เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 90

คนเมื่อครู่นั้นเงียบสนิทในทันที

จำเป็นต้องยอมรับ ไม่กี่หมัดของซ่งหลิงเอ๋อร์นั่นก็ชกได้ดีจริงๆ เปลี่ยนเป็นนักบู๊ธรรมดาเกรงว่าก็บล็อกไม่กี่หมัดนั้นไม่ได้เช่นกัน

“เอาล่ะ ตอนนี้ยังมีใครอยากขึ้นมาท้าไหม ?” ไฉหยวนชิงขัดจังหวะการโต้เถียงของพวกเขา ตะโกนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ทั้งสนามเงียบไปพักหนึ่ง

มือสองข้างของซือคงเฉินลูบไล้เก้าอี้ทั้งสองข้าง ตั้งใจจะขยับ อยากที่จะลุกขึ้น

“ถ้าคุณชายซือคงออกโรงตอนนี้ละก็ ไม่กลัวคนนอกจะพูดว่าสมาคมบู๊โบราณของพวกคุณชนะด้วยอุบายหรอกหรือ ? นักบู๊ขั้นแปดคนหนึ่งขึ้นลานเพื่อต่อกรแม่หนูคนหนึ่ง ต่อให้ชนะก็ไม่มีอะไรน่าคุยโวหรอก หากว่าแพ้แล้ว อย่างนั้นชื่อเสียงของสมาคมบู๊โบราณของพวกคุณก็รักษาเอาไว้ไม่ได้แล้ว มิสู้คว้าแชมป์ในลานประลองบู๊ระดับสูงพรุ่งนี้ในคราวเดียว เพื่อลบล้างความอัปยศของสมาคมบู๊โบราณของคุณในวันนี้”

ซ่งชิงโจรีบพูด

ในมุมมองของเขา ซ่งหลิงเอ๋อร์สามารถชนะรอบนี้ถือว่าโชคดีจริง ๆ หากว่าซือคงเฉินขึ้นลาน ผลลัพธ์เลวร้ายจนไม่กล้าคิดเลย

“อีกอย่างแม่หนูเขาเพิ่งสู้มารอบหนึ่ง เสียพลังไปมาก ลานประลองบู๊ระดับสูงพรุ่งนี้ แม่หนูคนนี้ก็ไม่แน่ว่าก็จะเข้าร่วมเช่นกัน หากคุณอยากขอคำแนะนำละก็ พรุ่งนี้ก็ได้ ให้เขาได้พักคืนหนึ่งไม่ได้หรือ ?”

ซือคงเฉินมองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา

“วางใจได้ ความอัปยศที่สมาคมบู๊โบราณได้รับในวันนี้ พรุ่งนี้ฉันจะเอาคืนสองเท่า !”

พูดจบเขาก็สะบัดแขนเสื้อขึ้น พลันออกจากสนามแข่งขันไปอย่างเย็นชา ท่ามกลางสายตานับร้อยคน

ความอัปยศของสมาคมบู๊โบราณในวันนี้ ต้องแพร่ไปให้ทั่วทุกหนทุกแห่ง !

ซ่งชิงโจหัวเราะอย่างปลื้มใจ เขานึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นลูกสาวของตระกูลตัวเองที่ช่วยแก้ปัญหาในวันนี้

ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม จะพูดอะไรก็แล้ว พรุ่งนี้จะให้ยัยหนูที่ดื้อด้านคนนั้นลงสนามอีกไม่ได้

ทันทีหลังจากนั้น ผู้ชมการแข่งกันรวมทั้งบรรดาบิ๊กบอสของแต่ละตระกูลที่อยู่ล่างลานต่างพากันออกจากสนาม

ในรอบนี้ซ่งหลิงเอ๋อร์ไม่เพียงชนะจนได้เงินรางวัลยี่สิบล้านแต่เพียงเท่านั้น ยังมีส่วนแบ่งจากถาดวางเดิมพันมาสามสิบกว่าล้าน ดีใจจนหุบปากไม่ได้ แม้ว่าเธอจะเกิดอยู่ในตระกูลร่ำรวย แต่นี่เธอได้กำไรมาห้าสิบกว่าล้านซึ่งเป็นเงินก้อนแรกเลย !

“อาจารย์ ห้าสิบล้านนี้มีค่อนหนึ่งที่เป็นความดีความชอบของอาจารย์เลย รอฉันเอาเช็คไปแลกเป็นเงินแล้วจะแบ่งให้อาจารย์ครึ่งหนึ่ง” ยัยหนูนี่ช่างใจกว้าง พอเอ่ยปากก็แบ่งเงินยี่สิบกว่าล้านไปแล้ว

เซียวชุ่นดีดหน้าผากเธอเบา ๆ

“เงินนี้เธอก็เก็บไว้เป็นสินสอดในอนาคตเถอะ ไม่ต้องให้ฉัน”

การกระทำที่คลุมเครืออยู่เล็กน้อยนี้อยู่ในสายตาของซ่งชิงโจ พลันรู้สึกได้ถึงความซับซ้อนอยู่บ้าง

ยัยหนูตัวกะเปี๊ยกชั่วพริบตาก็กลายเป็นหญิงสาวเต็มตัวแล้ว และถึงเวลาที่ควรคุยเรื่องแต่งงานแล้ว เพียงแต่แม้ว่าเซียวชุ่นคนนี้จะเคยช่วยพ่อของตนเองไว้ มีพระคุณต่อตระกูลซ่ง แต่พูดอย่างไรก็ตามก็เป็นเพียงหมอคนหนึ่ง ลูกสาวตระกูลตนเองก็มีฐานะสูงส่ง จะแต่งงานกับหมอเล็ก ๆ ที่ไม่เตะตาคนหนึ่งได้อย่างไรกัน ?

อีกอย่างเขาก็ได้ยินมาว่าเซียวชุ่นเป็นคนที่มีภรรยาแล้ว การแต่งงานนี้เขาผู้เป็นพ่อไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาด

ซ่งชิงโจไอเบา ๆ สองที แล้วเดินมาพูด : “พวกเธอพักอยู่ที่ไหน ? ให้ไปส่งพวกเธอกลับไหม ?”

ซ่งหลิงเอ๋อร์เพิ่งจะชนะลานประลองบู๊ และชนะจนได้เงินมาก้อนใหญ่ จึงมีความสุข จึงไม่ได้ขับไล่ซ่งชิงโจขนาดนั้นเหมือนอย่างก่อน ๆ จึงเอ่ยพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย : “ไม่ต้องหรอกค่ะ พวกเราขับรถกันมาค่ะ”

ซ่งชิงโจเอ่ยด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม : “หลิงเอ๋อร์ แกเป็นหญิงสาว จำไว้ต้องเอาตัวรอด อย่าได้ทำให้คุณธรรมของตระกูลซ่งต้องเสียศักดิ์ศรี”

ซ่งหลิงเอ๋อร์ใบหน้าเย็นชา พลันกลอกตาใส่เขา : “พ่อ คนที่ถูกตระกูลซ่งไล่ไสส่งออกมาอย่างพ่อพูดคำพูดนี้จะเกลี้ยกล่อมได้สักแค่ไหนเชียว”

ซ่งชิงโจโกรธเธอจนถลึงตา : “แก……ยังไงแกก็ระวังภาพลักษณ์ตัวเองหน่อย !”

“เอาล่ะ เอาล่ะ ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีอะไรแล้วพวกหนูไปล่ะ” ซ่งหลิงเอ๋อร์โบกไม้โบกมือ

ซ่งชิงโจส่ายหัวด้วยใบหน้าจนปัญญา

หลังจากซ่งหลิงเอ๋อร์เดินออกไปไม่กี่ก้าว จู่ ๆ ก็ย้อนกลับมาแล้วเอ่ยกับซ่งชิงโจ : “จริงสิพ่อ พวกเรามาช้า เลยจองโรงแรมไม่ได้เลย ตอนนี้ทำได้แต่อัดอยู่ในห้องเดียวกันสามคน พ่อมีวิธีช่วยพวกหนูจองเพิ่มให้สองห้องไหม ?”

ซ่งชิงโจมองเธอด้วยใบหน้าประหลาดใจ พลันเอ่ยทันที : “มี ฉันจะหาให้แกเดี๋ยวนี้ !”

พูดจบเขาก็กวาดสายตามองเซียวชุ่นกับมังกรสามแวบหนึ่งด้วยสีหน้าบึ้งตึง นัยน์ตาแทบจะพ่นไฟออกมาอยู่แล้ว

แม้ว่าโฮ๋เฉิงเหอ จะเป็นบิ๊กบอสโลกธุรกิจแห่งหนิงโจว ทว่าระยะห่างยังคงห่างไกลเมื่อเทียบกับเส้นสายของพวกคนที่เป็นอันธพาลในท้องที่

เดิมทีซู่ยิ่นได้รับบาดเจ็บไม่สาหัสนัก ผ่านการรักษามาตลอดทั้งคืน ในตอนนี้จึงกลับโรงแรมแล้ว ในตอนนี้ยืนก้มหัวอยู่ด้านข้างเหมือนเด็กที่กระทำความผิด

“พูดมาเถอะ คืนเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น ?” ซือคงเฉินถอนลมหายใจยาว ๆ พลันลืมตาเอ่ยถาม

“ผมประมาทศัตรูเอง รอให้การเดินทางนี้สิ้นสุด ผมจะไปรับโทษเองครับ”

“ไม่ต้องรอแล้ว วันนี้นายกลับไปเถอะ ที่นี่ไม่ต้องการนายแล้ว” ซือคงเฉินเอ่ยอย่างเย็นชา

“แต่… …” ซู่ยิ่นพูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ การช่วยเหลือซือคงซิงเป็นภารกิจที่ผู้อาวุโสในสมาคมมอบหมายให้เขา ล้มเลิกกลางคันเกรงว่าโทษของเขาจะยิ่งหนัก

“ฉันจะอธิบายกับในสมาคมเอง ว่าฉันให้นายกลับไป” น้ำเสียงซือคงเฉินยังคงเยือกเย็น

“มีนายตามมาด้วย ฉันขายหน้า”

ซู่ยิ่นเปลี่ยนสีหน้าไปในทันที : “คุณ… …”

“ทำไม ? หรือว่านายไม่คิดว่าเมื่อคืนนายได้ทำให้สมาคมบู๊โบราณอย่างพวกเราเสียหน้าไปแล้วหรอกเหรอ ?” ซือคงเฉินเหลือบมองเขา

ซู่ยิ่นหน้าชา รู้สึกอับอายจนอยากเอาหน้าแทรกแผ่นดินในทันที

“ออกไป !” ซือคงเฉินตวาดเสียงดังลั่น

พอซือคงเฉินนึกถึงความอัปยศที่ตัวเองได้รับเมื่อวานที่สนามแข่ง ก็โกรธแค้นไม่หยุด

เขาเป็นคนที่หยิ่งยโสเช่นนี้ เคยรู้สึกไม่ได้รับความธรรมขนาดนั้นที่ไหนกัน

ซู่ยิ่นใบหน้าแดงฉาน แดงจนถึงเส้นผม รู้สึกได้ถึงไฟลุกโชนที่ไม่สามารถยับยั้งได้อยู่ในอกกำลังลุกไหม้โชติช่วงอยู่ พลันหันตัวเดินออกไปนอกประตู

เพิ่งเดินออกจากประตูห้อง

เสียงดัง “อั๊ก” เขากระอักเลือดสดออกมา โก่งตัวอย่างเชื่องช้าสักพัก พลันเช็ดคราบเลือดที่มุมปากออก แล้วออกจากโรงแรมไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊