เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 145

ตอนที่ 144 ตามหาเธอทั่วโลก

ในใจของจารวีเจ็บปวดมาก เธอเดินตะบึงไปโดยไม่หันกลับมามอง

ยศพลยื่นมือไปคว้าเธอไว้ทั้งดึงเธอเข้ามากอด" เป็นอะไร" จารวีเงยหน้าขึ้นพลางมองเขาผ่านมันน้ำตา"คุณไม่ได้คิดที่จะแต่งงานกับฉันใช่ไหม?”

สิ่งนี้ก็คือความลังเลที่กองสุมอยู่ในหัวใจของเธอ ที่ผ่านมาเธอไม่เคยอยากจะถามเขา เพราะถ้าหากเธอถามออกไป มันคงเป็นอะไรที่น่าขายหน้า จะทำให้คนคิดว่าจารวีขายไม่ออก ไม่มีใครต้องการ

ยศพลหัวเราะออกมาอย่างขำขัน เขายื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาให้เธอ"จารวี นี่เธอกลัวว่าตัวเองจะขายไม่ออกหรือไงกัน" เธอรู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายแบบเขา จะต้องพูดถ้อยคำทิ่มแทงใจแบบนี้ออกมา จารวีโกรธ เธอเสมองไปทางอื่น

" มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่อยากจะแต่งงานกับคุณ ฉันก็แค่อยากดูเฉยๆ ว่าใส่ชุดเจ้าสาวแล้วเป็นยังไง!”

ยศพลยื่นมือออกไปกุมใบหน้าเล็ก พลางจุมพิตลงไปที่หน้าผากของเธอ" ยัยเด็กโง่ เธอวางใจเถอะ ฉันจะทำให้เธอกลายเป็นเจ้าสาวที่มีความสุขที่สุดในโลก!”

พลันความอบอุ่นหอมหวาน ก็พรั่งพรูออกมาจากดวงใจจารวี เธอรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก

เพียงแค่มีเขาอยู่ข้างกาย แค่นี้ก็ดีเกินพอ

ยศพลยังคงกลัดกลุ้ม สถานที่ถ่ายรูปแต่งงานระดับล่างเช่นนี้ ทำไมเธอถึงชายตามองกันนะ

เมื่อกลับมาถึงบ้าน จารวีจัดการ จัดเก็บของเล่นเล็กๆน้อยๆที่ซื้อมา ในมือของเธอถือกลองเขย่าใบเล็กพลางเขย่ามันไปมา

น้าอามลอบมองด้วยรอยยิ้ม"คุณจารวี ซื้อของเล่นพวกนี้มาเร็วจังเลยค่ะ”

" เร็วหรอคะ "จารวีเอ่ยด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกว่าลูกคงจะเล่นของเล่นพวกนี้ได้

" ฮ่าๆ คุณหนูตัวน้อยสามวันถึงจะลืมตาได้ หนึ่งเดือนถึงจะจับของได้ สามเดือนถึงจะพลิกตัวได้ ห้าเดือนถึงจะนั่งได้ ความจริงแล้ว คุณจะราวีต้องรอให้ลูกมีอายุห้าเดือนขึ้นไป ถึงจะเล่นกลองเขย่าใบเล็กนี้ได้ค่ะ”

คำพูดของน้าอาม ทำให้จารวีเข้าใจแจ่มแจ้ง เธอลูบหน้าท้องของตัวเอง พลางหัวเราะออกมา

เด็กคนนี้จะมีรูปร่างหน้าตายังไงนะ จะเหมือนเธอหรือว่าเหมือนยศพลกัน?

" ดูๆแล้ว คุณจารวีต้องเป็นคุณแม่ที่รักลูกมากๆ แน่ๆเลยค่ะ!”

ถัดจากบานกระจกกั้นนี้ไป เธอมองเห็นยศพลกำลังง่วนอยู่ในห้องทำงาน เขากำลังประชุมทางโทรศัพท์

ที่จริงแล้ววันนี้ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ แต่เพื่อให้เวลาแก่เธอ เขาก็เลยนำการประชุมด่วน ย้ายมาคุยที่บ้าน

จารวีจัดห้องให้เหมาะกับลูกสาวตัวน้อย หลังจากนั้นจึงนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องรับแขกอย่างเบื่อหน่าย

ในโทรทัศน์กำลังเผยแพร่ข่าวสดพอดี ข่าวนั้นก็คือข่าวของบริษัทโซกรุ๊ปจำกัด ภายในจอทีวีทวีมองเห็นมนตรีและสุรีย์วัลย์ ทั้งสองกำลังให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ให้ความรู้สึกรักใครสนิทสนมกันมาก

ภาพเหล่านี้ทำให้ใจของจารวี รู้สึกปล่อยวาง เพียงแค่พี่มนต์มีความสุข จิตใจของเธอก็สงบแล้ว

เธอกดเปลี่ยนช่องไปมา อาจเป็นเพราะว่าตอนกลางวันเธอเดินช้อปปิ้ง จนเหนื่อย จึงทำให้หลับไปอย่างไม่รู้ตัว

ในความฝันของเธอรู้สึกแปลกประหลาด เมื่อลืมตาขึ้นจึงมองเห็นแสงไฟสลัว

ยศพลกำลังคร่อมอยู่บนตัวของเธอ สองขาของเขาวางพาดคนละฝั่งของลำตัวเธอ เขาก้มหัวลงมาจุมพิตไปตามซอกคอนวลเนียน

ความรู้สึกชาวาบค่อยๆ ประทุขึ้นมาจากหน้าท้องของเธอ

รสจูบของเขาเต็มไปด้วยความรักใคร่ และเร่าร้อน อุณหภูมิที่ร้อนวูบวาบ ลากผ่านไปตามลำคอและกระดูกไหปลาร้าที่เนียนละเอียดของเธอ

เขาหอบหายใจ ผมที่ยุ่งเหยิงทิ่มแทงที่ปลายคางของเธอ ทำให้เธอรู้สึกจักจี้ เขาคงเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเป็นแน่ เพราะผมของเขายังคงมีกลิ่นหอมอ่อนอ่อนของแชมพู

เขาขบเม้มบริเวณกระดูกไหปลาร้าของเธอเบาๆ ราวกับสัตว์ร้ายที่หาที่ระบายความรู้สึกอัดอั้นตันใจ ในความปรารถนาของตน

ใบหน้าของเขาแนบชิดอยู่กับความลาดชันที่ขึ้นลงของเธอ ริมฝีปากที่เปียกชื้น กัดเบาเบาลงบนเสื้อผ้าที่ขวางกั้นอยู่

ความรู้สึกที่วาบหวามโจมตีเธอ ลมหายใจของเธอเด่นชัดรุนแรงขึ้นมา ดวงตาค่อยๆพล่ามัวจนแทบจะรับไม่ไหว เทคนิคระดับสูงของเขาทำให้เธอสูญเสียการควบคุม ในใจแทบจะอดทนรอให้เขาทำการกระทำที่ลึกซึ้งกว่านั้นไม่ไหวอีกต่อไป

มือของเธอคว้าผ้าปูเตียงไว้แน่น เธอส่งเสียงร้องครวญคราง ปลุกเร้าอารมณ์ของคนฟังออกมา

เสียงนี้กระตุ้นเข้าไปในโสตประสาทของยศพล ปลุกเร้าความเป็นชายของเขาให้ตั้งชูชัน ร่างกายแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

เค้าใช้ปากแกะกระดุมเสื้อของเธอออก พลางใช้ลิ้นอุ่นร้อนหยอกเย้ากับผิวกายด้านในเบาๆ

ตัวของผู้หญิงคนนี้ช่างหอมหวาน หวานจนทำให้เหมือนมีกรงเล็บของแมวนับ 100 ตัวกำลังข่วนลงไปที่หัวใจของเขา

เขาต้องการเธอ ต้องการเธอจนแทบบ้า

" ที่รักเธอทำให้ฉันหลงจนแทบโงหัวไม่ขึ้น”

เสื้อเชิ้ตของเธอเปียกชื้นไปด้วยน้ำลายของเขา ร่างเล็กบางบางสีชมพูของเธอเกลี้ยงเกลา เค้าครวญครางในลำคอ ทางขบเม้มผิวกายเธอไปมา

"อื้อ"เธอร้องออกมาเบาๆ ใบหน้าเล็กขึ้นสีแดงเรื่อ ดวงตาของเธอค่อยๆเลือนลาง

ลมหายใจที่ยุ่งเหยิงของเขา เป่ารดอยู่ตามผิวกายของเธอ อุณหภูมิที่ร้อนระอุทำให้เธอรู้สึกเสียววูบวาบ

" ที่รัก ผมต้องการคุณ ทำยังไงดี?”

ใบหน้าของเขาแนบชิดอยู่กับหน้าท้องของเธอ เขาลากไล้ริมฝีปากไปมา มือหนาสอดแทรกเข้าไปในกางเกงของเธอราวกับงูที่เลื้อยไปมา

มีเพียงชั้นในตัวจิ๋วที่กั้นอยู่ เขากดจูบลงไปบนจุดที่ไวต่อความรู้สึกของเธอ

" อย่านะ”

จารวีได้รับการกระตุ้นที่จุดเดือดเช่นนี้ พลันเธอก็มีสติขึ้นมา เธอยื่นมือออกไปกำบังกลีบกุหลาบที่หอมหวานของตนไว้

" อย่านะ ไม่ได้นะ ยังเหลือเวลาอีก 15 วันคุณต้องอดทนเพื่อลูกของเรา โอเคไหม?”

ความปรารถนาอันร้อนแรง โอบล้อมไปทั่วรางกายของเขา" ฉันแค่จูบได้ไหม ฉันจะไม่ทำอะไรให้เธอสั่นสะเทือน”

มือหนากุมมือเล็กของเธอ พลางค่อยๆเคลื่อนย้ายไปยังส่วนที่ตั้งชูชันของตน เบ้าตาที่แดงก่ำของเขา เต็มไปด้วยไฟราคะ

เขารู้สึกว่าตัวเองน่าสงสาร ร่างกายแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ

" ไม่นะ ไม่ได้เด็ดขาด คุณรีบลุกออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”

จารวีกลัวว่าเขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วจะทำการกระทำที่ป่าเถื่อนออกมา

นิสัยของผู้ชายคนนี้ยิ่งรุนแรง ถ้าหากว่าเขาควบคุมตัวเองไม่ได้เช่นนั้นคงจบเห่แล้ว

น้าอามเอ่ยเตือน จารวีถึงดึงสติกลับมาได้ เธอสวมรองเท้าแตะพลางเดินเข้าไปในห้องน้ำ

เธอก็จะอยู่บ้านเฉยเฉยแบบนี้ไม่ได้แล้ว เธอควรจะไปที่บริษัท ถึงแม้ว่ามีชัชวินคอยดูแลอยู่

แต่เธอก็ไม่วางใจ เมื่อสองสามวันก่อนเธอเข้าโรงพยาบาลไปหลายวัน

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จจารวีก็ตรงไปที่บริษัท

เนื่องจากเธอไม่อยู่เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ การประชุมประจำสัปดาห์ทุกวันศุกร์ก็เลยย้ายมาเป็นวันจันทร์

จารวีรับเอกสารจากในมือของชัชวินมาถือไว้ กล่องเอกสารสะสมเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์

ทำให้เอกสารเหล่านี้เยอะมากกว่าปกติ กว่าจารวีจะตรวจทานเสร็จก็เป็นเวลากลางวัน หลังจากประชุมก็เป็นเวลาใกล้จะเลิกงานแล้ว

จารวีรู้สึกแปลกใจ ทั้งวันนี้ ยศพลไม่ได้โทรศัพท์หาเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว

เธอจึงกดต่อสายไปหายศพล เสียงจากปลายสายบ่งบอกว่ากำลังทำการติดต่อ

จารวีกดวางสายแล้วเก็บของ เตรียมจะกลับบ้าน

พลันโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้น เธอกดรับโทรศัพท์" คุณจารวีคะมีคุณผู้หญิงชื่อนิชาภามารอพบคุณอยู่ที่ห้องรับรองแขกค่ะ คุณมีเวลามาพบเธอมั้ยคะ?"เสียงของพนักงานต้อนรับสาวสวย ดังรอดมาจากปลายสาย

จารวีลังเลเล็กน้อย"ให้เธอขึ้นมาเถอะ”

ไม่นานนัก นิชาภาก็เดินตามคำแนะนำของพนักงานต้อนรับ มายังห้องทำงานชั้นสอง

นิชาภายังคงแต่งตัวได้บริสุทธิ์สดใส เธอใส่เสื้อคลุมสีขาวขุ่น ท่อนล่างคือกางเกงยีนส์รัดรูป ผมยาวสลวยถูกปล่อยสยายประบ่า ใบหน้าที่งดงามแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม

ผู้หญิงคนนี้มีใบหน้าที่ไร้ซึ่งพิษสงใดๆ ไม่ว่าใครที่ได้มองเธอ ก็จะเห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอ่อนหวาน

"จารวี ฉันมารบกวนเธอหรือเปล่า?

จารวีไม่เข้าใจจุดประสงค์ในการมาของเธอ"นิชาภา ฉันกำลังจะกลับบ้าน ถ้าเกิดว่าคุณอยากจะตามหายศพล ฉันแนะนำให้คุณไป หาเค้าทีversail วิลล่า

"ฮ่าๆ คุณไม่ต้องตื่นตัวขนาดนั้นหรอกค่ะ ยังไงพวกเราก็เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน คุณปฏิบัติต่อฉันแบบนี้ ทำให้ฉันเสียใจนะคะ"นิชาภาทำหน้ามุ่ย มันดูบิดเบี้ยวอย่างถึงที่สุด

จารวีกอดอกพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม" แล้วเธอมาชวนฉันไปดื่มชาหรืองไงคะ?”

จริงๆแล้วไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ฉันแค่อยากมาดูว่าออฟฟิศที่ยศพลตกแต่งให้เธอ เป็นยังไง อ้อ ใช่สิ จริงๆแล้วเมื่อคืนนี้ฉันไปพบกับเขามาน่ะ!”

จารวีเลิกคิ้ว" เมื่อคืนเขาอยู่บนเตียงกับฉัน เธอจะเจอเขาได้ยังไง?”

นิชาภากระพริบตาไปมา" งั้นหรอ? แล้วฉันตาฝาดไปเองงั้นสิ? จริงๆแล้วฉันเห็นเขาอยู่ที่โกลเด้นคลับ เฮ้อ แต่ว่า เธอก็ไม่ควรห้ามหรอก ผู้ชายเขาก็ต้องมีสังคมกันบ้าง ไปสถานที่แบบนั้นมันก็เป็นเรื่องปกติ เอ แต่อาจจะเป็นได้ว่าไปหาความเร้าใจ แล้วยิ่งผู้ชายอย่างยศพลด้วยแล้ว เพียงแค่กระดิกนิ้วก็มีผู้หญิงเป็นขบวน ยอมที่จะให้เขาฟรีแล้วล่ะนะ มันคุ้มมากเลย ถ้าเขาจะไปหาอาหารที่สถานที่แบบนั้น”

จารวีเริ่มโมโห น้ำเสียงของเธอเล็กแหลมพลางเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ" นิชาภา ถ้าเธอยังอยากให้ฉันปฏิบัติต่อเธอด้วยความนอบน้อมแล้วก็เธอ อย่ามาก่อสงครามระหว่างเรา ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกรปภให้มาลากเธอออกไปเดี๋ยวนี้

นิชาภาเสแสร้งทำหน้าตาตกตะลึง" โอเค โอเค อย่าพึ่งโกรธสิ จริงๆแล้วฉันยังไม่ได้บอกว่าฉันจะชวนเธอออกไปดื่มชาน่ะ แต่พอเห็นเธอโมโหอย่างนี้แล้วก็เราก็เปลี่ยนวันกันเถอะ”

จารวีจ้องมองนิชาภาที่เดินออกไป เธอยังคิดไม่ตก ว่าเมื่อคืนนี้เขาออกไปทำอะไรกันนะ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย