ทั้งสองคนสายตาประสานกัน
หญิงสาวบ่นโอดอย่างสงสาร “คุณทำไมถึงไม่ไปโรงพยาบาล?พวกเราไม่ใช่หมอสักหน่อย” เธอกลัวว่าจะเกิดอาการฉุกเฉิน
ชายหนุ่มไม่ตอบเพียง แต่หลับตาแล้วเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อ
เบญญาอดทนต่อความรู้สึกกระอักกระอ่วน และพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปฏิบัติตัวเองว่าเป็นหมอและปฏิบัติต่อเขาในฐานะผู้ป่วย
สุดท้ายเธอก็ช่วยเขาถอดเสื้อที่เปื้อนเลือดออก บาดแผลที่แผ่นหลังปรากฏสู่สายตา มันเป็นรอยถูกกระจกบาดไม่ลึกมากนักขฌ แต่ยาวประมาณเท่านิ้วมือ
น่าจะไม่จำเป็นต้องเย็บแผลดท เพราะเลือดจับตัวเป็นก้อนและหยุดไหลแล้ว
เธอหยิบยาแก้อักเสบออกมาจากกล่องยาแล้วเทลงบนสำลี ทำความสะอาดบาดแผลและคราบเลือดรอบๆ อย่างระมัดระวังที่สุด
“ซี๊ด ”ญด ถึงแม้ว่าวริศจะอดกลั้นอย่างมาก แต่เขาก็ขู่ฟ่อออกมาด้วยความเจ็บปวดอยู่ตลอด
ยัยเด็กนี่มือหนักมากเกินไปแล้ว!
เบญญาที่มีนิสัยไม่อินังขังขอบ ตั้งแต่ยังเด็กก็มีคนคอยปรนนิบัติรับใช้ เธอจึงลงมือทำอะไรได้ไม่เก่งนัก
เดิมทีเธอไม่ใช่คนละเอียดอ่อนเลย และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเจอเรื่องอะไรแบบนี้ เธอไม่เพียงไม่มีประสบการณ์มาก่อนเท่านั้น แต่ภายในใจก็ตื่นตกใจมากด้วย และในตอนนี้เธอก็ยังอกสั่นขวัญเสียอยู่เลย
แต่เธอก็เป็นผู้ใหญ่เหมือนกัน จึงพยายามจะทำให้ดีที่สุด
เธอยังคงเข้าใจขั้นตอนการทำแผลเบื้องต้น เคยเห็นในละครมาบ้าง
หลังจากทายาแก้อักเสบให้เขาแล้ว ก็ทาผงห้ามเลือดลงบนบาดแผล และทาขี้ผึ้งบรรเทาอาการปวดอีกนิดหน่อย จากนั้นก็แปะผ้าพันแผลอันใหญ่ให้เขา
เธอไม่ทันจะได้จัดกล่องยาให้เป็นระเบียบ ก็หันกายเดินกลับไปที่ห้องนอน
วริศหันกลับมามอง “แค่นี่เองเหรอ?”
“เดี๋ยวๆๆๆๆ!” หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ออกมาพร้อมกับเสื้อเชิ้ตสะอาดๆ ตัวหนึ่ง “คุณรออีกเดี๋ยวค่อยใส่” กล่าวจบ เธอก็ไปหยิบกะละมังใส่น้ำร้อนแล้วโยนผ้าขนหนูลงไป
บิดผ้าที่ร้อนชื้นและเช็ดหลังให้เขาให้สะอาดอย่างขะมักเขม้น“วันนี้คุณไม่ต้องอาบน้ำหรอก เหงื่อยังไม่ออกเลยด้วย”
วริศเขาเพลิดเพลินกับการปรนนิบัติของเธออย่างเงียบๆ
ที่จริงแล้วเบญญารู้สึกประหม่าอยู่นิดหน่อย เมื่อเธอสัมผัสผิวหนัง หน้าอกของเธอก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างไม่สามารถอธิบายได้ และหัวใจของเธอก็เต้นผิดปกติ
ก็ชายหญิงก็ไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวกันนี่นา
“ทำไมจะทำไม่เป็น?” เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา “ไม่เคยทำก็ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นผ่านตามาก่อนสักหน่อย?” เก็บกล่องยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็เข้าไปในครัว
เมื่อเห็นหม้อไหกะละมังเหล่านี้ เบญญาที่ทำอะไรเองไม่เป็นตั้งแต่เด็กก็นิ่งอึ้งไปหลายวินาที
ทว่าเธอรู้สึกว่าน้ำเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำบะหมี่ เธอจึงใส่น้ำลงในหม้อสะอาดแล้วเปิดแก๊ส
เธอเอาบะหมี่กำมือเล็ก ๆ ออกมาจากตู้แล้วใส่ลงไปในน้ำก่อน ไม่รู้ว่าจะเพียงพอสำหรับสองคนหรือเปล่า?
จึงใส่เพิ่มลงไปอีกกำมือหนึ่ง แต่มองดูก็รู้สึกว่าไม่พอญท เธอจึงเพิ่มลงไปอีก
แบ่งรวมห้าครั้ง สุดท้ายเธอก็ใส่บะหมี่ลงไปทั้งถุง ก่อนที่น้ำจะเดือด แต่เธอก็ยังคงรู้สึกว่าไม่พอทาน
เมื่อเวลาผ่านไป ก็เห็นน้ำเย็นนั้นเริ่มมีไอร้อนและเดือดขึ้นมาเล็กน้อย
ทันใดนั้นเอง เธอก็พบว่าบะหมี่ในหม้อมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ!
เธอตกใจจนเบิกตากว้าง “ทำไมถึงเป็นแบบนี้?” มันเต็มหม้อ! จนจะล้นออกมาแล้ว!
ทำไมต้มบะหมี่ไปๆ มาๆ มันถึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก