เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 592

บทที่591นายวางแผนมาหมดแล้วใช่ไหม

เจอเย่หลิ่นหานอีกครั้งแล้ว

ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเหตุการณ์แบบนี้ หานมู่จื่อมองไปที่ใบหน้าที่ยังคงอ่อนโยนที่อยู่ไกลๆ รอยยิ้มจางๆ ในแววตาของเขาทำให้เธอเกิดภาพลวงตาเหมือนกับอยู่อีกโลกหนึ่ง

หานมู่จื่อเม้มริมฝีปากที่แดงระเรื่อของตัวเอง หลังจากนั้นก็เดินเข้าไป

ไม่ว่าจะเป็นห้าปีก่อน หรือว่าห้าปีหลัง เย่หลิ่นหานก็ยังคงเป็นสุภาพบุรุษและอ่อนโยน

พอเธอเดินใกล้เข้าไป เขาก็เดินอ้อมโต๊ะมาดึงเก้าอี้ให้เธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

“นั่งสิ”

“ขอบคุณ”

หลังจากเอ่ยขอบคุณเขาแล้ว หานมู่จื่อถึงได้นั่งลง

พนักงานเดินเข้ามา หลังจากสอบถามว่าพวกเขาจะดื่มอะไร ก็หยิบเมนูแล้วก็เดินออกไป

สายตาของเย่หลิ่นหานมองมาที่ใบหน้าของเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน แล้วพูดเบาๆ ว่า

“ฉันก็นึกว่าเธอจะไม่ยอมมาเจอฉันซะอีก”

หานมู่จื่อหยุดไปครู่หนึ่ง มองใบหน้าที่เงียบสงบและสง่างามราวกับลมของเขา เมื่อเปรียบเทียบกับเรื่องที่เขาแอบทำแล้วนั้น เธอก็อดรู้สึกเย้ยหยันไม่ได้ ดังนั้นริมฝีปากสีแดงของเธอก็คลี่ยิ้มที่เยาะเย้ยออกมา พร้อมกับพูดเชิงประชดประชัน “ถ้าเกิดว่าฉันไม่ยอมเจอนาย ประธานเย่หลิ่นหานก็มีวิธีบังคับให้ฉันติดต่อนายมาเองอยู่ได้ไม่ใช่เหรอ? ”

คำว่าประธานเย่หลิ่นหาน รอยยิ้มที่มุมปากของเย่หลิ่นหานก็จางลงไปเยอะ สายตาที่เขามองหานมู่จื่อนั้นดูไม่มีทางเลี่ยง

“ทำไม? ตอนนี้เธอเห็นว่าฉันเป็นศัตรูขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ? ฉันทำผิดอะไรไปงั้นเหรอ? ”

“เป็นศัตรู? ”

หานมู่จื่อยิ้ม “นายคิดว่าฉันเห็นนายเป็นศัตรูตรงไหน? ”

“ถ้าเกิดว่าไม่ได้เห็นเป็นศัตรู แล้วทำไมเธอถึงไม่ยอมรับว่าฉันเป็นเพื่อน? ทำไม……ถึงได้เรียกฉันว่าประธานเย่หลิ่นหานอย่างห่างเหินแบบนี้ด้วย? ”

หานมู่จื่อมองเขา ไม่พูดอะไร

แต่ว่าเห็นได้ชัดว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของทั้งสองคนหายไปแล้ว

เย่หลิ่นหานมองเธออยู่นาน สุดท้ายก็ยอมแพ้อย่างไม่มีทางเลี่ยง เขาถอนหายใจออกมา “เฉียวเฉียว อย่าทำกับฉันแบบนี้แล้ว ฉันเคยบอกเธอแล้วไง ว่าฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย”

“ถ้ายังงั้นนายต้องการอะไร? ” หานมู่จื่จ้องหน้าเขานิ่ง “ถ้าเกิดว่านายไม่ได้มีเจตนาร้าย ก็ควรจะไม่ทำอะไรเลยไม่ใช่เหรอ? ผู้จัดการอี้ รวมถึงสัญญาฉบับนั้น นายวางแผนมาหมดแล้วใช่ไหม? ”

พอได้ยินประโยคนี้ เย่หลิ่นหานก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรงอีกครั้ง

“ดูแล้วในสายตาเธอ พี่ใหญ่เป็นคนเลวร้อยเปอร์เซ็นต์เลยสินะ”

พี่ใหญ่……

คำเรียกนี้ฟังแล้วดูห่างไกลมาก หานมู่จื่อตะลึงไปชั่วขณะ แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันกับเย่โม่เซินไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว นายก็ไม่ใช่พี่ฉันแล้ว”

“ในที่สุดเธอก็ยอมรับแล้วว่าฉันไม่ใช่พี่เธอ” เย่หลิ่นหานค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา “เมื่อห้าปีก่อนฉันไม่อยากให้เธอเรียกฉันว่าพี่ แต่ว่าเธอก็ไม่ยอม แต่ว่าตอนนี้หลังจากผ่านมาห้าปี แม้แต่คำว่าพี่เธอก็ไม่ยอมเรียกฉันแล้ว แต่ว่าทำไมฉันถึงได้รู้ว่าเศร้ามากกว่าเดิมกันนะ? ”

หานมู่จื่อ :“……”

“พูดตามตรง ที่อี้เทียนไปคุยกับเธอเรื่องสัญญา ฉันไม่รู้เรื่องเลย ฉันรู้หลังจากที่เขามารายงาน ว่าฝ่ายที่จะร่วมงานด้วยก็คือเธอ”

ประโยคนี้ เย่หลิ่นหานพูดด้วยความจริงใจมาก น้ำเสียงก็จริงจังมากเช่นกัน สีหน้าและแววตาของเขาไม่ได้เหมือนว่ากำลังโกหกอยู่เลย แต่ว่าหานมู่จื่อไม่ค่อยอยากจะเชื่อเขาเท่าไหร่

เธอรู้สึกว่า เรื่องนี้มันไม่ได้บังเอิญขนาดนั้น จะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะรู้หลังจากได้รับการรายงาน?

ถ้าเกิดว่ารู้หลังจากที่ได้รับรายงานจริง ถ้ายังงั้น……ท่าทางของอี้เทียนที่มีต่อเธอนั้นมันคือเรื่องอะไรกัน?

แน่นอนว่าเธอไม่ได้พูดอะไรพวกนี้ออกมา เย่หลิ่นหานกลับยิ้มแล้วก็พูดเบาๆ ว่า “พอแล้ว ในเมื่อพวกเรามาเจอกัน ก็ไม่ควรจะพูดเรื่องที่ไม่มีความสุขสิ วันนี้เธอยอมมาเจอฉัน ฉันดีใจมากเลยนะ”

หานมู่จื่อเม้มริมฝีปากของเธอ ไม่ได้ตอบอะไรเขา

“ถ้าเกิดว่าเธอไม่ยอมเรียกฉันว่าพี่ล่ะก็ ก็เลยชื่อฉันก็ได้ อย่าเรียกว่าประธานเย่หลิ่นหานเลย”

“การต่อสู้ เหยื่อ? ” สุดท้ายเย่หลิ่นหานก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมา “ใครบอกว่าเธอเป็นเหยื่อกัน? เธอคิดแบบนี้งั้นเหรอ? ”

“ไม่งั้นจะอะไรล่ะ? นายคงไม่ได้คิดว่าฉันเป็นเด็กสองสามขวบหรอกใช่ไหม? คงไม่คิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดของนายง่ายๆ แบบนั้นหรอกใช่ไหม? ”

“มู่จื่อ ที่เธอพูดแบบนี้ แสดงว่าไม่ได้มั่นใจในบริษัทที่ตัวเองเปิดงั้นเหรอ? รู้สึกว่า……เงื่อนไขของบริษัทเธอไม่ได้ดีจนทำให้ผู้บริหารชั้นสูงของบริษัทแอลที่เป็นคนติดต่อเธอเพราะอยากจะร่วมงานด้วย? ”

พอได้ยินดังนั้น หานมู่จื่อก็หยุดชะงัก

ไม่พูดไม่ได้ว่า เย่หลิ่นหานเป็นมือหนึ่งในการเจรจาจริงๆ

สามารถค่อยๆ นำเธอไปสู่ระดับอื่นๆ ทำให้เธอไม่สามารถที่จะโต้แย้งเขาได้

เหมือนกับเมื่อห้าปีก่อนที่เขาเอาเงินให้เธอสามแสน ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นหานมู่จื่อจะให้หานชิงเอาเงินคืนให้เขาแล้ว แต่ว่าการกระทำของหานชิงในตอนนั้น……มันทำให้คุณไม่มีทางที่จะปฏิเสธเขาได้เลย

“มั่นใจในตัวเองหน่อยสิ”

เย่หลิ่นหานคลี่ยิ้มออกมาเบาๆ ยื่นแขนออกไป อยากจะลูบหัวเธอ

การกระทำแบบนี้ มันเหมือนกับเมื่อก่อนเลย

หานมู่จื่อมองเขายื่นมือมาอย่างอึ้งๆ หลังจากนั้นก็วางไว้ด้านหลังศีรษะของเธอ พร้อมกับลูบเบาๆ

“เข้าใจไหม? ”

หานมู่จื่อดึงสติกลับมา เอนหัวไปด้านหลัง แล้วก็ขมวดคิ้วพร้อมกับมองฝ่ายตรงข้าม เย่หลิ่นหานยิ้มให้เธอด้วยรอยยิ้มที่ไม่มีอันตราย ทำให้เธอไม่สามารถแม้แต่แสดงอารมณ์โกรธของตัวเองได้

แต่ว่ายิ่งเป็นแบบนี้ หานมู่จื่อยิ่งรู้สึกเหมือนมีกองไฟสุมอยู่ในอกของเธอ อยากจะระเบิดแต่ก็ระเบิดไม่ได้ มันทำให้เธอทุกข์ใจอย่างมาก

เธอกัดฟันแน่น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุร้าย “พูดได้น่าฟังมาก เรื่องเมื่อตอนนั้น ฉันไม่เชื่อว่าไม่ใช่ฝีมือนาย”

เย่หลิ่นหานอึ้งไป “เรื่องไหนเหรอ? ”

“ประธานเย่หลิ่นหานนี่ช่างขี้ลืมจริงๆ ตัวเองกำกับละครเรื่องไหน ก็จำไม่ได้แล้วงั้นเหรอ? ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่