เวอเรียนสะดุ้งตื่นขณะที่เธอหลับ
เธอเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเมื่อเธอตื่นขึ้นมา
เธอฝันถึงฮีลตันที่กำลังดิ้นรนอยู่ใต้ท้องทะเล และพยายามโทรหาเธออย่างต่อเนื่อง เธอต้องการช่วยเขา แต่รู้สึกเหมือนว่าร่างกายของเธอถูกมนต์สะกดจนไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว
เจลลี่ บีนกำลังนอนหลับสนิทอยู่ข้าง ๆเธอ
เวอเรียนจ้องไปที่ใบหน้าที่น่ารักของเจลลี่ บีน เธอปิดหน้าของเธอ และหายใจเข้าลึก ๆ เธอรู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก
ถ้าฮีลตันเป็นอะไรไป... เธอจะบอกกับเจลลี่ บีนเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร?
เธอไม่สามารถทำสิ่งที่โหดร้ายนี้ได้ เธอไม่สามารถพูดออกมาได้
แสงจันทร์จากภายนอกทำให้ทุกอย่างรู้สึกเยือกเย็น และหดหู่
เวอเรียนลุกขึ้น และเอาเสื้อโค้ทตัวหนึ่งของฮีลตันพาดบ่าของเธอขณะที่เธอยืนอยู่ข้างหน้าต่าง และจ้องมองไปที่แสงจันทร์
ราวกับว่าเสื้อคลุมยังคงมีความอบอุ่น และกลิ่นหอมของฮีลตันยังคงหลงเหลืออยู่ เธอคว้ามันขึ้นมาและสูดดมเข้าไปอย่างแรง ในที่สุดน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาจากดวงตาของเธอ
“ฮีลตัน…คุณจะต้องปลอดภัย…”
เธอมองขึ้นไปบนดวงจันทร์ พนมมือของเธอและอธิษฐาน
…
ไม่นานหลังจากที่ชายชราลูอิสส่งเจลลี่ บีนไปโรงเรียนในเช้าวันรุ่งขึ้น ตำรวจก็โทรมา
เวอเรียนแค่นั่งลงบนโต๊ะขณะที่เธอไม่มีความอยากกินอะไรทั้งสิ้น หลังจากกินข้าวต้มไปสองสามคำเธอก็ไม่สามารถทนความเสียใจได้อีกต่อไป
หลังจากนายใหญ่ฟัดด์รับสาย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างจริงจัง
เวอเรียนลุกขึ้นยืน และถามอย่างลนลาน "คุณพ่อคะ พวกเขาเจอฮีลตันแล้วหรือยัง?"
นายใหญ่ฟัดด์ชำเลืองมองเวอเรียนก่อนที่จะนิ่งเงียบไปชั่วครู่
เวอเรียนขมวดคิ้วเนื่องจากเธอกังวลมาก น้ำตาของเธอกำลังขู่ว่าจะไหลลงมา เธอพูด “ รีบบอกฉันเถอะค่ะคุณพ่อ”
“ฮีลตัน…ยังไม่พบเขาเลย พวกเขาพบเพียงรถที่เขาใช้เท่านั้น”
เวอเรียนสะดุดล้มลงไปข้างหลังบนเก้าอี้ สายตาของเธอดูว่างเปล่าขณะที่เธอพึมพำ “เกิดอะไรขึ้น…ทำไมยังหาเขาไม่พบ?”
ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว เขาไม่ถูกพบได้อย่างไร?
ในขณะที่ถือไม้เท้าของเขา นายใหญ่ฟัดด์กล่าวว่า “ถ้ายังไม่พบฮีลตันภายใน 48 ชั่วโมง จากนั้นเราจะยอมแพ้”
ดวงตาของเวอเรียนเป็นสีแดงสนิท เธอกล่าวว่า “คุณทำอย่างนั้นได้อย่างไร? บางที ฮีลตันอาจจะยังมีชีวิตอยู่ และกำลังรอให้เราช่วยเขา ได้โปรดเถอะค่ะคุณพ่อ…ฉันขอร้องตุณ อย่าพึ่งรีบยอมแพ้ ได้ไหมคะ?”
นายใหญ่ฟัดด์ถอนหายใจลึกยาวออมมา และพูดด้วยน้ำเสียงหดหู่ว่า “งั้น มาทำแบบนี้กันเถอะ หากยังไม่พบฮีลตันภายใน 48 ชั่วโมง เราจะจัดเตรียมงานศพให้เขา เนื่องจากเหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจจากสื่อ เราจึงไม่สามารถซ่อนมันได้อีกต่อไป ฉันจะมาจัดการฟัดด์ กรุ๊ปด้วยตัวเอง”
เวอเรียนสะอื้น "คุณพ่อคะ…"
ชายชราถือไม้เท้าของเขา เขาพูดขณะที่หันหลังให้เธอ “ตอนนี้ฉันจะต้องมุ่งหน้าไปที่สถานีตำรวจ เห็นว่าสภาวะทางอารมณ์ของเธอไม่มั่นคงขนาดไหน เธอควรพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ฉันจะแจ้งให้เธอทราบหากเกิดอะไรขึ้น”
…
ที่สถานีตำรวจ.
"คุณฟัดด์ เรายังอยู่ระหว่างการสอบสวน เราพบว่ารถที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุของคุณฮีลตันนั้นท่อน้ำมันเบรกถูกตัด โปรดคิดเกี่ยวกับมันให้ชัดเจนว่า ใครที่คุณฮีลตันอาจมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนหน้านี้ไหมครับ?”
สายตาของจอห์นจมลง ขณะที่เขากำไม้เท้าของเขาแน่น เขาขมวดคิ้วลึกขึ้น
เป็นเรื่องปกติที่ฟัดด์ กรุ๊ปจะสร้างศัตรูมากมายในธุรกิจ อย่างไรก็ตามใครกันที่กล้าพอที่จะต้องการฆาตกรรมฮีลตัน?
“สารวัตรเวสต์ เป็นเรื่องปกติที่ฟัดด์ กรุ๊ปจะสร้างศัตรูในธุรกิจ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องปกติมากสำหรับผู้คนที่จะชนะและแพ้ในธุรกิจ ดังนั้นฉันคิดว่าคงไม่มีใครบ้าพอที่จะฆ่าใครสักคนเมื่อธุรกิจของพวกเขาล้มเหลว”
“ก็ถูกของคุณ อย่างไรก็ตาม ลองคิดให้ลึกกว่านี้ ประธานฟัดด์มีมีเรื่องบาดหมางส่วนตัวหรือไม่?”
“อืม…ฉันก็ไม่แน่ใจกี่ยวกับเรื่องนั้นหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ฉันจะไม่ยอมให้ลูกชายของฉันจากโลกนี้ไปอย่างลึกลับหรอก สารวัตรเวสต์ โปรดดำเนินการสืบสอบของคุณให้เราต่อไป ฉันก็จะให้บางคนตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน ฉันจะแจ้งกรมตำรวจเมื่อฉันมีข้อมูลอื่น ๆ ”
“ได้ครับ งั้น คุณฟัดด์ ได้โปรด…ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วยนะครับ”
ในขณะที่แดนเฝ้าดูยานิจากไปด้วยความรีบร้อนเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและพูดว่า “มันช่าง…เป็นเรื่องโชคร้ายจริง ๆ”
…
เมื่อยานิมาถึงคฤหาสน์เขาก็เดินอย่างรวดเร็ว
“หมออยู่ที่นี่หรือยัง?”
ป้าเย็นพยักหน้าแล้วเดินตามหลังยานิไป เธอกล่าวว่า “เขาเพิ่งมาถึง ตอนนี้เขากำลังวัดอุณหภูมิของ คุณจอยส์ ตอนที่คุณจากไปไม่นานหลังจากนั้นที่คุณจอยส์เห็นข่าว เธอก็มีอาการแย่มาก…”
ยานิตะลึง “เห็นข่าวอะไร? ข่าวอะไรกันแน่?”
“อุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่เป็นกระแสทอล์คออฟเดอะทาวน์เมื่อ 2 วันก่อน อุบัติเหตุที่รถตกทะเล .. ”
ยานิเม้มริมฝีปากของเขา และสั่ง “ไปทำข้าวต้มให้หน่อย แซมมี่จะได้กินตอนที่เธอตื่นขึ้นมา”
“โอ้ ได้สิ”
หลังจากที่ยานิเข้าไปในห้อง เขาก็ถามหมอว่า "เธอเป็นยังไงบ้าง?"
หมอพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว “มิสจอยส์ไม่ได้เป็นไข้ แต่อุณหภูมิร่างกายของเธออ่านได้ 39.2 องศาและสูงมากจริง ๆ”
ยานินั่งข้าง ๆแซมในขณะที่เอามือใหญ่แตะหน้าผากของเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “เธอจำเป็นต้องไปโรงพยาบาลไหม?”
“ไม่หรอก เธอจะต้องได้รับของเหลวในโรงพยาบาลอยู่ดี ฉันนำยามาด้วย ป้อนมันให้เธอ และปล่อยให้อุณหภูมิร่างกายของเธอลดลง จากนั้นเธอก็น่าจะดีขึ้นนะ”
ยานิพยักหน้าขณะที่เขาพึมพำอย่างอยากรู้อยากเห็น “ตอนนี้เธอสบายดี แล้วเธอเป็นไข้ได้อย่างไร?”
“ไข้กะทันหันส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นเมื่อคนหนึ่งเกิดอาการขวัญผวาหรืออาจเป็นเพราะโรคอื่น ๆ ฉันขอแนะนำ คุณเควนให้คุณพาคุณจอยส์ไปตรวจเลือด”
“ได้เลย”
อาการขวัญผวาหรือ?
ยานินั่งอยู่ข้างเธอในขณะที่ดวงตาสีเข้มจดจ้องไปที่แก้มขาวซีดของเธอที่แดงจากพิษไข้ ดูเหมือนเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน