“พระเจ้าช่วย...คุณเอี๋ยน!”
พยาบาลเห็นฉากอันน่าสะพรึงกลัวที่สุดในอาชีพการงานของเธอจึงตกใจมาก เธอคว้าแขนของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณกำลังจะทำให้เส้นเอ็นของเธอหัก หยุดนะ!”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่สติไปไม่ยอมฟัง เธอรุมทึ้งจนหงยวี่จนไม่มีที่ว่างให้ต้านทานนอกจากส่งเสียงโหยหวน
พยาบาลหยุดไม่ได้ เธอจึงต้องกดเครื่องส่งรับวิทยุ “พ่อบ้านเซี่ย เกิดเรื่องกับคุณเอี๋ยนแล้วค่ะ”
เซี่ยเอ่อกำลังยุ่งอยู่ และเมื่อเขาได้ยินดังนั้น เขาก็วางงานในมือลงและรีบเร่งออกไป ลากเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ออกไปด้วยกำลัง
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ผมของเธอกระเซิงและหอบอย่างหนัก สายน้ำเกลือในมือของเธอถูกฉีกออก ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเลือดราวกับแม่มดที่น่ากลัว
“ยัยบ้า!” เธอชี้ไปที่หงยวี่อย่างดุเดือดโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของเธอเลย “ถ้าเธอจะรังอกฉันอีกละก็...ฉันจะทำให้เธอต้องรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต!”
อนิจจา ผู้หญิงที่ยามปกติดูอ่อนโยนเงียบขรึม พอถึงคราวเป็นบ้าก็น่ากลัวจะถึงขีดสุดจริงๆ
พ่อบ้านเซี่ยรู้สึกชาไปทั้งตัวเมื่อเห็น ทำให้เขานึกถึงตอนที่คุณชายโยนเธอลงไปในสระน้ำครั้งแรก ถ้าไม่ผ่านการฝึกฝน คงไม่รู้ว่าความเย่อหยิ่งเป็นยังไง
“พ่อบ้านเซี่ย คุณดูสิคะ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนดุร้ายมาก” หงยวี่เล่นบทเหยื่ออย่างอ่อนแรง “ฉันป้อนอาหารเธอและทายาให้ ยังดีกับเธอไม่พออีกเหรอคะ? แต่เพราะการทายามันทำให้รู้สึกแสบ ก็ใส่ร้ายว่าฉันเทเกลือใสหลังของเธอ...”
“เธอเทมันจริงๆ กล้าทำไม่กล้ารับ เธอมันสารเลว” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนโกรธจัด เธอถลึงตาและพ่อคำด่าออกมาอย่างเหลืออด “เธอบอกว่าไอ้สารเลวเซียวเซิ่งนั่นสั่งให้เทไม่ใช่เหรอ?"
“พระเจ้า!” เมื่อเห็นว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสบถด่าคุณชาย พ่อบ้านเซี่ยจึงมองไปรอบๆ ด้วยความตกใจ “คุณเอี๋ยน อย่าพูดแบบนั้นนะครับ คุณไม่ควรด่าคุณชายไม่ว่ากรณีใดก็ตาม มันเป็นอาชญากรรมร้ายแรง!”
“ใช่ ฉันจะฟ้อง! กรี๊ด...” หงยวี่กรีดร้องเมื่อเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเตะมือของเธออย่างแรง
“เจ็บนะ!” หงยวี่กรีดร้อง เขย่ามือขวาของเธออย่างต่อเนื่อง “พ่อบ้านเซี่ย พยาบาลบอกว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนทำเส้นเอ็นของฉันขาด ฉันจะฟ้องศาล ข้อหาทำร้ายร่างกายและจับเธอเข้าคุกซะ!”
“พอแล้ว ช่างเถอะ ต่อไปหงยวี่ห้ามเข้าใกล้คุณเอี๋ยนอีก หล่อนก็จะทำร้ายเธอไม่ได้ ส่วนคุณเอี๋ยวคุกเข่าต่อไปรอคุณชายกลับมา”
เซี่ยเอ่อ เป็นพ่อบ้านมาหลายสิบปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่ดื้อดึงเช่นนี้ และแน่นอน ว่าหงยวี่ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงต้องปฏิบัติให้เหมือนกัน
“ไม่ได้ จะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ คุณไม่เห็นเหรอว่าเธอรังแกฉันจนเป็นสภาพแบบไหน?”
หงยวี่บ่นทั้งน้ำตา “ถ้าคุณปกป้องเธอ ฉันจะฆ่าตัวตาย! อย่าคิดว่าไม่มีฉัน เธอที่เคยนอนกับคุณชายจะรังแกฉันยังไงก็ได้! เธอมันก็แค่เครื่องมือที่จะระบายความใคร่!”
“ผมไม่ได้ปกป้องใคร คุณรู้แก่ใจดีว่าตัวเองผิดหรือเปล่า เด็กๆ!” พ่อบ้านเซี่ยสั่งให้หงยวี่ไปปฐมพยาบาล
ส่วนเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เธอต้องสอดเข็มเข้าไปใหม่ พยาบาลอยากช่วยเธอทำความสะอาด แต่กลับถูกปฏิเสธ
“คุณเอี๋ยน คุณกล้าด่าคุณชายงั้นเหรอครับ? คุณทำลายเส้นเอ็นของหงยวี่ คุณโหดเหี้ยมกว่าเธอเสียอีก!” พ่อบ้านเซี่ยพูดด้วยอารมณ์
“ฉันกำลังปกป้องตัวเอง”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหลับตาลงและพิงผนังเพื่อหอบ เธอไม่คิดว่าการทำร้ายใครสักคนครั้งแรกในชีวิตของเธอ จะเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงแบบนี้
สภาพแวดล้อมที่รุนแรงสามารถเปลี่ยนคนได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอดีต สวี่เจียนเป็นคนจัดการให้เธอ วันนี้ เธอริเริ่มต่อต้านด้วยตนเอง นั่นถือว่าเป็นการเติบโตและความก้าวหน้าของเธอ
พ่อบ้านเซี่ยส่ายหัว ยิ่งมีผู้หญิงมากเท่าไรก็ยิ่งวุ่นวายมากเท่านั้น เมื่อก่อนมีเพียงเอียนหยู่โรวอยู่คนเดียว ไม่เคยมีความขัดแย้งใด ๆ นับตั้งแต่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเข้ามา เหตุการณ์วุ่นวายก็เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ
ฝูงชนแยกย้ายกันไป และในห้องที่ตกแต่งอย่างหรูหรา มีเพียงเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังอย่างผอมโซ
เธอยังคงเจ็บปวดที่แผ่นหลัง รสชาติของแผลที่ถูกแผดเผาด้วยเกลือนั้นทำให้เธอแทบทนไม่ได้ เดิมทีเธอต้องการเก็บหลักฐานและรอให้ไอ้สารเลวเซียวเซิ่งกลับมาเผชิญหน้า แต่มันเจ็บปวดเกินไปสำหรับเธอ ลืมมันไปซะ
เธอถือขวดยาเดินเข้าห้องน้ำอย่างยากลำบาก เปิดฝักบัวแล้วราดลงบนหลัง ปล่อยให้น้ำเย็นชำระความเจ็บปวดของร่างกายและจิตใจ...
เจ้าเด็กบ้านี่... มีความทะเยอทะยานกล้าที่จะขโมยเมียจากพ่อของเขาเลยเหรอ?
“โอเค” เซียวเซิ่งยืนขึ้นและมองลงมาที่คู่ต่อสู้ตัวน้อย “อันที่จริง ฉันแค่กำลังทดสอบว่าเธอจะรักน้องสาวหรือเปล่า ชื่อที่ลงทะเบียนของเธอคือเซียวอู๋เหิน แค่นี้คงเท่แล้วสินะ”
“ผมว่าแล้วเชียว” พ่อใจดำ ทำเอาเขาตกใจแทบแย่ “ผมขอน้องสาวสองคน ชื่อหรูหวีซื่อสุ่ยด้วยนะครับ”
“โอเค ระวังอย่าไปรังแกใครเข้าล่ะ ใครต่อยมาก็ต่อยกลับ ฉันไม่รังแกเด็กแทนเธอหรอกนะ”
“ไม่ต้องห่วง ผมยังมีพ่อที่เป็นตำรวจด้วย ใครจะกล้าทำร้ายผม?” คนตัวเล็กเลิกคิ้วและยิ้มเยาะ ไม่รู้ว่าเขาได้รับมรดกความชั่วร้ายมาจากไหน
ใบหน้าเคร่งขรึมตามปกติของเซียวเซิ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจ “คนที่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแต่งงานด้วยคือฉัน ฉันเป็นพ่อคนเดียวของเธอ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณต้องพยายามเข้าหน่อย พาแม่ของผมกลับมาโดยเร็วที่สุด จะได้มีเธอแค่คนเดียว”
“อืม” เซียวเซิ่งพยักหน้าเล็กน้อย บีบแก้มนุ่มนิ่มของเขา ไม่เต็มใจที่จะแยกจากกัน
มีคนอยู่โดยรอบ สองพ่อลูกหน้าตาหล่อเหลาคู่นี้ที่มีส่วนสูงต่างกันดึงดูดแฟนๆ นับไม่ถ้วนในทันที เด็กผู้ชายอิจฉา เด็กผู้หญิงหลงรัก แม้แต่ครูผู้หญิงก็ตกหลุมพรางไปด้วย พวกเขาหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป แต่พวกเขาก็หยุดลงอย่างรวดเร็ว
เอี๋ยนหยู่โรวจ้องไปที่สองพ่อลูกด้วยความอิจฉาริษยาและความเกลียดชังในหัวใจ
ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือดจะตัดไม่ขาด เซียวเซิ่งเป็นคนเย็นชา แต่กลับอบอุ่นอย่างมากเมื่อใกล้ชิดกับเจ้าก้อนแป้ง อไม่ว่ายังไงฉากอบอุ่นนี้ก็อยู่ได้ไม่นานหรอก!
ดวงตาของเธอกวาดไปทั่วสระบัวไม่ไกลนัก เธอรู้สึกคันไม้คันมือ ไม่ช้าก็เร็วเธอจะพาเอี๋ยนต้าฟาลงไปในนั้น
หรือไม่ก็ปล่อยให้ตกตึกในโรงเรียนอนุบาลไปซะ
เธอรู้สึกตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อนึกถึงหัวเล็กๆ ที่น่ารักของเอี๋ยนต้าฟากระแทกพื้นอย่างแรง สมองเล็กๆ แตกออกเป็นเสี่ยงๆ สีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่วราวกับไข่คนมะเขือเทศ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น