ประจวบกับเวลาตอนนี้ ฮู๋เสว่ซงละไป๋เคอเดินเข้ามาพอดี ก่อนจะมีลูกค้าคนอื่นๆที่ติดตามเดินเข้ามาดู “ผู้จัดการฟาง เป็นอย่างไรบ้าง? บัตรของเขามีเงินกี่บาท?”ฮู๋เสว่ซงพูดยิ้มๆ
ฟางเชี่ยนทำตัวไม่ถูกก่อนจะมองไปที่เซียวชุ่น
เซียวชุ่นหัวเราะเบาๆ ก่อนเอ่ย “บอกเขาไปดังๆสิ ไม่ต้องปิดแล้ว”
ฟางเชียนไม่กล้าที่จะทำให้ทั้งสองฝั่งไม่พอใจ ก่อนจะมองไปที่ฮู๋เสว่ซงและพูดเบาๆในลำคอ “ห้าสิบล้านบาท…”เสียดายที่เสียงนั้นเบาเกินไป ทำให้ไม่มีใครได้ยินชัดเจน
ฮู๋เสว่ซงมองไปที่ฟางเชี่ยนรู้สึกประหลาดใจ ทันใดนั้นในใจเกิดความกลัว ในใจคิดคงมีไม่เกินหนึ่งล้านบาทหรอก?
“พูดดังๆหน่อยสิ ข้าอยู่ตรงนี้ เจ้ายังจะกลัวเจ้าคนจนนี้อีกหรอ?”เขาพูดตะโกนเสียงดัง
ฟางเชี่ยนกัดฟัน ก่อนจะพูดเสียงดัง“ฉันพูดว่า เขามีห้าสิบล้านบาท!”
เนื่องจากงานที่เธอทำ จึงทำให้เธอไม่ชินกับการใช้เสียงดังมากนัก แต่เพื่อทำให้ฮู๋เสว่ซง ไป๋เคอ และคนที่มาดูเรื่องราวต่างๆพอใจและได้ยินชัดเจน
“เจ้าพูดว่ายังไงนะ? ห้าสิบล้านบาท!”
“เป็นไปไม่ได้ เขาจะมีตั้งห้าสิบล้านบาทได้ยังไง ทรัพย์สินของเขารวมถึงภรรยารวมกันแล้วยังไม่ถึงห้าสิบล้านบาทเลย!”
“เจ้าพูดผิดหรือเปล่า ตรวจอีกทีสิ ตรวจอีกรอบนึง!”
ฮู๋เสว่ซงพูดตะโกนอย่างโกรธๆหลายครั้งๆ
เขาไม่เชื่ออย่างแน่นอน เพราะตระกูลเหยานั้นไม่มีอะไรเลย ไร้ประโยชน์ จะมีเงินมากมาย อีกทั้งเขายังเห็นกับตาตัวเองว่าเจ้านั่นมันทำตัวน่าสงสารขนาดไหน ถ้าหากเขามีเงินมากมายขนาดนี้จริงๆ ทำไมจะต้องทำตัวน่าสงสาร?
หรือว่าเขาจะแกล้งทำตัวน่าสงสารให้เราดู?เพื่อที่จะหลอกล่อให้เราตกหลุมพราง?
แต่ว่าเมื่อสักครู่เขานั้นได้พูดไปแล้วว่าในบัตรเขามีเท่าไหร่ จะให้เขาเท่านั้น หรือว่านี่ข้าจะขุดหลุดฝังตัวเองกันแน่เนี่ย
ฮู๋เสว่ซงคิดด้วยความอับอายเป็นอย่างมาก
ห้าสิบล้าน หากอิงจากระดับความเป็นใหญ่แล้วนี่ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่หากสำหรับคนระดับนี้ที่มาธนาคารด้วยตัวเองไม่ต้องสงสัยเลยส่วนมากก็คงจะเป็นชาวบ้านธรรมดา
โดยเดิมทีคนรอทำธุรกรรมในห้องโถงใหญ่นั้น ไม่ได้สนใจเรื่องนี้นัก แต่กลับเป็นเพราะฮู๋เสว่ซงตะโกนออกไปจึงทำให้เรื่องนี้ถูกผู้คนจับตามองเป็นอย่างมาก
“คุณชายฮู๋ ไม่ต้องเช็กแล้ว ไม่มีผิดอย่างแน่นอน ยอดเงินในบัตรของคุณผู้นี้นั้นมีเงินในบัตรห้าสิบล้านจริงๆ”ฟางเชี่ยนพูดยืนยัน
“ไม่อยากจะเชื่อ มองไม่ออกจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะแอบซ่อนคนใหญ่คนโตไว้อีก”
“เขานั้นจริงๆแล้วแค่ถ่อมตนเฉยๆ แต่เมื่อสักครู่ถูกล้อว่าเป็นคนจน มันช่างน่าอายจริงๆ ไม่รู้ว่าคุณชายฮู๋กับนายผู้นั้นจะเป็นยังไงกันบ้างแล้ว? ”
“มีเงินมากกว่าเขาแล้วยังไงล่ะ? ตอนนี้ไม่ใช่ต้องควักเงินให้เขาห้าสิบล้านหรอ ห้าสิบล้านอ่า จุ๊ จุ๊ ขาดทุนยับแล้ว”
“ไม่มีทางเลือก ใครอยากให้เขาพูดไปเรื่อยเอง พวกเราก็รอดูตอนเขาให้เงินนายคนนั้นห้าสิบล้านก็แล้วกัน”
คนที่อยู่ในพื้นที่ ที่รู้เรื่องตั้งแต่ต้นยันปลายเรื่อง ต่างก็เริ่มพูดวิจารณ์ต่างๆขึ้น
ในทางกลับกัน ฮู๋เสว่ซง เขาก็ได้ตื่นเต้นตกใจ และยืนนิ่งๆอยู่ตรงนั้น ไม่ต้องพูดถึงห้าสิบล้านบาท แม้แต่สิบล้านบาทเขาก็ควักออกมาให้ไม่ได้ เพื่องานแต่งที่จะมาถึงเขาได้ลงทุนไปเยอะอย่างมาก ซึ่งตอนนี้ในบัตรของเขานั้นมีเพียงแค่สามล้านบาท
ไม่ต้องพูดถึงเขา แม้แต่เขาจะเอาทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขาไปรวมด้วย ก็เกรงว่าจะยังรวมกันไม่ถึงห้าสิบล้านบาท
แต่ว่าตอนนี้มีคนตั้งมากมายอยู่ล้อมรอบ จะต้องมาเปลี่ยนใจตอนนี้หรอ?
ถ้าจะขายหน้าก็ขายหน้าแล้วกัน
ครอบครัวของเขานั้นมีฐานะ ตั้งแต่เล็กจนโตก็เลี้ยงเขามาอย่างดี ไม่เคยได้รับความอัปยศขายหน้าแบบนี้ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะตาแดง
“โธ่ที่รัก อย่าทำเป็นจริงจังสิ เรื่องหลอกแน่ๆ เขาคุณเท่าไหร่ในการแสดงละครครั้งนี้ บอกมาสิ ผมจะให้คุณสองเท่าเลย”
ไป๋เคอรีบถามอย่างสงสัยเป็นอย่างมาก ก่อนจะมองไปที่ฟางเชี่ยนและเจ๊จางพนักงานหน้าเคาน์เตอร์
เหลือไว้เพียงผู้คนและแขกในห้องโถงใหญ่ ที่ต่างก็ยืนงุนงงกันอยู่
“พระเจ้า สองคนนี้แสดงละครเก่งจัง? ถ้าอย่างงั้นห้าสิบล้านก็ไม่ต้องจ่ายแล้วนะสิ”
“ฉันไม่คิดอย่างงั้นนะ เขาก็คนที่ค่อนข้างจะยอมแพ้ไม่เป็นแต่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เลยสะบัดผู้หญิงทิ้ง ไม่สมกับลูกผู้ชายจริงๆเลย น่าสงสารผู้หญิงคนนั้น ”
“สมัยนี้ คนแบบไหนมันก็มีหมดเลยเนอะ”
ผู้คนในที่นี้ต่างก็พูดวิจารณ์กันไป
“โอเคแล้ว โอเคแล้ว พวกคุณรีบทำธุระกันต่อเถอะ อย่ามัวมายืนมุงอยู่ที่นี่เลย”
เจ๊จางแสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่าเป็นพนักงานเคาน์เตอร์ที่มีความชำนาญการณ์สูฝ เธอยืนขึ้นก่อนจะรีบพูดออกไปนอกหน้าต่อ ก่อนที่ผู้คนด้านนอกจะค่อยๆสลายตัวไป
“คุณเซียว เรื่องเมื่อสักครู่ต้องขอโทษเป็นอย่างมากนะคะ ขอให้ท่านกรุณาอย่าโกรธเคือง ”เธอพูดกับเซียวชุ่นด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนสีแดงสลับขาวไปมา
“ตอนนี้ผมสามารถที่จะทำธุรกรรมได้หรือยังครับ?”
ถึงแม้ว่าเซียวชุ่นจะไม่ได้สนใจเรื่องเล็กน้อยนี้ แต่ก็ไม่ได้พูดให้อภัยเธอ และเอ่ยด้วยความเฉยเมย
“แน่นอนค่ะ ถ้าอย่างงั้นคุณสามารถตามฉันมาที่ห้อง วีไอพี ได้เลยค่ะ ที่นี่เสียงรบกวนดังไปหน่อย ”ฟางเชี่ยนพูด
เซียวชุ่นพยักหน้า ก่อนจะเดินตามเธอเข้าไปที่ห้องVIP ได้ทำการโอนเงิน และก่อนจะได้อัพระดับเป็นลูกค้าวีไอพีของธนาคารนี้
เมื่อเดินออกมาจากธนาคาร เซียวชุ่นยกโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะโทรหาซ่งหลิงเอ๋อร์ ก่อนจะเตรียมที่จะบอกเธอว่าเงินได้โอนไปให้เธอแล้ว
เมื่อได้รับโทรศัพท์ก็ได้ยินเสียงหอบของซ่งหลินเออร์“อาจารย์ ฉันจะโดนคนอื่นหั่นตายอยู่แล้ว เดี๋ยวอีกสักครู่เดี๋ยวฉันจะโทรหาคุณนะ……”
สมองของแม่หนูคนนี้มันไม่เหมือนคนอื่นจริงๆ จะโดนคนอื่นหั่นฆ่าตายอยู่แล้วยังบอกให้รอแป๊บนึง รออีกแป๊บยังจะมีชีวิตมาพูดอยู่อีกมั้ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...