“คุณอยู่ที่ไหน?”เซียวชุ่นถาม
“น่าจะอยู่ที่คลับmomo….”
ยังพูดไม่จบก็ได้ยินเสียงต่อยกัน ทันใดนั้นก็ได้ตัดสายโทรศัพท์ไป
เซียวชุ่น“….”
เขารีบเดินไปที่ถนน ก่อนจะรีบโบกแท็กซี่ไปที่Momoคลับ
ใยยี่เง่านั่นเป็นถึงหลานสาวของซ่งเจิ้นไห่ ถึงจะพูดอย่างไรเธอก็เป็นลูกศิษย์ของเขา ยังไงก็ต้องช่วย
ไม่กี่สิบนาทีรถแท็กซี่ก็จอดลงที่หน้าคลับแห่งหนึ่ง
เนื่องจากเป็นตอนเช้า ทางด้านหน้ามีรถจอดอยู่ไม่กี่คัน มองแล้วไม่มีลูกค้าคนไหนเข้าออก
เซียวชุ่นเดินไปที่หน้าประตู ก่อนจะได้ยินเสียงทุบตีต่างๆจากภายด้านใน
เขาผลักประตูเข้าไป ภายในคลับนั้นมืดกว่าภายด้านนอกมาก เลยทำให้ดวงตาของพวกเขานั้นจำเป็นที่จะต้องเบิกตากว้างเองอัตโนมัติ
แต่ตอนนี้ภายในคลับนั้นวุ่นวายมาก มีผู้ชายสิบกว่าคนที่แต่งตัวเป็นอันธพาล กำลังต้องมองเด็กสาวผู้หญิงคนหนึ่งที่ร่างบอบบาง
ผมของเธอนั้นยุ่งเหยิง เสื้อผ้าที่ยับเยินและร่างกายที่โค้งงอ ที่ราวกับลูกแมวตัวน้อยที่กำลังโกรธจัดและจ้องมองไปที่ศัตรู
เนื่องจากที่เธอหันหลังให้กับประตู และเอาแต่จ้องไปที่ศัตรูด้านหน้า เลยทำให้ไม่รู้ว่าเซียวชุ่นนั้นมาถึงแล้ว
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกราวกับว่ามีใครเอามือมาวางบนไหล่ ราวกับมีใครเอาไฟฟ้ามาช็อต ส่วนมากแล้วเมื่อเจอดังนี้เธอจึงรีบจับมือคนที่เอามือที่พาดไว้ที่หัวไหล่ของเธอ และพร้อมที่กำลังจะพลิกและโจมตี
ก่อนจะได้ยินเสียงข้างๆหูที่คุ้นเคย “นี่ข้าเอง”
ก่อนที่เธอจะตัวแข็งนิ่งไป และหันหัวกลับไปดู ใบหน้าของเธอนั้นก็แสดงถึงความดีใจ“อาจารย์ ท่านมาทำอะไรที่นี่?”
ก่อนที่รอยยิ้มของความสุขจะหายไป ก่อนที่เธอจะขมวดคิ้ว และพูดว่าเป็นกังวล“ท่านหนีไป ที่นี่ไม่ปลอดภัยนะ ข้าจะคอยคุ้มกันข้างหลังให้เอง”
เซียวชุ่น“……”
ยัยบ้านี่น่าจะอ่านนิยายศิลปะการต่อสู้มากไปแล้วนะ แม้แต่คำพูดในนิยายยังพูดออกมาได้
แต่ว่าเร็วๆนั้นก็คิดตระหนักออกว่า เขาคิดว่าซ่งหลิงเออร์นั้นเก่งแค่วิชาแพทย์ แต่ทว่าไม่รู้ว่าด้านการต่อสู้เธอก็ทำได้ เธอเพียงแค่คิดว่าอยากจะปกป้องเขา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา และไม่แปลกใจเลยที่เธอจะเป็นจอมยุทธ์หญิงซ่ง
เซียวชุ่นกวาดตามองไปรอบๆ พวกนักเลงสิบกว่าคนนี้ จริงๆแล้วมีไม่กี่คนที่เป็นคนที่เรียนวิชามา
ไม่แปลกใจทำไมซ่งหลิงเออร์ถึงได้ลำบากขนาดนี้ ปกติแล้วเธอสามารถที่จะต่อสู้กับอันธพาลข้างถนนไม่กี่คนได้ แต่ทว่าหากมองจากความสามารถในการต่อสู้และร่างกายเธอในตอนนี้นั้นมันช่างยากเย็นเหลือเกิน อีกทั้งเธอยังตัวคนเดียวอีกด้วย
“เจ้าน่ะ ออกไปจากที่นี่สะ อย่ามายุ่งกับเรื่องไม่เป็นเรื่องสิ”
ก่อนจะมีชาย ที่บริเวณปลายคิ้วมีรอยแผลเป็นที่เป็นรอยบากออกมาพูดขึ้น
“เจ้าไม่ได้ยินหรอว่าเธอเพิ่งจะเรียกฉันว่าอาจารย์น่ะ? ไม่ว่าจะครั้งแรกหรือตลอดไปยังไงก็คืออาจารย์ ลูกสาวข้าถูกทำร้าย ข้าจะไม่สนใจได้ยังไงล่ะ” เซียวชุ่นลากซ่งหลิงเออร์ไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ซ่งหลิงเออร์นิ่งแข็งไป ก่อนจะเอ่ยเบาๆ “ท่านอาจารย์ ท่านไปก่อนเถอะ อย่ามาสนใจข้าเลย พวกเขาไม่กล้าทำอะไรข้าหรอก”
“ได้สิ ในเมื่อผู้ปกครองเจ้ามาแล้ว ข้าก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนไม่มีเหตุผลสะด้วยสิ ข้ามีลูกน้องบางคนถูกยัยบ้านี่ทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาล เจ้าจะจัดการยังไงล่ะ?”ชายผู้มีรอยแผลเป็นพูดพร้อมพยักคิ้ว
“งั้นมันก็สมควรแล้วละ!”
ซ่งหลิงเออร์หลบอยู่ด้านหลังของเซียวชุ่น ก่อนจะยื่นตัวออกมาครึ่งหนึ่ง ใบหน้าที่มอมแมมและดวงตาที่เล็กราวกับแมวน้อย ก่อนจะเอ่ยคำราม
“เจ้าอยากตายหรอ!” ชายหน้ารอยบากใช้ท่อนเหล็กชี้และตะโกนไปที่เขาอย่างดุร้าย
“เจ้าจะจัดการอย่างไรล่ะ?”เซียวชุ่นถามกลับ
ชายผู้มีแผลเป็นพูดเบาๆ“ง่ายๆเลยนะ ข้าต้องการเงินสิบล้าน ไม่อย่างงั้นให้นางผู้หญิงคนนั้นอยู่กับพรรคพวกของข้าคืนนึงก็ได้”
“ให้ตายเถอะ ไปฆ่ามันสะ”
เมื่อชายหน้าบากออกคำสั่ง ลูกน้องนับสิบต่างก็วิ่งออก พร้อมทั้งตะโกนไปที่เซียวชุ่นและซ่งหลิงเออร์
เซียวชุ่นหันหลังก้มเก็บกระบอกเหล็กที่พื้น และสะบัดออกไป“ปัง” ทุกคนในตอนนี้รู้สึกราวกับว่าภายในคลับนั้นต่างรู้สึกตกตะลึงกับเสียงที่ดัง
ทุกคนต่างก็ตกใจเอามือกุมหัว ก่อนจะรีบขดตัวลง ส่วนทางด้านเจิ้งหย่งจางก็รีบลงจากเก้าอี้ และขดตัวลงไปใต้โต๊ะบาร์อย่างไม่รู้ตัว
และรีบมองกันที่ที่เพดานที่ฝ้าเพดานและฝุ่นกำลังร่วงลงมา
เมื่อเหลือบมองไปข้างบน ก็พบกับแท่งเหล็กที่เสียบคากับท่อเพดานข้างบน ก่อนที่จะมีรอยแตกร้าวเป็นใยแมงมุม
เมื่อผู้คนได้เห็นเรื่องก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ในตอนนี้ เซียวชุ่นก็ได้ลากซ่งหลิงเออร์ออกไปจากคลับแล้ว ไม่มีคนใดที่สามารถจะตามเขาทัน
ไม่ว่าจะทรงพลังขนาดไหน ก็ไม่เคยได้ยิน แล้วใครจะกล้าออกตามไป ออกไปหาที่ตายอย่างงั้นหรอ?
ซ่งหลินเออร์ได้ยินเพียงแค่เสียงที่ดังขึ้น หลังจากนั้นทั้งคลับก็ได้เกิดการสั่นสะเทือน จนตอนนี้ภายในคลับเป็นอย่างไรเกิดอะไรขึ้นเธอก็ไม่รู้ เห็นเพียงแต่ไม่มีใครวิ่งตามออกมา ที่ทำให้เธอเกิดความงุนงง
“อาจารย์ เมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้นนะ?”
“แผ่นดินไหวนะ”เซียวชุ่นพูดด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
ซ่งหลินเออร์มองไปที่เขาด้วยตาโตโดยไม่กะพริบ
“ทำไมล่ะ?”เซียวชุ่นยิ้มๆ
ซ่งหลิงเออร์แอบมองไปที่ใบหน้าของเซียวชุ่นที่ราวกับใบมีดอันคมกริบเป็นสัน ที่ใบขอบหน้ามีความเฉียบคมอย่างชัดเจน เมื่อมองไปเซี่ยวชุ่นก็นึกถึงความร้อนมืออุ่นๆที่ได้จับหัวไหล่ของเธอ ก่อนที่จะรู้สึกตื่นเต้นในใจ ใบหน้าร้อนพ่าว และเอ่ยอ้ำๆอึ้งๆ
“ไม่…… ไม่มีอะไรค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...