"แกไม่ต้องพูดอะไรแล้ว" ธรรมดาอ้าปากจะเห็นลิ้นไก่ แต่นี้ลูกชายยังไม่อ้าปากนางก็มองทะลุโปร่งแล้ว ว่าคงไม่อยากรับผิดชอบผู้หญิง "หนูอยากแต่งงานไหม" แต่สิ่งที่ลืมไม่ได้ก็คือ ต้องถามฝ่ายหญิงด้วยว่ายินยอมพร้อมใจไหม
"แต่ลูกชายของท่านไม่อยากแต่งนี่คะ" มันเป็นประโยคแรกที่เธอพูดออกมาตั้งแต่ถูกเขาทำร้ายร่างกาย ขนาดแพทย์ผู้รักษาถามเรื่องอาการเธอก็ยังไม่ปริปากพูด
"แกอยากแต่งไหม" สายตาเอาเรื่องของผู้เป็นแม่เหลือบมองไปที่ลูกชาย ถ้าเขาปฏิเสธมีหวังตายลูกเดียว ชายหนุ่มก็เลยตอบไปโดยการพยักหน้าแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก
"ลูกชายของแม่อยากแต่งงาน หนูรีบหายนะลูก จะได้จัดงานแต่ง"
ทำไมเขามีแม่ที่ประเสริฐขนาดนี้ เธอแพ้ใจของหญิงวัยกลางคนในความโอบอ้อมอารีของท่าน
"หนูนอนพักผ่อนนะ" แพทย์หญิงอมรรัตน์เอื้อมมือขึ้นไปเช็คสายน้ำเกลือ และปรับให้การไหลของน้ำเกลือคงที่ "เดี๋ยวคืนนี้แม่จะมาอยู่เป็นเพื่อน"
"ดีเลยครับแม่"
"อะไรดี"
"ก็แม่มาอยู่เป็นเพื่อนแล้วผมจะได้.."
"แกก็อยู่ที่นี่"
"ไม่นะแม่"
"รันเวย์!" ถ้าชื่อจริงออกจากปากของแม่หรือพี่ชาย รันเวย์ต้องได้หยุด เพราะท่านเอาจริง
และที่นางต้องทำแบบนี้ รู้ดีว่าถ้าฝ่ายหญิงเอาเรื่องมันจะหนักมาก จะเรียกว่านางช่วยลูกชายอีกทางหนึ่งก็ได้ ถือว่าแฟร์ๆ กันทั้งสองฝ่าย
"อะไรนะคะ?" ไอยวริญรอแม่สามีมารับแต่ก็ไม่เห็นมาสักที เธอเอะใจก็เลยลงมาถามสามีที่ห้องตรวจดู ..เซอร์เวย์ก็เลยพูดให้ฟังแบบคร่าวๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
"แล้วตอนนี้คุณแม่อยู่ห้องไหนคะ"
"สงสัยท่านจะกลับไปเตรียมเสื้อผ้าที่บ้าน"
"ท่านจะมาค้างที่นี่หรือคะ"
"ใช่..คงมาเฝ้าดูความประพฤติลูกชายคนเล็ก"
"แล้ว.."
"อยู่ห้องใกล้ๆ นี่เอง เดี๋ยวผมให้พยาบาลพาไป ไม่ดีกว่า..เดี๋ยวผมพาไปเอง"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณติดคนไข้อยู่นี่คะ"
"แป๊บเดียวเอง" ว่าแล้วนายแพทย์หนุ่มก็ลุกขึ้นพร้อมกับจูงแขนภรรยาเดินออกมา "พาคนไข้เข้าไปรอในห้องเลยนะ" สั่งพยาบาลที่อยู่ด้านหน้าก่อนจะพาเธอไปห้องนั้น
แกร็ก..
หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงหันมามองดูประตูว่าเป็นใครที่เข้ามา ส่วนผู้ชายที่ถูกบังคับให้เฝ้าตอนนี้นอนหลับอยู่บนโซฟา
"เป็นไงบ้างคะ" เข้ามาถึงไอยวริญก็ถามตามประสาผู้หญิงด้วยกัน
"ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ" ถ้าไม่ตอบคงเสียมารยาทมากเกินไป
ไอยวริญมองไปดูน้องชายของเขา แล้วก็มองกลับมาดูสามีตัวเอง โชคดีของเธอมากที่ได้พี่ชายคนโตของบ้านนี้เป็นสามี
"นั่งคุยกันไปก่อนนะ ผมจะไปตรวจคนไข้ต่อ" ชายหนุ่มขยับเก้าอี้มาให้เธอได้นั่งข้างๆ เตียงคนป่วย
"อยากทานอะไรไหมคะ เดี๋ยวฉันไปหามาให้"
"ไม่ค่ะ" น้ำตาคลอออกมาอีกครั้ง คนบ้านนี้น่ารักทุกคนเลย แต่ยกเว้น..เธอไม่อยากจะมองไปดูคนคนนั้นเลยด้วยซ้ำ
ไอยวริญนั่งคุยเล่นเป็นเพื่อนจนถึงเวลาที่แม่สามีกลับมา
"อ้าวหนูอายก็อยู่นี่เหรอลูก แม่ลืมไปเลยว่านัดเราไว้" นางมัวเหนื่อยใจกับลูกชายคนเล็กก็เลยลืมนัดไปเลย
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณแม่"
"แม่นี่แก่แล้วแก่เลย แทนที่จะโทรไปบอกเราว่าเลื่อนนัดก่อน"
"นี่คุณจะหลอกด่าผมใช่ไหม"
"พอเถอะค่ะ เรื่องนี้เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง" ถ้ามันจะจบจริงก็ให้มันจบไปเลย แต่นางขอส่งลูกชายทั้งสามถึงฝั่งก่อน
"เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยแล้วคุณจะไปไหน"
"ฉันเหนื่อยค่ะ"
"หาแต่เรื่องมันก็เหนื่อยน่ะสิ"
"ใครหาแต่เรื่องกันแน่คะ"
เสียงของทั้งสองท่านทะเลาะกันดังไปจนถึงชั้นบน
"สบายใจแล้วใช่ไหม ที่ทำให้พ่อกับแม่ของฉันมีปากเสียงกัน" ประโยคนี้คนที่พูดไม่ได้มองหน้าคู่สนทนา มีแต่คู่สนทนาที่มองไป แบบอัตโนมัติ เพราะคำพูดของเขาไม่เข้าหูเลย
"คุณพูดแบบนี้หมายความว่าเรื่องทั้งหมดฉันเป็นคนก่อขึ้นมางั้นเหรอ?"
"ใช่"
"คนเลว"
"เธอว่าใคร?" จากที่ไม่คิดจะสนใจ พอถูกด่าว่ารันเวย์ก็หันมาแบบไม่ชอบใจ
"อยู่ด้วยกันแค่สองคนฉันคงไม่ด่าสัมภเวสีหรอกมั้งคะ"
"ฉันรู้นะว่าเธอดีใจจนเนื้อเต้น เก็บอารมณ์ได้ดีนี่"
"ใช่ค่ะฉันดีใจจนเนื้อเต้นพอใจหรือยังล่ะ โอ๊ย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียขัดดอก