บทที่212 เธอไม่เสียใจจริงๆ หรอ
“เข้ามาใกล้หน่อย”
เสิ่นเฉียวก็ก้าวเล็กๆ ขึ้นมาอีกก้าวเดียว “คุณชายเย่?”
เย่โม่เซินมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ห่างจากตัวเองไป7-8ก้าว ความเยาะเย้ยในใจก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ “ฉันให้เวลาเธอ5วินาที เธอต้องเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันเดี๋ยวนี้”
“5”
“4”
เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วมองไปที่เย่โม่เซิน ไม่คิดว่าเขาจะนับด้วย เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วสุดท้ายในตอนที่เขานับเลขสุดท้ายนั้นเสิ่นเฉียวก็เดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
แล้วเสียงก็หายไป ทันใดนั้นลมปราณของเย่โม่เซินก็เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกทันที “ผู้หญิงที่แต่งงานครั้งที่สองคนนี้ กล้าให้ฉันรองั้นหรอ! ”
สีหน้าของเสิ่นเฉียวค่อยๆ เปลี่ยนไป “คุณชายเย่ ฉัน……โอ๊ย”
เธอยังไม่ทันจะพูดจบ ข้อมือของเธอก็ถูกจับอย่างป่าเถื่อน วินาทีถัดมาเธอก็โดนเย่โม่เซินออกแรงดึงไปกอดไว้ในอ้อมแขน บีบคางเธอ แล้วก็จูบอย่างรุนแรงที่ริมฝีปากของเธอ
“อื้อ……”เสิ่นเฉียวล้มลงในอ้อมแขนของเขา นั่งบนขาของเขา ทั้งร่างกายของเธอถูกปกคลุมด้วยลมหายใจของผู้ชายที่เอาแต่ใจ
โดยเฉพาะช่องปากของเธอ มันเต็มไปด้วยริมฝีปากและลิ้นของเขา เย่โม่เซินจูบอย่างรุนแรงมาก ครอบครองทุกส่วนในปากของเธออย่างรุนแรง ดูดซับความหวานของเธอ ในขณะเดียวกันก็ฉกฉวยเอาลมหายใจของเธอไปด้วย
เธออยากจะขัดขืน แต่ว่าขยับไม่ได้ ก็เลยได้แต่ปล่อยให้เขาทำตามความต้องการไปแบบนั้น
น่าจะผ่านไปประมาณหลายนาที จู่ๆ เย่โม่เซินก็ถอนริมฝีปากและลิ้นของตัวเองออก บีบคางของเธอแล้วก็จ้องริมฝีปากสีแดงสดของเธออย่างดุเดือด
“หรือว่าพอฉันไม่ได้ทำอะไรกับเธอหน่อย เธอก็เลยลืมสถานะของตัวเองไปยังงั้นหรอ? ”
ถึงแม้ว่าเขาจะจูบอย่างแรง แต่ว่าเสิ่นเฉียวไม่ได้สูญเสียสติปัญญาของตัวเองไป น่าจะเพราะว่ามันไม่ได้นานเท่าไหร่ เธอก็เลยยังครองสติตัวเองไว้ได้
เสิ่นเฉียวจ้องตาเย่โม่เซิน ดวงตาสีหมึกของเขาลึกดั่งน้ำทะเล ความโกรธกำลังซัดไปมาเหมือนดั่งคลื่น เสิ่นเฉียวกะพริบตา แล้วก็ตอบด้วยเสียงเบา “แน่นอนว่าฉันรู้สถานะของตัวเองดี”
“ถ้ายังงั้นเธอก็บอกฉันมาสิ ว่าสถานะของเธอคืออะไร? ”
เสิ่นเฉียวหัวเราะเบาๆ “คุณชายเย่ ทำไมสิ่งที่คุณถามฉันคุณไม่ถามตัวเองเอาล่ะ? ในใจของคุณ คิดว่าฉันอยู่ในสถานะอะไรฉันก็อยู่ในสถานะนั่นแหละ”
เย่โม่เซิน:“……”
สมควรตาย
นี่เขาก็แสดงอาการโกรธใส่เธอแล้ว เธอยังมีท่าทีไม่กลัวตายอยู่อีกงั้นหรอ?
“ยัยผู้หญิงที่แต่งงานสองคน นี่เธอกำลังบีบให้ฉันโกรธเธออยู่ยังงั้นหรอ? ” เขาพูด แล้วมือของเย่โม่เซินก็บีบไหล่ของเธอแน่น แค่ออกแรงเพียงนิดหน่อย แต่ว่าเสิ่นเฉียวก็ขมวดคิ้วเพราะความเจ็บปวด ริมฝีปากสีชมพูของเธอขยับ เหมือนกับว่าอยากจะร้องออกมา
สายตาที่คมกริบของเย่โม่เซินจ้องหน้าเธอ “ทำไม? ต่อให้เป็นแบบนี้ เธอก็ยังจะทำท่าทางเหมือนไม่กลัวตายอยู่ยังงั้นหรอ? ”
ทันใดนั้นเสิ่นเฉียวก็ตั้งสติกลับมาได้ ที่แท้เขากำลังยั่วยุเธอ แต่ว่าน่าเสียดายที่เธอได้ตัดสินใจตั้งแต่แรกแล้ว เธอหลับตาและพูดเบาๆ ว่า “ถ้าเกิดว่าคุณชายเย่ได้ระบายพอแล้ว จะปล่อยฉันได้รึยังคะ? ”
หลังจากเงียบไปนาน เย่โม่เซินก็อดทนเก็บความโกรธไว้ไม่ไหว “ปล่อยงั้นหรอ? ตลอดชีวิตนี้ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก”
สิ้นเสียง มือหนาของเขาก็ยกเสื้อผ้าของเธอขึ้น การเคลื่อนไหวที่ป่าเถื่อนทำให้เสิ่นเฉียวทนไม่ไหว เธอจับมือที่ไร้มารยาทของเขาไว้ “นายจะทำอะไร? ”
เย่โม่เซินประเมินเสิ่นเฉียวที่อยู่ตรงหน้าของเขา พอเห็นว่าใบหน้าสีขาวของเธอเริ่มมีสีหน้ากังวลขึ้นมา เขาก็ถามออกมาอย่างเลวร้าย “ตอนนี้ถึงพึ่งจะกลัวงั้นหรอ? เมื่อกี้ไม่ได้สนใจไม่ใช่หรอ? ฉันก็เลยนึกว่าเธอไม่สนใจอะไรเลย”
“……” เสิ่นเฉียวหอบเบาๆ จับมือของเขาไว้ไม่ให้ขยับ “คุณชายเย่ ฉันยังมีงานอีกหลายอย่างให้ต้องสะสาง ฉัน……”
“ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้” มือของเย่โม่เซินเริ่มออกแรง ต้องการที่จะดึงเสื้อผ้าของเธอขึ้นอีกครั้ง เสิ่นเฉียวหายใจหอบอย่างกังวล “เย่โม่เซิน!”
“นายเป็นผู้ชาย นายไม่มีวันท้อง นายไม่เข้าใจหรอก……ว่าใจของคนเป็นแม่เป็นยังไง”
เห็นท่าทางของเธอตอนนี้ จู่ๆ เย่โม่เซินก็นึกถึงแม่ของตัวเองในตอนแรกขึ้นมา พอนึกถึงท่าทางที่แม่ของเขาต้องเผชิญหน้ากับความตาย สายตาของเย่โม่เซินก็มืดมนลงไปเยอะ เขามุดหัวเข้าไปตรงระหว่างคอของเสิ่นเฉียว
ก่อนที่แม่จะเสียชีวิต เธอบอกให้เขากลับตระกูลเย่ ในใจของเย่โม่เซินเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ผู้ชายคนนั้นพาชู้เข้ามาในห้องหลัก แล้วก็ไล่คนที่อยู่ในตำแหน่งออกไป แล้วทำไมแม่ของเขายังต้องคลอดลูกออกมาเพื่อผู้ชายแบบนี้อีก
ตอนนั้นแม่จับมือของเขาไว้ แล้วก็มองเขาด้วยรอยยิ้ม
“โม่เซินบื้อ ที่แม่คลอดลูกออกมาไม่ใช่เพื่อเขา แต่ว่าเพื่อลูกต่างหาก”
ตอนนั้นเอง เย่โม่เซินก็ช็อกไป มันจะเป็นเพื่อเขาได้ยังไงกัน เขาหรี่ตาลงแล้วถามว่า “เพื่อผมหรอ? ”
ส้งอานที่อยู่ด้านข้างได้ยินดังนั้น ก็ถอนหายใจออกมา “ใช่แล้วโม่เซิน หลานคิดว่าพี่ทำเพื่อพ่อเลวๆ คนนั้นน่ะหรอ? ที่จริงแล้วเขานับว่าเป็นใครกัน? เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือหลานไง หลานคือคนที่พี่อุ้มท้องมาทั้งหมด10เดือน แม้ว่าในกระดูกของหลานจะมีเลือดของผู้ชายเลวๆ คนนั้นไหลอยู่ก็ตาม แต่ว่าสิ่งที่สำคัญก็คือเลือดของหลานก็มีเลือดของแม่อยู่ครึ่งหนึ่งเลยนะ และตอนที่ตั้งท้องหลานนั้นพวกเธอสองคนแม่ลูกก็เป็นร่างกายเดียวกัน แม่คนหนึ่ง……ไม่โหดร้ายขนาดที่จะสามารถทำลายลูกของตัวเองได้หรอก”
เย่โม่เซิน:“……”
แม่ของเย่โม่เซินคือพี่สาวของส้งอาน ชื่อว่าส้งซิน
หลังจากแต่งงานกับพ่อของเย่โม่เซินไม่นาน พ่อของเย่โม่เซินก็ออกนอกลู่นอกทาง หลังจากนั้นก็พาชู้เข้ามาที่บ้านตระกูลเย่ ส้งซินโกรธจนหย่ากับเขาทันทีหลังจากนั้นก็ออกมาจากบ้าน ตระกูลเย่ แต่ว่าผ่านไปไม่นานก็พบว่าตัวเองตั้งท้อง ตอนนั้นส้งอานเคยแนะนำให้เธอทำแท้งซะ แต่ว่าต่อให้ต้องตายส้งซินก็จะปกป้องเอาไว้
ก็เลยมีเย่โม่เซินออกมา
ถ้าให้พูดตามจริง สิ่งที่เสิ่นเฉียวผ่านมาก็ไม่ได้ต่างกับส้งซินแม่ของเขาเท่าไหร่นัก แต่ว่าส้งซินไม่เหมือนกับเสิ่นเฉียว ส้งซินไม่ได้แต่งงานใหม่ แล้วก็ต้องเลี้ยงดูเย่โม่เซินมาด้วยตัวคนเดียว แต่ว่าเสิ่นเฉียวแต่งงานกับเย่โม่เซิน
เหตุผลที่เย่โม่เซินไม่ยอมรับเสิ่นเฉียวในตอนแรกนั้นก็คือเหตุผลนี้ นอกจากเรื่องที่เขาไม่อยากจะใช้ของซ้ำจากผู้ชายคนอื่นแล้วนั้น เขายังรู้สึกว่าเสิ่นเฉียวนั้นโง่ คลอดลูกของผู้ชายเลวๆ ออกมาอย่างไม่จำเป็น
แต่ว่าหลังจากนั้นพอเห็นว่าเธอพยายามปกป้องสุดชีวิต ก็ทำให้เขานึกถึงแม้ของตัวเอง แล้วอีกอย่าง……ร่างกายของเธอก็ไม่เหมาะกับการทำแท้ง ก็เลยเก็บลูกไว้จนถึงตอนนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่