เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 42

ซ่งเจิ้นไห่เข้าใจเพื่อนเก่าคนนี้เป็นอย่างดี นิสัยหยิ่งผยอง ราวกับว่าจะหยิ่งไปถึงเลือด หยิ่งเข้ากระดูกดำไปเลย

ก่อนนี้มีแพทย์แผนจีนฝีมือดีและมีชื่อเสียงหลายต่อหลายคนขอร้องให้ซ่งเจิ้นไห่ช่วยแนะนำให้ ด้วยหวังว่าจะได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกับปรมาจารย์แพทย์แผนจีนคนนี้ แต่เขาแม้แต่จะเจอหน้ากันสักครั้งยังคร้านจะเจอ ทั้งหมดถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

หากว่าครั้งนี้ไม่ใช่ผู้มีพระคุณต่อซ่งเจิ้นไห่ อีกทั้งยังถูกหว่านล้อมทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง เขาก็คงไม่มีทางมาพบเซียวชุ่นเป็นแน่

แต่ว่า ในตอนนี้คนที่หยิ่งผยองเข้ากระดูกดำคนนี้ไม่แม้แต่จะแข่งด้วยซ้ำ กลับพูดออกมาด้วยท่าทางสบาย ๆ ว่า “ฉันยอมแพ้”?

ซ่งเจิ้นไห่ถึงกับสงสัยว่า หวางเย๋ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นของลอกเลียนแบบหรือเปล่า นี่มันผิดปกติเกินไป!

“ท่านหวาง ทำไมท่านถึง...” เหยาเจิ้นชูไม่รู้จะทำอย่างไร มันอาจจะเป็นเพราะเขาเกรงใจชายชราคนนี้ จึงแค่พูดกลับกันเท่านั้น

“พวกคุณไม่ได้ฟังผิด ข้ายอมแพ้ ผู้เพื่อนเซียวคนนี้ฝีมือทางการแพทย์สูงกว่าฉันอย่างเห็นได้ชัด” หวางเย๋พูดด้วยสีหน้านิ่งเรียบ

“แต่ว่า... ท่านไม่แม้แต่จะแข่ง...” เหยาเจิ้นชูยังคงพูดด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

หวางเย๋หัวเราะในลำคอพร้อมกับพูดต่อ “ไม่จำเป็น ฉันหวางเย๋ออยู่ในโลกแพทย์แผนจีนหลายทศวรรษ ไม่มีทางที่จะมองคนผิด”

จากนั้นก็หันไปทาง เซียวชุ่นและโค้งคำนับ “ผู้เพื่อนเซียว ไม่รู้ว่าฉันจะสามารถมีโอกาสได้พูดคุยกับท่านเป็นการส่วนตัวหรือไม่?”

เซียวชุ่นเหลือบตามองเขาเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า

“นายท่านตระกูลเหยา ขอยืมห้องอันล้ำค่าสักห้องจะได้หรือไม่ เพื่อให้ข้ากับผู้เพื่อนเซียวได้พูดคุยกัน?” หวางเย๋กดความดีใจในหัวใจเอาไว้

เหยาเจิ้นชูมองไปทางเซียวชุ่นด้วยสีหน้าสับสน จากนั้นก็พยายามปั้นหน้ายิ้ม “แน่นอน เป็นเกียรติยิ่งนัก”

เขารีบสั่งการคนรับใช้ให้พาหวางเย๋กับเซียวชุ่นไปห้องรับรองแขกห้องหนึ่งของบ้านเก่าแก่

มองทั้งสองเดินจากไป คนที่เหลือก็พากันมองหน้ากันไปมา สีหน้างุนงง

ณ ห้องรับรองแขกของบ้านเก่าแก่ตระกูลเหยา

หลังจากที่คนรับใช้ได้ปิดประตูห้องลงด้วยความระมัดระวัง หวางเย๋คุกเข่าลงต่อหน้าเซียวชุ่นดังปุก สีหน้าตื่นเต้นดีใจเหลือประมาณ “คุณเซียวช่วยฉัน ช่วยตระกูลหวาง...”

เซียวชุ่นก็ตกใจจากการกระทำของเขาที่อยู่ ๆ ก็คุกเข่าลงไปกับพื้น รีบพยุงเขาขึ้นมาทันที จากนั้นก็ถอนหายใจและขมวดคิ้วแน่น

“ตอนที่อยู่ที่สืออันถังฉันก็ได้บอกคุณไปแล้ว ตอนนี้ฉันไม่สามารถช่วยคุณได้”

“เช่นนั้น... เช่นนั้นคุณเซียวจะสามารถช่วยฉันได้เมื่อไรกัน?” หวางเย๋พึมพำ

“ข้ายังฝึกตนไม่พอ”

เซียวชุ่นกุมมือพร้อมพูดขึ้นเบา ๆ จากนั้นก็พูดเสริม “แต่ว่าฉันสามารถช่วยคุณบรรเทาอาการเจ็บป่วยบนร่างกายได้ชั่วคราว มันจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นบ้าง”

หวางเย๋เผยสีหน้าที่มีชีวิตชีวา แก้มทั้งสองข้างแดงระเรื่อ เป็นความจริงที่เขาต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดทุกวัน โดยเฉพาะเมื่อถึงตอนกลางคืน ราวกับมีแมลงนับหมื่นตัวกำลังกัดกินกระดูกของเขาอยู่แทบจะทำให้เขาตายไปด้วยความเจ็บปวด

มีหลายครั้งที่สาหัสจนเขาคิดว่าจะผสมยาพิษจบชีวิตตัวเองเสีย

แต่ใช้ชีวิตแย่ ๆ ก็ยังดีกว่าตายดี ถึงอย่างไรเขาก็รู้ตัวดีว่ามีชีวิตได้อีกไม่ถึงหนึ่งปี เช่นนั้นจึงยังคงไม่กล้าที่จะลงมือ

ได้ยินคำพูดของเซียวชุ่น สีหน้าก็พลันเปลี่ยนเป็นความดีใจทันที “ได้จริง ๆ หรือ?”

“ลองดูก่อนก็ได้” เซียวชุ่นพูดพร้อมกับหยิบกล่องเข็มขึ้นมา

“ที่นี่เลยหรือ?” หวางเย๋รู้สึกลังเลเล็กน้อย

“ที่นี่แหละ” เซียวชุ่นชี้ไปที่เก้าอี้อีกตัวข้าง ๆ พร้อมเอ่ย “คุณไปนั่งตรงนั้นเถอะ”

หวางเย๋รีบเดินไปนั่งตามที่บอก เซียวชุ่นยืนอยู่ด้านข้าง จิ้มเข็มเงินเล่มหนึ่งลงไปที่จุดหยินอย่างระมัดระวัง ตามด้วยจุดฝังเข็มอื่น ๆ ทุกเข็มที่จิ้มลงไปก็ได้เอาพลังชี่ทิพย์ที่อยู่ในร่างกายของตนพันรอบรอบเข็มและค่อย ๆ ปล่อยเข้าไปด้วย

หลังจากผ่านไป 13 เข็ม เขาก็พ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่

หวางเย๋เผยสีหน้าประหลาดใจ รู้สึกแค่ว่าที่ข้างหูมีเสียงคำรามของมังกรสะท้อนกลับมา ภาพหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า

ราวกับว่าทุกสิ่งอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้ตูมที่เพิ่งงอกเงย

แต่ว่าของแบบนั้นเอาเก็บไว้ที่สืออันถัง บางทีไม่สู้เก็บไว้ที่เขาน่าจะมีประโยชน์มากกว่า

นอกจากนี้ เขายังมีของดี ๆ อีกมากมาย ตนจะเก็บค่ารักษาสักเล็กน้อยก็คงไม่เกินไป ถือว่าช่วยซ่งหลิงเอ๋อร์ยกระดับผลการฝึกตนสักหน่อยก็ถือว่ายังดี

“ช่วยได้เล็กน้อย แต่ก็ไม่มากพอ เหยียนหวงสิบสามเข็มไม่ใช่วิชาฝังเข็มที่จะหาได้ทั่วไป จำเป็นต้องใช้โอกาสที่แน่นอนถึงจะยกระดับได้”

เซียวชุ่นพูดไปตามเนื้อผ้า

“ในเมื่อมันสามารถช่วยคุณเซียวได้ เช่นนั้นฉันก็จะมอบให้คุณเอง ต่อไปพวกเราตระกูลหวังก็จะเป็นม้าศึกให้คุณเซียว เพียงแค่คุณเซียวต้องการตระกูลหวาง แค่คุณเอ่ยปากเท่านั้น”

หวางเย๋พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ

เขาคิดมาอย่างชัดเจนแล้ว ถึงแม้ตอนนี้เซียวชุ่นจะยังช่วยเขาไม่ได้ แต่ว่าเขาก็มีโอกาสที่จะช่วยเหล่าลูกหลานตระกูลหวาง ฉะนั้นถึงแม้จะมีความหวังเพียงเล็กน้อยก็ไม่สามารถยอมแพ้ได้

“เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ” เซียวชุ่นโบกมือไปมา ถึงอย่างไรก็เป็นสิ่งที่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว

ตอนที่ทั้งสองคนกลับไป ซ่งเจิ้นไห่กับคนตระกูลเหยายังอยู่ ทั้งหมดต่างมองมาที่ทั้งสองคนด้วยสายตาแปลกประหลาด

หวางเย๋ยกมือขึ้นทำท่าคำนับ สีหน้าแฝงไปด้วยความรู้สึกเกรงใจ “ขอโทษด้วย ทำให้ทุกท่านต้องรอนาน”

ส่วนเรื่องอื่น ๆ นั้นเขาก็ไม่ได้อธิบายอะไร ด้วยสถานะของเขา ในเมื่อเขาไม่อยากพูด ทุกคนก็ไม่กล้าถามเช่นกัน

เซียวชุ่นกลับไปนั่งที่นั่งของตัวเองด้วยสีหน้าราบเรียบอีกครั้ง

“ท่านหวาง ภรรยาของฉันหายใจไม่สะดวก อีกทั้งยังกระสับกระส่ายได้ง่าย ไม่รู้ว่าจะสามารถเชิญท่านไปตรวจดูนางเสียหน่อยได้หรือไม่” เหยาเจิ้นชูถือโอกาสพูดขึ้นมา

หวางเย๋ยิ้มบาง ๆ ใช้เสียงที่ไม่ดังแต่กลับได้ยินกันทั่วถึงพูดออกมา

“พวกเจ้าตระกูลเหยามีคุณเซียวซึ่งเป็นปรมาจารย์แห่งยุค เหตุใดจึงต้องให้ฉันไปตรวจ หรือหมายใจจะให้ฉันไปสอนจระเข้ว่ายน้ำหรือ?”

ในตอนแรกเขาก็พบแล้วว่าคนตระกูลเหยาไม่มองเซียวชุ่นอยู่ในสายตา ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แต่ในใจกลับรู้สึกไม่ชอบใจแทนเซียวชุ่น ในขณะเดียวกันก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะยกสถานะของเซียวชุ่นให้สูงขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊