“ช่วงนี้นายว่างมากใช่ไหม?” เฉียวหยู่โม่รู้สึกประหลาดใจ ธุรกิจของตระกูลหวังใหญ่ขนาดนั้น แต่เขาไม่ยอมรับช่วงต่อ กลับเอาแต่เที่ยวเอ้อระเหยลอยชายทุกวัน ทางครอบครัวไม่มีใครสนใจเขาเลยเหรอ? หรือว่าเขาเป็นคนไม่เอาไหนจนไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขได้แล้ว จนครอบครัวหมดหวังในตัวเขาอย่างสิ้นเชิง?
เฉียวหยู่โม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และรู้สึกว่าอย่างหลังมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่า
“พี่ ผมแจ้งข่าวด้วยความหวังดีน่ะ” หวังเชียนรู้สึกโกรธเล็กน้อย “นายอย่าบอกว่านายไม่รู้ว่าช่วงนี้ดวงความรักของหยุนฉีพุ่งแรง”
ดาราชายที่ยังไม่ทันได้ถ่ายหนัง ก็เป็นข่าวด้วยกันแล้ว เขาไม่เชื่อว่า พี่เฉียวจะไม่รู้สึกหวั่นไหว
เฉียวหยู่โม่ใช้ปลายนิ้วแตะที่พักแขนเก้าอี้ แต่ไม่ได้พูดอะไร
หลัวจิ้นยังคงประชุมทางวิดีโออยู่ข้างเขา และช่วยคุณชายเฉียวบันทึกประเด็นหลักในการประชุม เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปด้านข้าง
ช่วงนี้ คุณชายเฉียวรับโทรศัพท์ในช่วงเวลางานบ่อยมาก
หรือว่าคุณหนูเหลิงจะมีเรื่องอีกแล้ว?
“ส่งเวลาและสถานที่มา” หลังจากผ่านไปสักพัก เฉียวหยู่โม่กล่าวประโยคนี้ แล้วก็วางสาย
หวังเชียนรู้สึกคึกคักและตื่นเต้นขึ้นมาทันที
เขาคิดแล้ว พี่เฉียวจะไม่ใส่ใจได้อย่างไร! ถ้าวันนี้ไม่ใช่เพราะตนเองโชคดีได้เจอ “พี่สะใภ้” แล้ว“พี่สะใภ้” ไปเซี่ยงไฮ้ในช่วงสุดสัปดาห์ ไม่รู้ว่าสองคนนี้ต้อง“แยกจากกัน”นานแค่ไหน
หวังเชียนยิ้ม แล้วส่งชื่อบาร์และเวลาที่เขาเพิ่งถามขณะสนทนาในร้านกาแฟ แล้วบิดขี้เกียจ ถ้าวันหนึ่งพี่เฉียวประกาศในกลุ่มอย่างเป็นทางการ เขาจะเป็นคนที่มีความดีความชอบเป็นอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน!.....
เนื่องจากการออกกำลังกายในวันนี้ หลังจากกลับมาถึงบ้านแล้วเหลิงหยุนฉีนอนหลับอย่างสบาย และกว่าจะตื่นอีกทีก็เป็นเวลาเก้าโมงเช้าของวันรุ่งขึ้นแล้ว
ส่วนโจวหยุนถูกคุณเฉินลากไปที่สตูดิโอ เพื่อเรียนรู้และฝึกขั้นตอนพื้นฐานของการถ่ายภาพยนตร์ จนกระทั่งห้าโมงเย็นถึงได้ปล่อยตัวเธอกลับมา
ทันทีที่เธอออกจากสตูดิโอ เธอเป็นเหมือนเด็กที่ได้ปลดปล่อยจิตวิญญาณ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สิ่งแรกที่เธอทำคือโทรศัพท์ไปหาเหลิงหยุนฉี “หยุนฉี คืนนี้เธอจะใส่ชุดอะไร?”
เหลิงหยุนฉีบังเอิญอยู่ในห้องลองเสื้อ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ไว้ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่คืนนี้ “ใส่ชุดตามสบายเถอะ ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนกัน ไม่ใช่งานเลี้ยงอาหารค่ำสักหน่อย”
“อย่าสิ เมื่อสองวันก่อนพวกเราเพิ่งไปช็อปปิ้งที่ SKP ฉันมีเสื้อที่ยังไม่ได้ใส่มากมายหลายชุด ฉันจะใส่ชุด Valentino และฉันจำได้ว่าเธอก็ซื้อชุดที่ร้านนี้ด้วยเหมือนกัน เสื้อนั้นสวยมาก ใส่คืนนี้กันเลย!” ตามความคิดของโจวหยุนแล้ว ซื้อเสื้อผ้ามาแล้วก็ควรต้องใส่โชว์ เพราะเพื่อนทุกคนรู้ฐานะครอบครัวของพวกเธอ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องจงใจถ่อมตน
หยุนฉีสนทนากับแม่ของเธออยู่สักพัก และเมื่อเธอเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาแล้ว เธอก็โบกมือ “หนูจะไปแล้ว คุณแม่ไม่ต้องรอหนูน่ะ คุณแม่นอนพักผ่อนเร็ว ๆ น่ะ”
“ให้คนขับรถไปส่งลูกน่ะ ดื่มเหล้าแล้วระวังความปลอดภัยของตนเองด้วย” จางหมินอดไม่ได้ที่จะกำชับ แม่ของเธอคิดว่าการที่ลูกสาวไปเที่ยวบาร์ แล้วการดื่มเหล้าบ้างนั้นมันเป็นเรื่องปกติ
หยุนฉีตอบด้วยรอยยิ้ม แล้วให้คนขับรถเลือกธรรมดาคันหนึ่ง จากนั้นขับรถมุ่งหน้าไปบาร์ที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัย
ที่“หยูดี” เวลาหนึ่งทุ่มเป็นช่วงเวลาที่คนเริ่มเยอะแล้ว
เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเมืองหลวงกลุ่มลูกค้าหลักคือนักศึกษาที่อยู่รอบ ๆ
อย่างไรก็ตาม บาร์นี้เป็นบาร์ที่ค่อนข้างมีระดับ คนที่มาเที่ยวที่นี่ โดยทั่วไปแล้วเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีฐานะ
ตอนที่เหลิงหยุนฉีมาถึง เธอเห็นหนุ่มสาวจำนวนมากสวมเสื้อผ้าสีสดใสเต้นอยู่ตรงบริเวณประตูทางเข้าบาร์
เธอเดินมาเข้าไปข้างในด้วยสีหน้าราบเรียบ และทันใดนั้นบริเวณประตูที่กำลังคึกคักก็เงียบทันที...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก