บทที่ 369 จดทะเบียนบริษัท
หลังจากถามคำถามนี้ หานชิงก็เงียบขรึม
หานมู่จื่อพูดไม่ออกไปชั่วขณะ หรือว่าบางทีเธอไม่ควรถาม
“ขอโทษค่ะพี่ ฉัน..ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่อยากรู้"
"ไม่เป็นไร" หานชิงกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ "แม่ตายไปหลายปีมากแล้ว เรื่องบางเรื่องฉันมองออกอย่างปรุโปร่งตั้งนานแล้ว อีกทั้งฉันทำเรื่องที่เธอมอบมาให้สำเร็จแล้ว พอสายเลือดตระกูลหานของพวกพบ หาน้องสาวของฉันหานชิงเจอ”
พูดจบ หานชิงก็เอื้อมมือไปลูบหัวของเธอ และเอ่ยเสียงเบา “หลังจากที่เธอหายไป จิตใจของแม่ก็ค่อนข้างสับสนไปบ้าง ทุกวันเอาแต่ตามหาเธอ ไปสอบถามต่างสถานที่ต่างๆ มากมายและไปหาเธอด้วยตัวเอง คนในบ้านล้วนห้ามไม่อยู่ ฉันจึงได้แต่ตามไปกับเธอด้วย ต่อมาสติของแม่เริ่มไม่แจ่มชัด และกลายเป็นโรคซึมเศร้า บวกกับ...หลังคลอดสุขภาพแต่เดิมของเธอก็ไม่แข็งแรงเท่าไหร่”
เรื่องราวในอดีตเหล่านี้เมื่อหานมู่จื่อได้ฟังก็รู้สึกตื่นตะลึงในใจ
“ทำ ทำไมกัน...ต่อให้ไม่เจอฉัน เธอก็ควรดูแลตัวเองให้ดี”
"นั่นเพราะ แม่รู้สึกมาตลอดว่าตนเองทำผิดต่อเธอ ไม่ได้ดูแลเธอให้ดี ทำให้เธอถูกลักพาตัวไป เธอโทษตัวเองอีกทั้งประกอบกับอารมณ์อื่นๆ อีก เธอคิดว่าแม่จะเป็นอย่างไร?”
หานมู่จื่อพูดไม่ออกชั่วขณะ
“ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพ่อเครื่องบินตก นั่นก็เป็นฝันร้ายอีกครั้งหนึ่ง ตอนนั้นพอแม่ได้ยินข่าวก็กำลังไปตามหาเธอบนพื้นที่ชนบทเล็ก ๆ บนยอดเขา เมื่อลงมาได้ยินเรื่องสูญเสียนี้ก็ถึงกับล้มลงเสียสติไป”
หานมู่จื่อเบิ่งตากว้าง ลมหายใจหอบกระชั้นขึ้นมา
"หลังจากส่งโรงพยาบาล หมอก็บอกให้พวกเราเข้าไปดูเธอเป็นครั้งสุดท้าย"
หานชิงเอ่ยราวกับกำลังเล่าเรื่องธรรมดาๆ เรื่องหนึ่ง ใบหน้าของเขาไม่มีการอารมณ์ใดๆ แต่เนื่องจากอยู่ใกล้กันหานมู่จื่อจึงสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่านัยน์ตาของเขากลับมีคลื่นอารมณ์อันรุนแรงสาดซัดอยู่
ทั้งสองคนยืนเงียบๆ ไร้สุ้มเสียงอยู่หน้าหลุมฝังศพเป็นเวลานาน หลังจากนั้นหานมู่จื่อก็วางดอกไม้ลงที่หน้าสุสานและมองดูท้องฟ้าที่กำลังมืดลง จนเมื่อฝนกำลังจะตก หานชิงจึงค่อยเรียกหานมู่จื่อจากไป
หลังจากออกจากสุสาน บนรถ ด้านนอกมีฝนตกลงมาแล้วเล็กน้อย
หลังจากฝนตกพรำๆ อากาศก็เปลี่ยนเป็นเย็นสบายขึ้นมาก ไม่อบอ้าวดั่งเช่นก่อนหน้าอีก
เสี่ยวเหยียนยังคงหาข้ออ้างไม่ทานอาหารเย็นกับพวกเขา หานมู่จื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นจึงให้คนรับใช้นำอาหารขึ้นไปชั้นบนให้เธอ
หลังอาหารค่ำ หานมู่จื่อและ เสี่ยวหมี่โต้วก็นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเล่นเกมโทรศัพท์มือถือ
ผลคือจู่ๆ หานชิงก็นั่งลงและยื่นเอกสารมาให้ชุดหนึ่ง
"นี่คืออะไร? "
"ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท "
"ข้อมูลการลงทะเบียน? " มือของ หานมู่จื่อหยุดลงด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง
"ตั้งบริษัท หากลุ่มแบบนี้มีประโยชน์กับเธอมากกว่า เธออย่าได้เอาแต่ทำอะไรคนเดียว ไม่เหมาะสม”
เมื่อได้ยิน หานมู่จื่อก็อดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปากของตน "ไม่เหมาะสมตรงไหน? ก่อนหน้านั้นตอนฉันอยู่ต่างประเทศก็เป็นแบบนี้?”
"สภาพแวดล้อมต่างประเทศและในประเทศไม่เหมือนกัน รู้ไหมว่าฉันได้ยินข่าวอะไรมา?”
ฟังหานชิงพูดแบบนี้ หานมู่จื่อก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองซู ก่อนหน้านี้ เธออดไม่ได้ที่จะยกยิ้ม “มีคนจะฟ้องฉัน?”
สายตาของหานชิงเหลือบมองไปที่เธอนิ่งๆ "ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ถึงพฤติกรรมของตัวเองอยู่บ้าง"
"ฉันรู้ว่าเธอต้องการฟ้องฉัน แต่ฉันก็ไม่กลัว" หานมู่จื่อส่ายหัวอย่างไม่แยแส "นอกจากนี้เรื่องนี้ มันเป็นความผิดของเธอ"
“ดังนั้นก็เลยปล่อยให้เธอฟ้องงั้นเหรอ?”
"เรื่องทีมเธอไม่ต้องกังวล ฉันหาทีมนักออกแบบที่ดีที่สุดในจีนให้เธอเรียบร้อยแล้ว”
"ทีมออกแบบที่ดีที่สุด? อย่างนั้นถึงเวลาฉันก็ต้องให้เงินพวกเขาไม่ใช่หรือ? พี่ นี่พี่กำลังอยากให้ฉันหาเงิน หรือว่าอยากให้ฉันล้มละลายกันแน่?”
เมื่อได้ยินเธอล้อเลียน ใบหน้าเย็นชาของหานชิงก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้น "เธอมีความสามารถ ฉันยังคงเชื่อมั่น เงินเดือนของพวกเขาในสามเดือนแรกพี่จะเป็นคนช่วยเธอออกเอง แต่หลังจากนี้ไปก็อาศัยตัวเธอแล้ว จะสามารถทำบริษัทที่ยอดเยี่ยมออกมาได้หรือไม่ ดึงดูดลูกค้าได้มากพอ หรือสร้างแบรนด์ของเธอขึ้นมาเอง ล้วนขึ้นอยู่กับตัวเธอ”
สร้างแบรนด์ของตนเอง?
เมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้ หานมู่จื่อก็ตกตะลึงเล็กน้อย ตอนอยู่ต่างประเทศเธอมีชื่อเสียงเป็นแค่ดีไซเนอร์ เธอกลับไม่คิดเรื่องการสร้างแบรนด์ของตัวเองมาก่อน
แต่.....ถ้าต้องการนำทีมทั้งทีมจริงๆ เกรงว่าจำเป็นต้องมีสไตล์ที่แน่นอน
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หานมู่จื่อก็เริ่มปวดหัวขึ้นมา
สรุปเธอรู้สึกว่า หลังจากก่อตั้งบริษัท ชีวิตของเธอคงจะยุ่งมากขึ้นกว่าเดิมแน่
“หม่ามี๊ หม่ามี๊ ทำบริษัท ผมจะมีตำแหน่งในนั้นด้วยได้ไหมครับ?” เสี่ยวหมี่โต้วจู่ๆ ก็ถามด้วยความสงสัย
เมื่อได้ยิน หานมู่จื่อก็อดถลึงตาใส่เขาไม่ได้ “เด็กอย่างลูก ต้องการตำแหน่งอะไร? "
“หึ" เสี่ยวหมี่โต้ว ส่งเสียงออกมา ราวกับเสียใจเล็กน้อย
“ลุงให้ตำแหน่งกับนายเอง” หานชิงหยิกแก้มของเสี่ยวหมี่โต้ว “พรุ่งนี้แม่ของนายคงยุ่ง นายไปบริษัทกับลุงแล้วกัน”
“ได้หรือครับคุณลุง? อย่างนั้นคุณลุงจะให้ตำแหน่งที่สุดยอดมากๆ กับผมไหมครับ?” ดวงตาเสี่ยวหมี่โต้ว เป็นสดใสประกายอย่างยิ่ง มองแล้วไร้เดียงสาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ในดวงตานั้น หานชิงราวกับมองเห็นร่องรอยของเล่ห์เหลี่ยมอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขามองดูอีกครั้งมันกลับหายไปแล้ว
เขาคิด เห็นทีตนคงจะตาฝาดไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่