ตอนที่113 เรียนรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์
“ได้ มีเรื่องอะไรก็โทรมาหาฉัน!”
พอยศพลพูดจบ ก็กันมามองเธอเเวบนึง เเล้วก็เดินจากไปเลย เขาก็เข้าใจ ว่าเรื่องบางเรื่องเธอเองคงต้องเผชิญ หน้ากับมันเอง เขาช่วยอะไรไม่ได้
พอตกตึก จารวีก็ยืนอยู่หน้าบ้านของอังคณาแล้วเคาะประตู
อังคณาเห็นจารวีจากประตูด้วยสภาพที่ดูเเย่มาก ตกใจจนร้องขึ้นมาเสียงดัง เธอรีบเปิดประตู ให้จารวีเข้ามา
“จารวี เธอหายไปไหนมา มนต์ตรีหาเธอไปทั่วจนจะเป็นบ้าอยู่เเล้ว”
จารวียืนอยู่อย่างนั้นนานมาก เเล้วค่อยๆเดินเข้าห้อง เธอเริ่มถอกชุดเเต่งงานออก เเล้วเปลี่ยนเป็นชุดนอนเเทน
เเล้วมานั่งเเกะผมอยู่บนเก้าอี้ ค่อยๆเอาดอกกุหลาบดอกเล็กๆออกทีบะดอก กลับดอกที่ตกลงบนพื้นก็เหมือนกับ ความรู้สึกของจารวีตอนนี้
เธอไม่พูดอะไรเลย ทำให้อังคณาตกใจมาก
“จารวี เธอเจอเรื่องที่ตกใจเกินไปรึเปล่า? ฉันพาเธอไปหาจิตเเพทย์!”
จารวีหัวเราะออกมาเเบบไม่มีเสียง“ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันโอเคมากเลย!”
อังคณามองเธออย่างสงสัย เหมือนอยากหาอะไรจากใบหน้าของเธอ
เเล้วค่อยปลอบใจเธอ
“จารวี เธอฟังฉันนะ ความจริง!มันก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไรเลยนะ มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร มนต์ตรีคือพี่ ชายของเธอ อย่างน้อยเขาก็ยังเป็นญาติของเธอ ต่อไปก็ยังอยู่ด้วยกันได้ เเล้วนั้น..นั้น..อะไรนะ ความจริงมันก็เห มือนกันเเหละ….”
อังคณาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดในงานเเต่ง เธอเองก็รู้สึกเป็นห่วงจารวีไม่น้อย เเย่ว่าปากของเธอมันโง่ พูดอะไรที่ มันน่าฟังไม่เป็นหรอก
จารวีจ้องไปหาอังคณา“ก็บอกเธอไปเเล้ว ฉันไม่ได้เป็นอะไร เธอไม่ต้องทำให้เรื่องมันดูจริงจังขนาดนั้น’
“โอเค ได้ๆ!”
อังคณาพึ่งเดินออกจากห้องไม่ถึงสองนาที ก็เดินกลับเข้าไปคืน มือเธอจับที่โทรศัพท์ พูดอย่างเสียงเบา:
“สายจากมนต์ตรี เธอจะรับเองไหม?”
“ไม่! ”จารวีคิดแล้วรีบปฎิเสธ
“เอ่อ จารวี ฉันว่าเธอรับมันเองก็อาจจะดีกว่า ถ้าไม่รับ เขาอยากจะมาหาถึงที่นี่…”
จารวียื่นมือไปรับโทรศัพท์ ลังเลเเปปนึง เเล้วตอบกลับด้วยเสียงเบา“ฉันคือจารวี!”
ทางฝั่งมนต์ตรี เสียงของเขาดูเป็นห่วงมาก“จารวี เธออยู่ไหน เดี๋ยวพี่ไปรับ !”
จารวีมองไปที่อังคณา เธอรู้เเล้วว่าอังคณาไม่ได้บอกเขาว่าอยู่ที่ไหน
“ฉันโอเค!”
“จารวี เธอฟังฉันนะ เธออย่าไปเชื่อคำของพ่อนนะ พวกเขาอาจจะโกหกเรา พี่ไปรับเธอกลับมา เราไปตรวจ ดีเอ็นเอกันดีไหม?”มนต์ตรียังไม่ตายใจ เขาไม่อยากยอมรับความจริงนี้
จารวีพูดอย่างเหน็ดเหนื่อย“ฉันไม่อยากคุยเรื่องนี้เเล้ว โอเคมั้ย?”
คิดว่าพรุ่งนี้ หนังสือพิมหน้าเเรกต่างๆ คงจะมีเรื่องของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องกันจริงมั้ย พวกเขาก็คบกันไม่ได้ อยู่แล้ว ความคิดเห็นคำวิจาร์ณจากคนอื่นพวกเธอไม่สามารถที่จะยอมรับมันได้
สิ่งที่าสำคัญกว่านั้น จารวีก็ยังไม่อยากยอมรับกับเรื่องนี้
เธอไม่อยากรู้ว่าเธอคือสิ่งของที่ได้มาจากการเเอบมีอะไรกัน
“จารวี จารวี ….”
ในโทรศัพท์ มนต์ตรีพยายามยื้อมาก เเต่จารวีกูพูดคำนั้นออกมา“ฉันเหนื่อยเเล้ว ฉันอยากพักผ่อน !”พอพูด จบ ก็วางสายเลย
“เอ่อ จารวี …”อังคณารับโทรศัพท์จากจารวีมา มองดูเธอ เเต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะปลอบจารวียังไงดี
จารวียิ้มขึ้นมา“เธอไม่ต้องห่วงฉันหรอกอังคณา ฉันไม่เป็นไร ฉันเเค่….ใช่เเล้ว หนังสือของเธอยืมฉันอ่านหน่อย ได้ไหม?”
“อ๋อ อ๋อ ได้สิ….”
ตั้งเเต่นั้นมา จารวีก็หมกตัวอยู่กับหนังสือ ไม่รับสายของมนต์ตรีอีกเลย
ตอนเเรกๆอังคณากูรู้สึกเป็นห่วง ดูบ้านเฝ้าเธอตลอด กลัวจารวีจะคิดสั้น เเต่คิดไม่ถึงว่าจารวีไม่ร้องไห้ เลย เหมือนทุกอย่างไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น เพราะฉนั้น เธอก็เริ่มวางใจมากขึ้น เพราะอาจจะเป็นเพราะว่าเธอก็มีเรื่อง ของตัวเองต้องคิดเหมือนกัน
อังคณาไปโรงเรียนเเล้ว เหลือจารวีอยู่บ้านคนเดียว เธอนั่งอยู่บนโซฟา จ้องมองดูหน้าจอโทรทัศน์อย่างเหม่อ ลอย
“…ข่าวล่าสุดของช่องเราวันนี้ ประธานบริษัทซัวกรุ๊ปจำกัดคุณมนต์ตรีเเละผู้หญิงคนหนึ่งในงานเเต่ง เเต่สิ่งที่คาด ไม่ถึงก็คือทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน ความเชื่อในตัวของคุณมนต์ตรีหมดความน่าเชื่อถือลง เเละหุ้นของบริษัทก็ลด ลง
ในทีวีฉายภาพงานเเต่ง ที่มีเเต่ความวุ่นวาย จารวีตกใจมากและเบิกตากว้าง
ในตอนนั้นเธองุนงงมาก มองไม่เห็นอะไรเลย
เเต่ในเวลานั้น ตอนที่ตั้งใจไปดูมัน แต่เห็นว่าในสถามที่ที่รายงานฉาก ได้พบว่าใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏบนหน้า จอ เห็นใบหน้าของมนต์ตรีที่ดูเป็นห่วงไม่นิ่งเเละใบหน้าที่แปลกๆของ ชยรพ กับรนารีย์ที่หลบๆซ่อนๆ
เเต่ไม่เห็นเเม้เเต่เงาของยศพลกับจารวี จารวีรู้สึกคาดไม่ถึง เธอดูข่าวจนจบ เเล้วก็เปิดโทรศัพท์ดูวิดีโอในบนเน็ต อีกครั้ง ข่าวนั้นเปิดใหม่อีกครั้ง ในนั้นไม่มีเเม้เเต่เงาของเธอจริงๆ เเละเเม้เเต่ชื่อของเธอยังไม่มี
“เเล้วเธอกินอะไรรึยัง? เธอนอนทั้งวันเลยหรอ? ฉันไปเล่นเล่นข้างล่างกับเธอดีกว่า”
อังคณายื่นมือไปจับจารวี ก็ไม่มีอะไรเเปลก เเล้วก็ยื่นมือไปเเตะหน้าผากของเธอ ถูกความร้อนจากหน้าผากของ จารวีที่ร้อนมือเธอจนต้องสบัดออก“จารวี ทำไมหน้าผากเธอร้อนขนาดนี้ เธอเป็นไข้เเล้ว เธอป่วยรึเปล่า?”
จารวีรู้สึกหัวหนักตัวเบา“อาจจะเป็นเพราะว่าตอนเช้าใส่ชุดเเต่งงานวิ่งไปวิ่งมา ก็เลยโดนลมเป็นไข้นิดหน่อย!”
อังคณารีบหาเสื้อคลุมให้จารวีคลุมไว้“ไป เราไปหาหมอกันเถอะ!”
จารวีง่วงมาก ไม่อยากลุกจากเตียง ดันมือของอังคณาออก“ไม่ได้เป็นอะไรมาก เเค่เป็นหวัดเอง ให้ฉันนอนพัก สักพัก พรุ่งนี้ก็จะดีขึ้นเอง”
อังคณามองดูจารวีอาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่“นี่ ถ้าเธอไม่ไป งั้นฉันจะโทรหาพ่อเธอหรือไม่ก็มนต์ตรี เธออย่ามา เป็นอะไรที่บ้านฉันนะ ฉันรับผิดชอบไม่ไหวหรอก!”
จารวีถอนหายใจ เเล้วจำใจลุกขึ้นมาใส่เสื้อ“ฉันชักจะรำคาญเธอเเล้วนะ เธอนี่จริงๆเลยนะ เเค่ไม่สบายนิดหน่อย ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปได้ ฉันไปกับเธอก็ได้ เธออย่าหักหลังฉันนะ!”
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป จารวีจับใบตรวจร่างกายไว้เยอะเเยะมากมายเเละนั่งอยู่ต่อหน้าคุณหมอ
คุณหมอเป็นผู้หญิง อายุน่าตะราวๆ40กว่าปั ใส่เเว่นหนาเต๊อะ ก็ถามอะไรนิดหน่อย จากนั้นก็ให้จารวีไปตรวจเลือด เเลัปัสสวะ ตรวจเยอะมาก สุดท้ายก็จับใบตรวจทั้งหมดไปเข้าเเถว
ในโรงพยาบาลมีคนเยอะมาก ขนาดตอนกลางคืนยังต้องเข้าเเถวยาวมาก สุดท้ายก็ถึงจารวีเเล้ว
เธอจับใบตรวจทั้งหลายเเล้วนั่งอยู่ต่อหน้าหมอคนนั้น เอาใบตรวจทั้งหมดดันเข้าไป
คุณหมอดูใบตรวจเเล้วเริ่มวินิฉัย
“เด็กสาวตอนนี้ เฮ้อ ช่างปล่อยตัวจริงๆ เธออายุเเค่10กว่าปี ยังเริ่มมหาลัยอยู่สิ! เด็กขนาดนี้ก็ท้องเเล้ว เเล้วต่อ ไปจะทำยังไง….”
จารวีตกใจมาก ยื่นมือไปดึงมือของคุณหมอ ถามอย่างตกใจ“คุณหมอ คุณว่าฉันท้องหรอคะ?”
เธอจำได้ว่าเเค่เป็นหวัด หมอคนนั้นยังถามเธอเรื่องประจำเดือนว่ามาตอนไหน
เธอคิดอย่างจริงจัง เธอรู้สึกว่ามันนานมาเเล้ว
ช่วงนี้มีเรื่องเยอะมาก เธอเครียด ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ปกติเวลาประจำเดือนของเธอมา เธอก็จะปวด ตลอด มันจะมาช้าบ้าก็ไม่เเปลกเพราะอย่างนั้นเธอเลยไม่ได้คิดไปทางอื่นเลย
ตอนนั้น คำพูดของคุณหมอ ทำให้เธอตกใจมาก สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย
คนที่อยู่ข้างๆจารวีอย่างอีงคณาก็รู้สึกงง
“หมอคะ อย่าพูดมั่วสิ จารวีเธอยังไม่เเต่งงานเลยนะ?”
คุณหมอก็รู้สึกโกรธขึ้นมา“เด็กสาวอย่สงพวกเธอ ทั้งๆที่รู้ว่าชื่อเสียงคือสิ่งที่สำคัญ งั้นก็ต้องรักนวลสงวนตัว สิ ฉันพูดมั่วที่ไหน เพื่อนของเธอท้องจริงๆ น่าจะประมาณ4สัปดาห์เเล้ว”
จารวีรู้สึกเหมือนโดนอะไรระเบิดในหัวใจ เธอยังไม่ทันเตรียมใจเเต่ก็พังหมดเเล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย