แต่ว่าแค่คืนเดียว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากและคืนวันนี้ก็ค่อนข้างมีความพิเศษ ดังนั้นเสี่ยวเหยียนก็ไม่ได้มีท่าทีจะไปขัดขวางอะไรมาก

“ช่างเถอะๆ พวกเขาจะดื่มก็ให้เขาดื่มไป แต่พรุ่งนี้แฟนลูกยังต้องไปทำงานนะ อีกเดี๋ยวลูกไปบอกเขาหน่อย ให้เขาแกล้งทำเป็นเมา พ่อลูกคนอีกฝ่ายดื่มจนคว่ำไป ก็คงไม่ดื่มต่อแน่นอน”

“อืม หนูรู้แล้วค่ะแม่”

ตอนที่สองแม่ลูกออกมาจากห้องครัว ในมือของทั้งสองก็ยกซุปแก้สร่างเมามาด้วย พอได้กลิ่นเท่านั้นแหละพ่อจางก็ทำจมูกฟุดฟิดอย่างไม่พอใจ:“คุณนี่ยังไงกัน พวกเราเพิ่งจะดื่มกัน นี่ยังดื่มได้ไม่นาน คุณก็ต้มน้ำแกงสร่างเมาอะไร”

แม้ว่าประโยคนี้ฟังดูแล้วมีการตำหนิเล็กน้อย แต่น้ำเสียงของพ่อจางและนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความอับจนหนทาง ไม่ได้มีความหมายที่จะกล่าวโทษอะไรเลยสักนิด

“อะไรนะ เตรียมไว้ให้คุณก่อนไม่ได้หรือไง หรือต้องรอให้คุณดื่มจนคว่ำลงไปฉันค่อยไปต้ม”หลัวหุ้ยเหม่ยถลึงตาใส่พ่อจางอย่างไม่ลังเล

พ่อจาง:“……”

“คุณดูสิว่าทำไมคุณพูดอย่างนั้น ผมจะดื่มจนคว่ำลงไปได้ยังไง ผมคอแข็งมากขนาดไหนคนละแวกนี้เขารู้กันดี!”

เสี่ยวเหยียนก็ถือน้ำแกงมานั่งลงข้างๆหานชิง ฉวยจังหวะที่พ่อจางและหลัวหุ้ยเหม่ยกำลังคุยกันอยู่นั้น ค่อยๆโน้มตัวไปข้างหูเขา พูดเบาๆว่า:“พ่อฉันไม่ใช่แค่คอแข็งแต่ยังชอบเอาชนะด้วย ถ้าไม่จัดการอีกฝ่ายให้ดื่มจนคว่ำไป เขาก็ไม่หยุดดื่มแน่นอน”

ได้ยินดังนั้น มุมปากหานชิงก็เกิดรอยยิ้มอ่อนๆ เขาส่งขยิบตาให้เสี่ยวเหยียน เอามือไปตีมือเธอเบาๆจากใต้โต๊ะ เป็นสัญญาณว่าให้เธอวางใจได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่