เห็นทีต้องเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้จ้างคนในหมู่บ้านมาตัดถางหญ้า และรื้อฟื้นผืนไร่ผืนนาแห่งนี้ มองดูคร่าว ๆ ประมาณสิบสองหมู่ (5 ไร่) ไม่มากมายแต่ก็เลี้ยงครอบครัวได้หนึ่งปีพอดี
“กลับบ้านกันเถอะ”
ฟางเหนียงเอ่ยชวนเมื่อสำรวจพื้นที่จนพอใจ ด้านหลังไร่นาจะเป็นทางไปภูเขานางมองอย่างสนใจหวังว่าที่นั่นจะมีอะไรดี ๆ แต่วันนี้คงต้องกลับบ้านไปวางแผนชีวิตครอบครัวก่อน
ส่วนเรื่องที่จะไปสำรวจบนเขาคงต้องให้นางเรียนรู้ที่นี่เพิ่มขึ้นมาสักนิดเสียก่อน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ฟางเหนียงจึงปล่อยให้เด็ก ๆ เล่นกันอยู่หน้าบ้านก่อน จากนั้นจึงไปทางบ้านป้าหวังเพื่อนบ้านที่จะเข้าเมืองในวันพรุ่งนี้ ซึ่งนางเป็นหญิงวัยกลางคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหยาบ ๆ ราคาถูก
“เจ้ามาแล้วหรือ พอดีเลยข้าจะเอามันป่าไปให้พอดี”
ฟางเหนียงมองสำรวจอย่างระวัง ก่อนจะส่งยิ้มให้
“ขอบคุณป้าหวัง ข้าว่าจะถามว่าพรุ่งนี้เดินทางเวลาใด”
“ยามเหม่า เหมือนเดิมนั่นแหละ ว่าแต่ครั้งนี้เราต้องเดินไป เพราะบ้านตระกูลเหอไม่ให้เรายืมรถเกวียนวัวแล้ว”
ป้าหวังพูดอย่างขัดใจ แต่ไม่ออกไปก็ไม่ได้เพราะข้าวของหลายอย่างที่ต้องซื้อ อีกอย่างลูก ๆ ของนางก็ไม่ได้กินอะไรดี ๆ มาเป็นเดือนแล้ว
แต่เมื่อมองสีหน้าอ่อนโยนของฟางเหนียงแล้วต้องประหลาดใจ นางไม่ร้องโวยวายอย่างเคยและนางก็รู้สึกแปลก ๆ ใบหน้างดงามนั่นยังเป็นฟางเหนียงคนเดิม แต่กลิ่นไอที่แผ่ออกนั่นทำให้รู้สึกหวาดหวั่น แม้อีกฝ่ายจะพูดจาอ่อนโยน แต่ไม่รู้ทำไมนางรู้สึกผิดแปลกไป จึงเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เจ้าไม่เป็นอะไรแน่นะ เดินทางตั้งสามสิบลี้ ต้องใช้เวลาเดินทางเกือบหนึ่งชั่วยาม”
ฟางเหนียงได้ฟังก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขนาดรับไม่ได้ เพราะชาติที่แล้วพวกนางเดินทางเป็นพันกิโลเมตรเพื่อมุ่งหน้าไปยังฐานทัพที่แข็งแกร่งกว่า เพียงแต่ร่างนี้บอบบางกว่าร่างเดิมมากนัก แต่คงไม่ยากเกินความพยายามของนางหรอก แค่สิบห้ากิโลเมตรเท่านั้น
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ป้าหวังพอจะหาคนรับจ้างตัดหญ้ารื้อฟื้นที่ไร่นาได้หรือไม่ ข้าจะให้ค่าแรงวันละสามสิบอีแปะ แต่ต้องหาข้าวปลาไปกินเอง”
ป้าหวังมองตามอย่างตกใจ และเอ่ยถามอย่างไม่อยากเชื่อสายตา เพราะคนในหมู่บ้านไม่มีใครไม่รู้ว่าฟางเหนียงภรรยาของฟางเหยียนอวี้นั้นขี้เกียจไม่ทำการทำงาน ใช้เงินเดือนของสามีเพียงอย่างเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน