ตอนที่ 154 มีคนเจ็บใจ
กลางดึกที่มืดมน ยื่นมือแล้วไม่เห็นนิ้ว แสงสว่างดวงจันทร์กระทบเข้ามาจากนอกหน้าต่าง ทำให้ห้องที่หรูหรานั้นมีแสงสว่างขึ้นมาชั้นหนึ่ง จนเหมือนอยู่ในฝัน
จารวีนอนอยู่ในพรมอย่างไร้เรี่ยวแรง สายตาลอยนั้นมองแสงสว่างดวงจันทร์มี่ไกลออกไป
ในหนึ่งนาทีก่อนหน้านี้ ความเจ็บปวดนั้นเกือบจะเอาเธอแตกสลาย
เธอคิดว่าตัวเองกำลังจะตายแล้ว
แต่เธอยังไม่ตาย จากการเจ็บปวดที่ร้าวจนจะตายนั้น เธอได้รอดมาอีกครั้ง
เหงื่อไหลลงเปียกหน้าผาก ทำเอาเสื้อผ้าเธอเปียกเหงื่อไป ทั้งตัวเย็นติดแนบตัวเธอไว้
เธอไม่อยากขยับ ไม่มีแม้แต่แรงแล้ว ความเจ็บปวดกลืนร่างกายเธอไปทั้งหมด
และนาทีนี้ เธอนอนนิ่งอย่างปลาที่อยู่ในทะเลทราย หัวใจอย่างไร้ความรู้สึกไปแล้ว
จู่ๆ เสียงประตูเปิดออกเบาๆ ไฟดวงสีชมพูสว่างขึ้น เสียงฝีเท้าดังเข้ามา
“จารวี เธอนอนที่พื้นทำไม?”
แทรกกลิ่นแอลกอฮอล์ที่แรง ยศพลร้องขึ้นอย่างกังวล “น้าอามน้าอาม...”
จริงๆนั้นน้าอามไม่ได้เป็นทุกอย่าง แต่เขาแค่ตะโกนแบบนี้มากดดันความหวาดหวั่นและกังวลตัวเองแค่นั้น
จารวีถูกอุ้มไปที่เตียง ยศพลรีบสัมผัสหน้าผากเธออย่างเป็นห่วง แล้วเปลี่ยนชุดนอนให้เธอทันที
“เธอเป็นไงบ้างครับ?”
น้าอามรีบวิ่งขึ้นไป ทั้งบ้านเดี่ยวรู้สึกคึกคักขึ้นมา โลกนี้จากเงียบเปล่าเปลี่ยวเป็นวุ่นวายขึ้นมา
“ฉันไม่เป็นอะไร พวกเธอเสียงดังจังเลย...”จารวียื่นมือดันยศพลออก สาตาเธอไปด้วยความต่อต้าน
ยศพลจับมือเธอแล้วคิดไปแป๊บ หันกลับไปพูดกับน้าอาม “เธอเลยไปก่อนเลย!”
“คุณจารวีไม่เป็นไรใช่ไหม?”น้าอามหน้าซีดมาก ทั้งคนเหมือนโดนลากขึ้นมาจากแม่น้ำ
“ฉันไม่เป็นอะไร น้าอามฉันแค่ฝันร้าย เลยล้มไปที่พื้น...”
จารงีนั่งขึ้นมาอย่างระวัง แล้วพิงไปที่หมอน จับหน้าไว้ ค่อยๆลงเตียงแล้วเดินไปห้องน้ำ
หรือเมื่อกี้นั้นเป็นแค่ฝัน?ความเจ็บทรมานนั้นเป็นแค่ฝันรึ?จารวีรู้สึกไม่ค่อยตื่น
เเสงไฟทำให้เธอแยกความจริงกับความฝันออก
“คุณจารวีฉันประคองคุณค่ะ...”น้าอามเข้ามา
“ฉันไม่เป็นอะไร เธอลงไปเถอะ พวกเธออยู่นี่แล้วเสียงดังมาก...”
จารวีพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแอ เธอค่อยๆดันน้าอามออก แล้วเดินเข้าห้องเปิดน้ำอุ่น จากนั้นนั่งลงในอ่าง เหมือนเหงื่อทั้งตัวออกไปหมดแล้ว ทั้งตัวเปียกเหนี่ยว ช่างลำบากนัก เธอเพียงอยากอาบน้ำ
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกจากข้างนอก ร่างเงายศพลเดินเข้ามา
“อาบน้ำไม่ถอดแม้แต่ชุดนอนเลยเหรอ...”
น้ำร้อนที่สาดลงชุดนอนเธอ เปียกแล้วให้เห็นถึงทรงหุ่นของเธอ โดยเฉพาะทรวงอกที่นูนอย่างชัด ทำให้ยศพลร้อนขึ้นมาทันที
เขาไม่ถอดชุดสูตร ถอดร้องเท้าทิ้งแล้วพุ่งเข้ามา
น้ำร้อนสาดลงมาไม่หยุด เขากอดร่างเล็กเธอขึ้นมา อุ้มเธอไปที่ข้างอ่าง ให้เธอพิงอ่างไว้
เขาจูบริมฝีปากเธอ เขากระตุ้นเธอ เร่าร้อนอย่างบ้า
เขาเหมือนจะลืมคำเตือนของหมอฮูโอไว้หลังหัว เขาอยากได้เธอ เอาเธอเข้าร่างกายเขาแล้วไม่จากไปไหน
จารวีเริ่มต่อต้าน แล้วดันเธอเบาๆ “ไม่เอา ไม่เอายศพล อย่าแตะต้องฉัน...”
หยดน้ำไหลลงใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ไหลลงแบบนั้นไปถึงริมฝีปาก แล้วร้อนขึ้นมาจากหูแล้วลงไปส่วนที่นูน
จารวีไม่มีแรงแล้ว เธอพูดอะไรไม่ออก
ปล่อยให้เขาอบเอวบางเธอไว้ แล้วกระแทกเข้าร่างเธอ
น้ำเอาตัวทั้งสองคนเปียกจนเห็นชัด...
หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง จารวีถูกยศพลอุ้มออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรง
เขาไม่ใส่อะไรทั้งนั้น เพียงเอาผ้าขนหนูพันส่วนสำคัญไว้ จากนั้นอุ้มเธอออกมา
วางลวบนเตียงนอน เขาพยายามเช็คผมของเธอให้แห้งจากหยดน้ำ แล้วเอาไดน์เป่าผม เป่าให้
ผมเธอเยอะมาก ทั้งยาวและนุ่มมาก เหมือนเป็นเส้นไหม้สีดำ
เขาเป่าให้อย่างตั้งใจ ไม่ปล่อยแม้แต่เส้นอย่างเป็นของสำคัญมาก
จารวีหลับตาลง
ยศพลเงียบไปไม่พูดสักคำ เสียงเขาแหบไปแล้ว เขาไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอดี
คำถามบางอย่างเขาอยากถาม แต่กลัวผลที่ถามออกมาอาจจะทำให้เขาสลดได้
มือเขาสันไม่หยุด
“ยศพล ฉันได้โรคร้ายที่น่ากลัวใช่ไหม?”
เขาเป่าผมเธอให้แห้ง แล้วประคองเธอนอนลง จารวีมองเพดานไว้ แล้วถามให้เข้าใจ
ร่างกายยจสั่นเบาๆ สายตามองไปที่อื่น “เธออยากพูดอะไร?”
เสียงแหบจนเหมือนโดนทรายถูมา ให้คนฟังแล้วเจ็บใจ
“เมื่อกี้...ฉันฝันว่าตัวเองเจ็บมาก...”จารวีหนุดไป มือจับผ้าปูไว้แน่น เธอหวังให้เขาอยู่ข้างๆเธอในตอนนั้นที่สุด
“เจ็บมาก?เป็นแค่ฝันเหรอครับ?”
“อืม ฉันก็อธิบายไม่ถูก ฉันคิดว่าฉันตาบไปแล้ว คนท้องเขาต้องเจ็บแบบนี้ไหม?”จารวีถามขึ้น
“อืม ก็คงงั้น!เธออย่าคิดมากเลย!”ยศพลห่มผ้าให่เธอ เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปที่โซฟา
“คืนนี้ผมนอนโซฟา!”เขานั่งลงแล้วปิดไฟ
จารวีมองเธอทีหนึ่ง “เธอยินดีจากใจไหม?”
“แน่นอนสิ คุณดูสิ ตอนคุณไม่อยู่ฉันจัดการบริษัทแทนคุณอย่างเรียบร้อยเลย นี่จะเป็นค่าแรงฉันหรือเปล่า?”
จารวีหน้าเย็น เดินไปห้องทำงานอีกชั้น
“เดินตามฉันมาสิ!”
นิชาภายิ้มออกมาอย่างเดายาก ค่อยๆเดินตามหลังจารวี แล้วเดินเข้าห้องไป
จารวีวางกระเป๋าไปที่ห้องทำงาน จากนั้นพลางจ้องนิชาภาด้วยสายตาแน่น
“เมื่อคืนเธออยู่กับยศพลเหรอ?”
นิชาภาเม้มปากเบาๆ “อ๊อ แม้แต่สิ่งนี้เขาก็รายงานคุณรึ?”
ความเชื่อใจจารวีจางหายไป ของที่สว่างเอาขึ้นมาโยนตรงหน้านิชาภา จากนั้นตกไปที่พื้น
นั่นเป็นตุ้มหูเล็กๆข้างหนึ่ง นิชาภาก้มลงเก็บขึ้นมา แล้วจับไว้ในมือ
หมุนสายตาไปรอบหนึ่ง “โอ้ย เมื่อคืนฉันหาไปตั้งนาน ที่แท้คุณเก็บไปเอง ขอบคุณนะ!”
จารวียิ้มเย็น “ฮืม เธอเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อสูตรยศพล ก็เพื่อจะให้ฉันรู้ไม่ใช่เหรอ?เอาดิ ตอนนี้ฉันรู้แล้ว เธอมีอะไรก็พูดมาตรงๆ!”
นิชาภานั่งอยู่ในโซฟา ห้อยขาที่เรียวยาวไว้ จู่ๆเธอก็ยิ้มขึ้นมา
“คุณโกรธแล้วรึ?เพียงแค่รักสนุกคืนเดียว เธอจำเป็นต้องจริงจังขนาดนี้ไหม?ยังไงถ้าไม่ใช่ฉัน ก็คือผู้หญิงคนอื่น”
จารวีไม่ได้ถูกเธอทำให้กระตุ้น แต่กลับยิ้มเย็น “รักสนุกคืนเดียว?เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเธอรึ?”
“อ้อ?เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่คุณ ยังไงเราก็ทำกันแล้ว”
จารวียิ้มอย่างเข้าใจ เมื่อคืนยังคิดสงสัยยศพลมีผู้หญิงคนอื่น แต่เมื่อคืนกลับมาแล้วทั้งสองคนเร่าร้อนแบบนั้น นี่ก็แสดงอย่างชัดเจนแล้วว่าเขาไม่ได้แอบกินข้างนอก
ผู้ชายของเธอเอง เธอก็เข้าใจดีอยู่แล้ว
“นิชาภา ตั้งแต่นี้ไป เธอถูกไล่ออกแล้ว ไปเอาเงินเดือนที่ธุรการแล้วไปซะ!”จารวีพูดขึ้นมาเย็นๆ
“จารวี เธอรู้ไหมเธอกำลังใช้อารมณ์ดำเนินเรื่อง เพียงแค่เรื่องส่วนตัวก็มาระบายทางอารมณ์ การเป็นเจ้านายคนหนึ่ง นี่มันดีต่อบริษัทคุณอยู่แล้ว”
จารวีไม่ได้ฟังเธอพูดมากอีก โทรไปหายามทันที “ยาม มาเอานิชาภาออกไป”
นิชาภาลุกขึ้นมา “ฉันไป ฉันไป เธออย่าเสียใจละกัน”
จารวีวางสายไป มองเธอไว้เย็นๆ
บางทีความสามารถนิชาภาอาจจะนำพาความก้าวหน้าให้บริษัท แต่ว่าเธอไม่อยากให้ชีวิตตัวเองไม่มีความสุข ยิ่งไม่อาจเอาระเบิดที่ตั้งค่าเวลาไว้ข้างตัวเองหรอก
เดิมที เธอคิดว่านิชาภาจะตั้งใจทำงานดีดี ไม่คิดว่าเธอจะอ่อยยศพลเอง ทำให้พวกเขาสองคนต้องทะเลาะกัน ฉะนั้นแล้วเธอไมเอานิชาภาไว้ข้างตัวแน่นอน
ยามปรากฏขึ้นหน้าประตู นิชาภาเดินออกไปอย่างไม่พอใจ แล้วยิ้มให้จารวีอย่างได้ใจ “จารวี ต้องมีสักวัน ที่คุณจะมาขอฉันให้อยู่”
จารวีสะบัดมือ สื่อให้ยามเอาเธอออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย