เอ่อ……
พล คำนี้แทงใจดำมาก
เพื่อโจมตีเธอ ดึงชื่อเสียงลงมาเกินไปหรือเปล่า?
วันวิวาห์กะพริบตาปริบๆ ใบหน้ามีแต่ความบริสุทธิ์:“แต่คนสวยไร้สมองอย่างฉันตอนนี้เป็นภรรยาคุณนะ และก็ถือว่ามีคุณค่า……”
จอมพล:“……”
เคยเห็นว่าหน้าด้าน แต่ไม่เคยเห็นว่าด้านจนสามารถไม่เอาได้
เขาขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับเธอเรื่องนี้แล้ว จึงถามไปตรงๆ:“เมื่อกี๊เกิดอะไรขึ้น?”
สายตาวันวิวาห์มีความหม่นลงไป แต่แป๊บเดียวก็มีความไม่แยแสเข้ามาปกคลุม
เธอกำเสื้อที่ตัวจอมพลแน่น โบกมือแล้วพูด:“ไม่มีอะไร แค่เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ ไปเจอคนเลวๆ ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการให้เรียบร้อย”
ผู้หญิงคนนี้นี่!
ช่างหยิ่งยโสเสียจริง!
จอมพลขมวดคิ้วแน่นขึ้น:“คุณไม่เชื่อใจผม?”
วันวิวาห์กอดแขนของจอมพลด้วยรอยยิ้ม เอนตัวไปที่เขาอย่างตัวอ่อนเหมือนไม่มีกระดูก:“คุณคือผู้ชายที่ฉันเลือก สามีในใบสมรสฉัน!ฉันจะไม่เชื่อคุณได้ไง?ฉันแค่ไม่อยากให้คุณดูถูกฉัน”
หญิงสาวกุมเขาไว้และพูดสาบานอย่างจริงใจและน่าเชื่อถือได้:“เขาอยากให้คุณเห็นว่าเขาไม่ใช่แค่คนสวยไร้สมองนี่ แต่ยังเป็นคนสวยที่สามารถสู้รับมือกับปัญหาได้!”
วีระที่อยู่ตรงที่นั่งคนขับก็สั่นอย่างแรง จนขนลุกไปหมด
คุณหญิงที่เพิ่งแต่งงานคนนี้ของเจ้านาย……แค่ก พิเศษมาก!
จอมพลหน้าหม่นลงไป ผลักวันวิวาห์ออกไปอย่างแรงทันที
สมควรตายจริงๆผู้หญิงคนนี้!
อายบ้างไหม?!
ไม่รักนวลสงวนตัวเลย!
แต่ว่า ให้ตายเถอะ เขาเพิ่งมีแต่ความโกรธเดือดดาล แต่จู่ๆกลับหายไปแปลกๆโดนไม่น้อยเลย
รถขับผ่านเชลน่าคอสเมติกส์
ตนเที่ยง พนักงานด้านในทยอยกันออกมา
วันวิวาห์รีบพูด:“จอดข้างถนนด้านหน้า”
วีระมองไปที่นายตัวเองอย่างไม่รู้ตัว
วันวิวาห์ชี้ไปที่ป้ายเชลน่าคอสเมติกส์แล้วอธิบาย:“บริษัทฉันเอง ในห้องทำงานมีชุดสำรองฉันอยู่”
กระดุมเสื้อของเธอปลดไปครึ่งหนึ่ง ที่ตัวคลุมด้วยเสื้อคลุมสูทของชายหนุ่ม
เสื้อผ้าใหญ่มาก สวมชุดเขาแล้วเหมือนเด็กที่ขโมยเสื้อผ้าผู้ใหญ่มาสวมไว้ ดูตลกและงี่เง่ามาก
วันวิวาห์เอาผมยาวหยักศกที่ยุ่งเหยิงตรงหน้าอกไปไว้ด้านหลัง:“พักพอดี ในบริษัทไม่มีใคร ฉันจะเข้าไปเปลี่ยนชุด”
ผมหญิงสาวที่มาพร้อมกลิ่นหอมสดชื่นผ่านหน้าของจอมพลไป ใจเต้นแรงขึ้นมา
เขาเกร็งไปทั้งตัว มือที่ไวข้างตัวก็กำแน่นทันที
ได้รับอนุญาตจากจอมพล วีระจึงขับไป แล้วจอดรถด้านข้าง
มุมปากวันวิวาห์ยกขึ้น:“ขอบคุณนะที่รัก”
เธอจู๋ปากสีชมพูนั้นแล้วเอื้อมไปที่หน้าเขา
สีหน้าจอมพลดูแย่อย่างมาก
ผู้หญิงที่สมควรตายคนนี้จู่โจมเขาอีกแล้ว!
เขายื่นนิ้วออกไปหนึ่งนิ้ว จิ้มไปที่หน้าผากวันวิวาห์ ดันหน้าหญิงสาวกลับไป พูดด้วยสีหน้าเย็นชา :“รีบลงไป ตัวเหม็น!”
เหอะ!
วันวิวาห์แอบมองบนใส่
ถ้าเขาไม่ใช่น้าชายของภาชิระ คิดว่าเธอจะยอมจริงๆเหรอ?!
คิดไปมา ใบหน้าเธอก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมา ยิ้มแล้วพูดไปว่า:“อ้อ ใช่สิ ตอนเช้าฉันรับปากกะทิแล้ว จะไปรับเธอตอนเลิกเรียนกับคุณนะ พวกเราผิดคำพูดกับเด็กไม่ได้หรอกใช่ไหมล่ะ?”
จอมพลดูเย็นชา ไม่ตอบโต้
ไม่ได้เห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
วันวิวาห์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ส่งจูบไปให้ แล้วรีบลงจากรถ
วันวิวาห์รีบอาบน้ำ แต่งหน้าปกปิดรอยช้ำต่างๆบนใบหน้า แล้วเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงออกมาจากห้องน้ำ
ตอนที่ผ่านโซนพักผ่อน เห็นเสื้อคลุมของจอมพลที่โซฟา เธอหัวเราะอย่างดูถูกตัวเอง
“วันวิวาห์นะวันวิวาห์ เธอนี่มันหน้าด้านจริงๆ จนตอนนี้แล้ว ยังกล้าเชื่อคนอื่นอีกเหรอ?”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนๆนี้ที่เป็นผู้ชาย!
วันนี้ดีที่เจอจอมพล ไม่งั้น……เธอก็ไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
วันวิวาห์สูดหายใจลึกๆ
ตอนนี้เธอเป็นหนี้บุญคุณเขาแล้วจริง ต่อไปมีโอกาสต้องชดใช้เขา
ริชชี่ผู้เป็นเลขากินข้าวเสร็จกลับมา เห็นวันวิวาห์ทำงานอยู่
เธอรีบเคาะประตูเข้าไป ก้มหน้าขอโทษอย่างขี้ขลาด:“ประธานวันวิวาห์ วันนี้ไม่ได้ออกมาช่วยคุณ ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
ริชชี่เพิ่งเรียนจบไม่นาน ปกติขี้ขลาดอยู่แล้ว บวกกับอยู่ในช่วงฝึกงาน จึงตกใจไม่น้อยกับเรื่องใหญ่โตในวันนี้
วันวิวาห์ก็ไม่โทษเธอ:“อย่าพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วเลย ตอนเย็นฉันมีธุระ ต้องรีบไป มีงานอะไรก็เอามาให้ฉันจัดการตอนนี้เลย”
ริชชี่รีบส่งเอกสารที่ต้องเซ็นในมือออกไป แล้วพูดว่า:“ทางโรงเรียนดร.คนางค์บอกว่าติดต่อคุณไม่ได้ โทรศัพท์มาที่บริษัท เร่งเรื่องการแข่งขันผลิตภัณฑ์ใหม่ค่ะ”
เรื่องวุ่นวายในตอนเช้า วันวิวาห์ไม่ทันได้ดูโทรศัพท์จริงๆ
เธอรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไป
“ศาสตราจารย์คะ ขอโทษจริงๆค่ะ วันนี้มีปัญหานิดหน่อย ไม่ทันได้ดูโทรศัพท์ วางใจได้เลยนะคะ เรื่องการแข่งขันฉันเตรียมพร้อมเสมอ ไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่”
ช่วงนี้เรื่องที่ตระกูลโสธรณาลัยเป็นที่พูดถึงอย่างมากในเมืองนราวัณ แม้แต่คนโบราณอย่างดร.คนางค์นี้ก็ยังได้ยินมาบ้าง
เธอพูดปลอบ:“ฉันรู้ว่าช่วงนี้เธอเจอกับเรื่องบางเรื่อง วิวาห์ ไอ้ชิระผู้ชายคนนั้นที่ไม่คู่ควรกับเธอต่างหาก เธอสมบูรณ์แบบขนาดนี้ ไม่ช้าก็เร็วก็จะได้เจอคนที่ดีกว่านี้”
นี่คือประโยคที่ช่วงนี้วันวิวาห์ได้ยินแล้วอุ่นใจ
เธอตื้นตันใจจนตาและจมูกแดง พูดไม่ออก
สูดหายใจลึกๆแล้วสงบอารมณ์ลง จึงยิ้มและพูดไปอย่างไม่แคร์:“อาจารย์วางใจได้ค่ะ ฉันไม่เสียใจ ไม่มีความรู้สึกมาผูกมัดก็ดี ต่อไปก็จะได้ทำงานอย่างสบายใจ”
วันวิวาห์วางสาย จัดการงานที่ริชชี่หมายเหตุลำดับไว้จนเสร็จอย่างรวดเร็ว
เห็นริชชี่ยังยืนอยู่ที่เดิม เธอเงยหน้า:“มีอะไรอีก?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสพรักร้อน กลางใจตัวพ่อ