กินอาหารง่าย ๆ เสร็จ เฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวก็เตรียมตัวจะไปขายไก่ป่ากับกระต่ายในเมือง
ฉินเย่ว์โหรวร่างกายอ่อนแอจึงอยู่เฝ้าเรือนแทน
หมู่บ้านซานเหออยู่ในเมืองที่มีชื่อว่าเมืองหลีผิง จากหมู่บ้านซานเหอไปยังตลาดในเมืองเพียงสิบกว่าลี้ ระยะห่างไม่ไกลมากนัก
คนชนบทเป็นคนตื่นเช้า เมื่อเฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวเดินมาถึง ในตลาดก็เต็มไปด้วยเสียงเรียกขายของต่าง ๆ ดังไม่ขาดสาย
สำหรับฉินเย่ว์เจียวแล้ว การขายไก่ป่ากับกระต่ายเป็นสิ่งที่นางคุ้นเป็นอย่างดี
“น้องเย่ว์เจียวมาแล้วหรือ วันนี้ล่าได้สัตว์อะไรมาล่ะ”
สตรีวัยกลางคนขายไช้กัวอยู่ข้าง ๆ ถามขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นฉินเย่ว์เจียว
แต่เมื่อสตรีวัยกลางคนเห็นเฉินฝานที่ยืนอยู่ข้างหลังฉินเย่ว์เจียวแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปทันใด ตามมาด้วยการมองเฉินฝานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
เมื่อก่อนเฉินฝานตามมาเอาเงินทั้งนั้น เมื่อได้เงินแล้วก็เอาไปเล่นพนันทันที คนที่นี่จึงไม่ต้อนรับเขามากนัก
ฉินเย่ว์เจียวยกไก่ป่าขึ้นมา “ท่านป้า วันนี้ข้าจับไก่ป่าได้เจ้าค่ะ!”
สตรีวัยกลางคนก้มศีรษะลงและมอง “โอ้โห ไก่ป่าตัวนี้ช่างอ้วนท้วนเหลือเกิน วันนี้น้องเย่ว์เจียวจะรวยแล้วล่ะสิ ไก่ป่าดีขนาดนี้คงขายได้ราคาดีแน่ เจ้าไปจับมันมาจากที่ไหนหรือ!”
สตรีวัยกลางคนพูดไปพลางกลอกตาให้กับเฉินฝาน
นางทำได้เพียงถอนหายใจอยู่ข้างใน หญิงสาวดีขนาดนี้ น่าเสียดายที่ถูกจัดสรรให้กับผู้ชายขี้เกียจตัวเป็นขนเช่นนี้
“ท่านป้า วันนี้ข้าไม่เพียงมีแต่ไก่ป่า ข้ายังมีกระต่ายด้วย นายท่านข้าจับได้ที่ภูเขาหัวเสือน่ะ”
ฉินเย่ว์เจียวแต่งงานกับเฉินฝานมานานมาก นี่เป็นครั้งแรกที่นางพูดคำสามคำว่า ‘นายท่านข้า’ อย่างภาคภูมิใจ
“นายท่านของเจ้าเป็นคนล่ามาได้รึ!” สตรีวัยกลางคนแสดงสีหน้าไม่เชื่อ
สตรีวัยกลางคนพูดไม่ออกทันทีที่เฉินฝานหยิบไก่ป่ากับกระต่ายออกมาจากตะกร้าที่หลัง
เห็นผีเข้าแล้ว คนเสเพลกลับตัวใหม่?
……
หลังจากพวกเฉินฝานออกไป ฉินเย่ว์โหรวเก็บกวาดห้องเสร็จนางพลางเดินไปที่เล้าไก่
ในนั้นยังมีไก่ป่าอีกหนึ่งตัว เฉินฝานบอกแล้วว่าไม่ขายตัวนี้ เก็บไว้ให้มันออกไข่และให้นางกินบำรุง
แววตาและน้ำเสียงของเขาตอนพูดช่างอ่อนโยนเหลือเกิน
เมื่อนางบำรุงร่างกายดี ก็จะมีเนื้อมีนวลมากขึ้น และนางก็จะผลิดอกออกผล คลอดเจ้าตัวจ้ำม่ำให้เขาได้
ฉินเย่ว์โหรวปิดหน้าตัวเองอย่างเขินอาย
“หน้าไม่อายเลยจริง ๆ ในสมองคิดแต่เรื่องเช่นนี้อยู่ได้”
มีเสียงเท้าดังขึ้นจากข้างหลัง
ฉินเย่ว์โหรวหันกลับไปอย่างดีใจ “นายท่าน พี่สาม พวกท่าน……”
“แม่หญิงฉิน ข้าไม่ใช่นายท่านของเจ้า ข้าคือพี่จูของเจ้า!”
ใบหน้าอัปลักษณ์ของจูต้าอันปรากฏขึ้นตรงหน้าฉินเย่ว์โหรว
เขาฉีกยิ้มและเผยให้เห็นฟันเหลืองที่มีอยู่เต็มปากพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความชั่วร้าย
เมื่อได้รู้ว่าฉินเย่ว์โหรวยังเป็นหญิงบริสุทธิ์ ในสมองของจูต้าอันก็เต็มไปด้วยฉินเย่ว์โหรว
เขาชอบแม่หญิงเช่นนี้ที่ทั้งเนื้อหอมและบริสุทธิ์
จูต้าอันใช้มือปิดประตูเรือนแล้วเดินเข้าไปใกล้ฉินเย่ว์โหรวทีละก้าว “แม่หญิงหน้าแดงเช่นนี้ กำลังคิดถึงผู้ชายของเจ้าอยู่ล่ะสิ!”
ฉินเย่ว์โหรวมองหน้าจูต้าอันพร้อมถอยหลัง ดวงตาที่โหญ่โตเท่าดวงดาวคู่นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและกังวลใจ
“ไอ้เฉินฝานมันเป็นคนขี้ขลาดตาขาว เจ้าเข้ามาอยู่ตั้งนานแต่ยังไม่เคยทำอะไรเจ้า ช่วงเวลานี้แม่หญิงคงจะเปล่าเปลี่ยวแน่เลยใช่หรือไม่!”
“ไม่ต้องกลัวนะ พี่ชายจะช่วยเจ้าเอง!”
ปากกล่าวหยอกล้อ จูต้าอันตื่นเต้นพลันพุ่งเข้าหาฉินเย่ว์โหรวและกดนางลงกับพื้นกลางลานสวน
“ปล่อยข้านะ ไอ้เศษสวะ!”
ฉินเย่ว์โหรวดิ้นรนสุดชีวิตจนจูต้าอันเกือบคุมนางไม่อยู่ไปชั่วขณะ
เขาจึงตบหน้าฉินเย่ว์โหรวและกล่าวอย่างดุร้าย “นังโสเภณี! ที่ข้าทำอะไรเจ้าเพราะข้าสงสาร อย่าทำตัวไว้หน้าแล้วแต่ไม่รู้จักรับนะ!”
ใบหน้าฉินเย่ว์โหรวแดงขึ้นทันใด เลือดพลางไหลลงจากมุมปาก
ในดวงตานางเต็มไปด้วยความโกรธอันเดือดดาล นางใช้กำลังทั้งหมดออกแรงข่วน
จูต้าอันคว้ามือนางแล้วมัดด้วยเข็มขัด จากนั้นหยิบห่อยาออกมากรอกปากนาง
ผงยาละลายทันทีที่เข้าปาก เพียงครู่เดียวฉินเย่ว์โหรวก็รู้สึกร่างกายอ่อนระทวยทันทีจนแทบไม่เหลือแรงสู้
จูต้าอันเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้แล้วก็ยิ้มขึ้นอย่างหื่นกาม “ข้าใช้เงินตั้งมากมายเพื่อซื้อของดีอันนี้!”
ฉินเย่ว์โหรวยกมือเท้าขึ้นทั้งตีและเตะ ลำคอส่งเสียงสะอึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่เหมือนสัตว์ตัวเล็ก
ร่างกายนางรู้สึกลุ่มร้อนเป็นพัก ๆ น้ำตาแห่งความอัปยศไหลอาบแก้มฉินเย่ว์โหรว
เมื่อรู้สึกแล้วว่ามือเท้าไม่อยู่ในการควบคุมแล้ว ฉินเย่ว์โหรวพลันตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะฆ่าตัวตายด้วยการกัดลิ้น!
จูต้าอันเดาออกแต่ทีแรกจึงยัดมือข้างหนึ่งเข้าไปในปากของฉินเย่ว์โหรว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ