บทที่ 1405 เธออยากไปรึเปล่า
อารมณ์ของเขาดูผิดปกติไป อีกอย่างยังแสดงสีหน้าออกมาอย่างเห็นได้ชัดมากอีกด้วย
ก่อนหน้านี้เจียงเสี่ยวไป๋ยังมีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้า เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเซียวซู่ จึงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย: “เป็นอะไรรึเปล่า? แค่ให้นายไปร่วมงานแต่งเอง ทำไมต้องทำสีหน้าแบบนี้ด้วยล่ะ? หรือว่านายกับเจ้าของงานแต่งมีเรื่องเคืองแค้นต่อกัน?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวซู่ตั้งสติกลับมาได้ทันที เม้มปาก ไม่ตอบอะไรหล่อน
“ไม่พูด?” เจียงเสี่ยวไป๋เดินอ้อมโต๊ะไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา สังเกตดูอารมณ์ของเขา หรี่สายตาลงด้วยความสงสัยว่าต้องพูดอะไรต่ออีก
ทันใดนั้นเซียวซู่กลับถามเจียงเสี่ยวไป๋ขึ้นมา “หล่อนออกไปนานแค่ไหนแล้ว?”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกใจตะลึง จากนั้นจึงพูดขึ้น: “ประมาณ20นาที”
20นาที?
ถ้าตามไปตอนนี้คงไม่ทันแน่นอน เซียวซู่ขมวดคิ้วขึ้น ไม่พูดอะไรต่อ
ในที่สุดเจียงเสี่ยวไป๋ก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ กลิ่นของความมีพิรุธ หล่อนจ้องมองดูสายตาและอารมณ์ของเซียวซู่ รอยยิ้มภายในดวงตาค่อยๆจางหายไป
“คนที่มาส่งการ์ดเชิญ เป็นผู้หญิง หน้าตาน่ารัก ดูแล้วสวยทีเดียว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวซู่ยิ่งขมวดคิ้วชนกันมากขึ้น
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋เห็นปฏิกิริยาตอบกลับของเขา จึงมั่นใจขึ้นมาได้ทันที หล่อนหัวเราะออกมาอย่างไม่พอใจ: “คนที่นายซ่อนไว้ในใจ ก็คือผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม?”
คำพูดนี้ทำให้เซียวซู่คิดบางอย่างขึ้นมาได้ เขาตั้งสติขึ้นมามองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ จากนั้นเห็นเพียงแค่ความเย็นชาที่หลงเหลืออยู่ในแววตาคู่นั้นของเจียงเสี่ยวไป๋ ไม่มีความอบอุ่นหลงเหลือแม้แต่น้อย เซียวซู่จึงเพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่า เมื่อครู่ตัวเองทำเรื่องโง่ๆอะไรลงไป
“ฉัน...” เขาเอ่ยปากขึ้นเหมือนจะพูดบางอย่าง เจียงเสี่ยวไป๋กลับเอาการ์ดเชิญเสียบเข้าไปในอกของเขา จากนั้นหันหลังเดินเข้าไปในห้อง และปิดประตูลงอย่างเต็มแรง
ปั้ง!
เสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งตึก เซียวซู่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา ผ่านไปสักพัก เขาก้มลงมองดูการ์ดเชิญใบนั้นที่อยู่ในอกของเขา จากนั้นนำกลับไปวางไว้บนโต๊ะด้วยความเหนื่อยใจ และเอาของไปเก็บในห้องครัว
หลังจากที่เขาจัดของทั้งหมดเสร็จก็ออกมา แต่กลับสังเกตเห็นว่าประตูยังคงปิดแน่นสนิทอยู่ ตั้งแต่ที่เจียงเสี่ยวไป๋เข้าไปเมื่อครู่ เธอยังไม่ออกมาเลย
เซียวซู่อยากเดินเข้าไปอธิบายให้หล่อนฟัง แต่สุดท้ายเมื่อลองบิดประตูดูกลับพบว่าถูกล็อคจากด้านใน
“เสี่ยวไป๋?”
เซียวซู่เรียกชื่อหล่อนพลางขมวดคิ้วขึ้น
ไม่มีการตอบรับอะไรจากด้านใน
เจียงเสี่ยวไป๋นั่งซึมอยู่ในห้อง หล่อนนั่งอยู่ที่หน้าต่างมองวิวด้านล่างตึก ในใจยังคิดถึงแต่เสี่ยวเหยียนที่มาหาเมื่อครู่ หล่อนรู้สึกแปลกใจขึ้นมาแล้วว่าทำไมถึงมีผู้หญิงมาหาเซียวซู่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนที่เก็บไว้ในใจมาโดยตลอด
แม้ว่าหล่อนรู้ดีตั้งแต่แรกว่าในใจของเขามีคนยังที่ลืมไม่ได้ แต่หล่อนกลับขาดสติตอบตกลงลองคบกับเขา
ช่วงสองสามวันนี้ที่ได้คบกับเขา หล่อนรู้สึกสนุกมาก เซียวซู่ยอมให้หล่อนแกล้งโดยตลอด และไม่มีท่าทีจะบ่นเลยสักคำ
แต่เมื่อตอนนี้เห็นผู้หญิงคนนั้น และเห็นสีหน้าอารมณ์ของเซียวซู่ที่แสดงออกมาเมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังจะแต่งงาน เจียงเสี่ยวไป๋จึงรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที
หรือทุกครั้งที่มีความรัก ทุกคนล้วนแล้วแต่เห็นแก่ตัว หล่อนเองก็เป็นเช่นนั้น
แกร๊ก
จู่ๆประตูก็ถูกเปิดออก เจียงเสี่ยวไป๋หันไปมอง เห็นเซียวซู่ถือกุญแจอยู่ในมือและยืนมองหล่อนด้วยความลำบากใจอยู่ที่หน้าประตู
ทั้งสองสบตามองกัน เจียงเสี่ยวไป๋เหลือบมองเขา จากนั้นก็เบี่ยงสายตากลับ พูดอย่างไม่สบอารมณ์: “มีกุญแจแล้วไงล่ะ แค่ให้ฉันอยู่คนเดียวสักพักก็ไม่ได้ เหอะๆ”
เซียวซู่เหลือบมองดูกุญแจในมือ จากนั้นค่อยๆเก็บใส่ในกระเป๋า และเดินไปหยุดอยู่ข้างเจียงเสี่ยวไป๋ ก้มหน้ามองหล่อน
แต่เหตุผลที่หล่อนยอมเข้าใจก็เป็นเพราะ หล่อนรู้ดีว่าการชอบใครสักคน ไม่สามารถปล่อยวางได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายขนาดนั้น
ถ้าทำได้เร็วขนาดนั้น เขาจะเป็นคนยังไงกันล่ะ?
เขาปล่อยวางคนอื่นได้เร็วขนาดนี้ แม้ว่าจะรักตัวเองแล้ว แต่ต้องมีสักวันที่เขาสามารถทิ้งและปล่อยวางตัวเองไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน จากนั้นก็ไปคบกับคนอื่น
ความรักแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เจียงเสี่ยวไป๋ต้องการ
อีกอย่างหล่อนก็จะแต่งงานแล้ว ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับเซียวซู่อีก ไม่ว่ายังไงชีวิตนี้เซียวซู่คงไม่มีทางพัฒนากับหล่อนต่อได้อีก สิ่งที่เขาต้องทำคือค่อยๆลืมหล่อน และกลับมารักตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
รอให้ถึงเวลาที่เขาเป็นของตัวเอง รักเดียวใจเดียว และคอยดูว่าหล่อนจะรักษาเขายังไง หึๆ
ถือได้ว่าอาหารกลางวันมื้อนี้เซียวซู่เป็นคนทำทั้งหมด เพราะของทุกอย่างไม่ได้ผ่านมือของเสี่ยวไป๋เลยแม้แต่น้อย หล่อนเพียงแค่ยืนสั่งอยู่ด้านหลัง
สุดท้ายหล่อนเพียงแค่นั่งรอทานข้าวอยู่ที่โต๊ะ
หลังจากทานอิ่มแล้ว ความโกรธที่อยู่ในใจเจียงเสี่ยวไป๋ก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง
เพียงแต่การ์ดเชิญที่ตั้งอยู่บนโต๊ะยังคงส่องสว่างกระแทกตาอยู่ ปัญหานี้ถือว่าหนักมากทีเดียว เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกว่าตัวเองต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น
“หล่อนรู้ว่าฉันเป็นแฟนของนาย จึงเชิญฉันไปร่วมงานแต่งงานกับนายด้วย นายไปรึเปล่า?”
เซียวซู่ที่ยังคงถือถ้วยทานข้าวอยู่ ได้ยินเช่นนั้นจึงหยุดชะงักไปทันที
จู่ๆเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า คำถามนี้ คือคำถามเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
“ว่าไง? ไม่รู้ว่าจะไปหรือไม่ไป? หรือไม่รู้ว่าจะตอบฉันอย่างไร?”
เซียวซู่เงียบไปครู่หนึ่ง มองหน้าหล่อนและพูดขึ้น: “เธออยากไปรึเปล่า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่