เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 214

บทที่213 ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย

เสิ่นเฉียวปล่อยไปแบบงงๆ เย่โม่เซินซุกหน้าอยู่กับลำคอของเธอ เธอรู้สึกได้ว่าคางของเขากำลังซบไหล่ของตัวเองอยู่ ตอนแรกเธอก็นึกว่าเขาจะทำอะไรอีก แต่ว่าเขากลับซบอยู่แบบนั้นเงียบๆ

เรื่องนี้มันทำให้เสิ่นเฉียวสงสัยเล็กน้อย เพราะว่าลมหายใจที่ออกมาจากร่างกายของเย่โม่เซินจู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นความเศร้า เสิ่นเฉียวที่โดนเขากอดสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน

เศร้ายังงั้นหรอ?

ชั่วพริบตานั้น เสิ่นเฉียวก็คิดว่าความรู้สึกของตัวเองมีอะไรผิดปกติไปรึเปล่า?

เย่โม่เซินจะมีอารมณ์เศร้าได้ยังไงกัน?

“นายเป็นอะไรรึเปล่า? ” เสิ่นเฉียวถามด้วยความสงสัย หรือว่าเรื่องราวของเธอทำให้เขานึกถึงอะไรขึ้นมาได้รึเปล่า?

แต่ว่าเย่โม่เซินไม่ได้ตอบ แล้วก็ไม่ได้ขยับเหมือนกัน ได้แต่นอนซบอยู่แบบนั้นเงียบๆ เสิ่นเฉียวขยับนิดหน่อย แต่ว่าเขาก็จับข้อมือของเธอไว้แล้วก็พูดด้วยเสียงแหบแห้ง “อย่าขยับ ขอฉันกอดแป๊บหนึ่ง”

น้ำเสียงทุ้มต่ำและสั่นเครือ มันเต็มไปด้วยความเศร้าอย่างสุดซึ้ง

เสิ่นเฉียวมึนงง รู้สึกได้ว่าใจเต้นแรง เสียงและน้ำเสียงนี้……เพราะฉะนั้นที่เธอสัมผัสได้ถึงความเศร้าโศกของเขานั้นเธอรู้สึกผิดไปรึเปล่านะ?

หลังจากนั้นเสิ่นเฉียวก็ไม่ได้ขยับอีก ให้เขานั่งพิงไปเงียบๆ แบบนั้น แม้แต่……ยกมือขึ้นมาด้วยความปวดใจ แล้วก็วางไว้ตรงหลังของเย่โม่เซินช้าๆ

ตอนที่พึ่งจะวางลงไปนั้น เสิ่นเฉียวรู้สึกได้ว่าร่างกายของเย่โม่เซินสั่นอย่างรุนแรง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ขยับอะไรอีก

ทั้งสองคนนั่งเงียบๆ อยู่แบบนั้น เย่โม่เซินซบไหล่เธอตลอด หลังจากนั้นไม่นานการหายใจของเขาก็สม่ำเสมอขึ้น

เสิ่นเฉียว:“???”

นี่เขาหลับแล้วหรอ? เสิ่นเฉียวแอบก้มมองเขา ก็เห็นว่าใต้ตาของเขาดำมาก เหมือนกับว่าช่วงนี้น่าจะไม่ค่อยได้พักผ่อนเท่าไหร่

และแล้วเสิ่นเฉียวก็ใจอ่อนยวบ ปล่อยให้เขาซบตัวเองแล้วพักผ่อนอยู่แบบนั้น ไม่กล้าขยับเลย

และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านไปนานแค่ไหน ทันใดนั้นก็มีคนเคาะประตูห้องทำงาน หลังจากนั้นเซียวซู่กับเย่หลิ่นหานก็เดินเข้ามา ตอนที่เห็นภาพเหตุการณ์นี้นั้น คำพูดที่ริมฝีปากของทั้งสองคนก็หยุดลงทันที หลังจากนั้นเซียวซู่ก็เบิกตาโพลงมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วก็ชี้นิ้วไปที่เธอ

“คุณนายน้อยสอง นี่คุณกับคุณชายสอง……”

“ชู่” เสิ่นเฉียวยื่นมือมาวางตรงปากของตัวเอง หมายความว่าให้เซียวซู่เงียบ

เซียวซู่ก็เลยต้องหุบปาก เสิ่นเฉียวถึงได้โล่งอก หลังจากนั้นก็สังเกตเห็นว่ามีสายตาที่แผดเผาจ้องมาที่ใบหน้าของเธอ เธอก็เลยมองไป เสิ่นเฉียวถึงได้เห็นว่าคนที่เข้ามาไม่ได้มีแค่เซียวซู่ แต่ยังมีเย่หลิ่นหานอีกด้วย

เขาจ้องพวกเขา หลังจากนั้นสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่เสิ่นเฉียว ใบหน้าที่เดิมทีอ่อนโยนอยู่นั้น หลังจากเห็นภาพเหตุการณ์นี้ก็ดูโกรธเล็กน้อย ขมวดคิ้วเข้าหากัน

เซียวซู่กระแอมออกมา “ในเมื่อคุณชายเย่กับคุณนายน้อยสองยุ่งอยู่ งั้นพวกเราออกไปก่อนเถอะครับ”

เย่หลิ่นหานยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ขยับไปไหน น้ำเสียงเย็นชาลงเล็กน้อย “ฉันมีเรื่องสำคัญต้องปรึกษากับโม่เซิน”

เซียวซู่:“……รองประธานเย่ แต่ว่า……”

“เวลาทำงาน แล้วนี่คือทำอะไรกัน? ” เย่หลิ่นหานเตือนอย่างไม่พอใจ เสียงของเขาไม่ดังไม่เบา แต่ว่าสามารถลอยไปถึงทั่วทุกมุมในห้องทำงาน

เซียวซู่ “รองประธานเย่ นี่คือห้องทำงานของคุณชายเย่นะครับ คุณชายเย่อยากจะทำอะไรก็ทำแบบนั้นแหละ”

“แต่ว่าเขาอย่าลืมนะ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นห้องทำงานของเขา แต่ว่ามันก็เป็นบริษัทของตระกูลเย่เหมือนกัน! ”

จู่ๆ ก็เหมือนเกิดไฟไหม้ในห้องทำงาน แม้แต่เสิ่นเฉียวก็ยังรู้สึกหวาดกลัว มองไปที่เย่หลิ่นหานที่กำลังโกรธด้วยความงุนงง คนที่ปกติอ่อนโยนราวกับหยก ทำไมจู่ๆ เปลี่ยนเป็นฉุนเฉียวง่ายแบบนี้ล่ะ?

เธอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว ยังไม่ทันได้ตั้งตัวกลับมา เย่โม่เซินก็ขยับ แล้วเสียงของเขาก็ดังออกมาจากไหล่ของเธอ

“รองประธานเย่มาโมโหโทโสที่ห้องทำงานของฉันแต่เช้าขนาดนี้ ไปได้รับการยั่วยุมาหรอ? ”

หลังจากเย่หลิ่นหานออกไปแล้ว เซียวซู่ก็รีบออกจากห้องทำงานไปเหมือนกัน ในห้องทำงานก็เหลือแค่คนสองคน เสิ่นเฉียวไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเลย มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้ว่า ตอนนี้ใจของเธอมันเต้นแรงแค่ไหน

เย่โม่เซินจงใจทำกับเธอแบบนี้ต่อหน้าเย่หลิ่นหาน ก็เพื่อจะแสดงละคร เพื่อยั่วให้เขาโกรธเท่านั้น

หลังจากเขาไปนั้น เย่โม่เซินก็น่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

พอคิดแบบนี้ เสิ่นเฉียวก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ได้แต่รอเงียบๆ

แต่ใครจะไปรู้ว่าเย่โม่เซินกลับพยุงให้เธอลุกขึ้น “ไปทำงานเถอะ เลิกงานแล้วรอฉันด้วย พวกเรากลับบ้านพร้อมกัน”

เสิ่นเฉียวงุนงงซักพัก หลังจากนั้นก็ค่อยๆ พยักหน้า “โอเค”

หลังจากนั้นก็เดินออกไปด้านนอกอย่างชาๆ กลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองหลังจากนั้นก็นั่งลง ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้น คว้าแล้วของเธอแล้วก็เดินออกไป

ทันใดนั้นเสิ่นเฉียวก็ตั้งสติได้ เห็นว่าคนที่จับเธอไม่ใช่ใครอื่นแต่ว่าเป็นเย่หลิ่นหาน สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที “นายจะทำอะไร? ปล่อยฉันนะ! ”

เย่หลิ่นหานดึงเธอเข้าไปในลิฟต์โดยไม่พูดอะไรซักคำ กดปุ่มไปที่ชั้นของตัวเอง เสิ่นเฉียวเห็นสถานการณ์ดังนั้น ก็กลับสงบนิ่ง “พี่ใหญ่ สรุปแล้วมีเรื่องอะไรหรอคะ? ”

เย่หลิ่นหานสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก “ฉันอยากช่วยเธอ ช่วยย้ายตำแหน่งให้เธอ เธอไม่เห็นด้วยก็แล้วไป แต่ทำไมต้องอยู่ข้างๆ เขาด้วย? หรือว่า เธอไม่ได้รู้สึกอัปยศเลยแม้แต่นิดเดียว? ”

“อัปยศงั้นหรอ? ”

“ก็เห็นได้ชัดอยู่ว่าเขาจงใจใช้เธอเพื่อเล่นละครให้ฉันดู เฉียวเฉียว แบบนี้เธอก็ไม่สนใจงั้นหรอ? ผู้ชายคนหนึ่งถ้าเกิดว่าไม่สนใจที่จะทะนุถนอมผู้หญิงคนหนึ่ง เธออยู่ข้างๆ เขาไปตลอดชีวิตก็ไม่มีวันมีความสุขหรอก! ”

เสิ่นเฉียวดูมึนงง หลังจากนั้นก็ดึงมือกลับมาอย่างใจเย็น

“มันเป็นเรื่องของฉัน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนาย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่