วันวิวาห์ดูหน่วยความจำคอมพิวเตอร์ที่ว่างเปล่า ข้อมูลทั้งหมดด้านในเธอลบไปตั้งนานแล้ว
เธอปัดเมาท์ออก:“หนอนต้องอยู่ใกล้ฉันแน่ กล้องพัง งั้นก็เริ่มกับคนรอบตัวไปทีละคน!”
เธอยืนขึ้นมา เตรียมจะเรียกเลขาเข้ามาถาม โทรศัพท์ที่วางตรงโต๊ะทำงานก็ดัง
วันวิวาห์กดรับ
“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะใช่วันวิวาห์ไหม?”
“ค่ะฉันเอง”
“ท่านปรมะฟื้นแล้ว ตอนนี้……”
“ตุบ!”
โทรศัพท์ในมือวันวิวาห์ไหลลงไป ตกไปที่โต๊ะ
เธอตาแดงก่ำ มองไปที่โมโมะแล้วพูดอย่างตื่นเต้น:“โม ปู่ฉันฟื้นแล้ว”
“จริงเหรอ?ดีจัง!”
โมโมะก็ดีใจสุดๆ กระโดดขึ้นมา:“เร็วๆๆ ฉันไปส่งเธอที่โรงพยาบาล”
ทั้งสองรีบวิ่งออกไปข้างนอก……
โรงพยาบาล
วันวิวาห์ลงจากรถ:“โม เธอไม่ต้องขึ้นไปหรอก พวกพ่อแม่ฉันก็น่าจะอยู่ เจอแล้วจะปวดใจ”
โมโมะจับพวงมาลัยแล้วพยักหน้า:“ก็ดี นิสัยฉันไม่ค่อยดี ถึงตอนนั้นกลัวทนไม่ไหวต้องลงมือ ทำให้เธอลำบากใจอีก ฉันรอเธอที่นี่เอง มีอะไรก็เรียกฉัน”
“โอเค”
แววตาวันวิวาห์มีความตื้นตันใจ รีบขึ้นไป
ตอนเธอถึง หมอก็เพิ่งตรวจให้คุณท่านเสร็จ
วันวิวาห์ดันชูเกียรติและคนอื่นๆออกอย่างเหนื่อยหอบ ไปตรงหน้าเตียงคนไข้:“คุณปู่……”
คุณท่านเพิ่งฟื้นมา ก็ลืมตาขุ่นมัวออกมา เดิมทีไม่มีการตอบโต้ใดๆกับทุกอย่างที่อยู่รอบๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงของวันวิวาห์
ดวงตาที่ขุ่นมัวของเขาขยับไปมา และค่อยๆหันไปทางวันวิวาห์
วันวิวาห์ตาแดงก่ำทันที กุมมือผอมๆที่มีแต่กระดูกของชายแก่ พูดอย่างสะอึกสะอื้น:“คุณปู่ ปู่ทำฉันตกใจหมด คุณปู่ฟื้นเสียที”
ชายแก่ตื่นเต้นมาก อ้าปากเล็กน้อยอยากพูดอะไร แต่ก็ไม่มีเสียงพูดออกมาอยู่นาน
ทำได้ดีที่สุดคือขยับนิ้ว กุมมือของหลานสาวไว้
น้ำตาของวันวิวาห์เกือบจะไหลออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ รีบสูดหายใจปลอบไปว่า:“คุณปู่ไม่ต้องตื่นเต้นนะ ปู่ต้องพักฟื้นด้วยจิตใจที่สงบ ฉันรู้ว่าปู่อยากจะพูดอะไร ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างจะโอเคค่ะ ครอบครัวสบายดี บริษัทก็ดี ปู่ดีขึ้นไวๆก็จะได้เห็น”
จนได้รับคำตอบที่ตัวเองอยากได้ยิน ชายแก่ก็สงบลง และแสดงอาการเหนื่อยล้าออกมา
วันวิวาห์เบาเสียงลง กล่อมชายแก่เบาๆให้หลับอีกครั้ง
นอกห้องคนไข้ ครอบครัววันวิวาห์ทั้งสี่คนอยู่หมด
หมอพูดกับคนในครอบครัว:“อาการป่วยของชายแก่รักษายากมาก ฟื้นมาได้ต้องขอบคุณยาตัวใหม่ที่ทำให้กลับมาครั้งนี้ อยากฟื้นตัวให้เต็มที่ ก็ต้องใช้ยาต่อไปครับ”
วันวิวาห์พูดอย่างไม่ลังเล:“งั้นก็ใช้ต่อไปค่ะ”
หมอมองสมาชิกในครอบครัวที่อยู่ตรงหน้า:“ยานี้แพงมาก หนึ่งล้านต่อครอสการรักษา”
“แพงแค่ไหนก็ใช้ค่ะ!”
วันวิวาห์มองเขาอย่างเด็ดเดี่ยว:“ไม่มีอะไรสำคัญกว่าชีวิตของปู่ฉัน”
“งั้นพวกคุณรีบไปชำระเงิน แนะนำว่าชำระไปก่อนสองครอสการรักษา”
หมอออกไป เสียงส่งเดชของชูเกียรติก็ดังขึ้น:“ถ้าจะจ่ายแกก็จ่ายไป พวกเราไม่มีเงินแล้ว”
วันวิวาห์เม้มริมฝีปากสีชมพูแน่น ทนไม่ได้อีกต่อไป:“บัตรของหนูถูกอายัดไปหมดแล้ว”
ตอนนี้ในตัวเธอมีแค่หนึ่งแสนนั้นที่ยืมจากโม แต่ยังไม่พอ
“แก!”
เส้นเลือดที่คอของชูเกียรติปูดขึ้นมา
แววตาของเทียนแขเป็นประกาย จากนั้นตะโกนอย่างโกรธเคือง:“เธอจะทำพวกเราก็ทำกับเธอ!แกมันเนรคุณและเห็นแก่ตัว ตั้งแต่เด็กจนโต พวกเราไม่ได้ให้อะไรแกบ้าง?พี่สาวแกหายไป ความรักที่พวกเรามีให้เธอก็ไปอยู่ที่แกหมด ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว แกควรเอาไปคืนให้เธอบ้างไม่ใช่เหรอ?”
วันวิวาห์พูดอย่างสะอึกสะอื้น:“นั่นมันไม่เยอะเหรอ?หุ้นนั้นของฉัน แม้แต่เงินต้นและดอกเบี้ยก็ให้เธอแล้ว!รอให้คุณปู่อาการดีก่อน ฉันจะเอาทั้งหมดคืนคุณปู่ ถ้าเขาไม่ถือสาอะไร จะเอาให้พวกแม่ฉันก็ไม่ว่า แต่ตอนนี้ ตัวเขายังนอนซมอยู่ พวกแม่ทำไมไม่รู้จักรอเลย ……”
ชูเกียรติหมดความอดทน:“สิ่งของของปู่แกไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเป็นของฉัน!”
เทียนแขพูดอยู่ข้างๆ:“ช่วงต้นของชีวิตพวกเราเอาความรักและสิ่งของส่วนของพี่สาวแกให้แกหมด แกมีความสุขกับมันมาหลายปี ก็สมควรพอได้แล้ว พี่สาวแกไม่ได้กลับมาง่ายๆเลย แม้ว่าแกจะรู้สึกผิดเพียงเล็กน้อย ของพวกนี้แกก็ควรมอบให้เธอ!”
วันวิวาห์ไม่อยากจะเชื่อ:“ฉันรู้สึกผิด? ฉันรู้สึกผิดอะไร?ฉันทำเธอหายไปเหรอ?ฉันเป็นลูกสาวของพ่อกับแม่เหมือนกัน ครอบครัวของพ่อกับแม่ ฉันไม่ควรมีเหรอ?”
บรรยากาศตรงทางเดินก็ตึงเครียด
เทียนแขปิดหน้าแล้วเริ่มร้องไห้:“ฉันไปทำกรรมอะไรมา ลูกสาวหายไปอยู่ข้างนอก ลำบากมาหลายปี ลูกสาวคนเล็กกลับเห็นแก่ตัว ทำตัวเนรคุณ……”
“แม่ แม่อย่าร้องไห้นะแม่”
วาเลนไทน์ปลอบเทียนแขด้วยตาที่แดงก่ำ:“อย่าโทษวิวาห์เลย เธอยังเด็กอยู่ พวกเราเป็นลูกของแม่หมด สิ่งของในบ้านเหล่านี้ ไม่ควรเป็นของฉันเพียงคนเดียว อีกอย่าง ฉันอยู่ข้างนอกมาหลายปี ไม่มีเงินเรียนมหาวิทยาลัย เลยไม่รู้เรื่องเท่าวิวาห์ หากบริษัทมาอยู่ในมือฉัน ไม่แน่วิวาห์อาจจะบริหารได้ดีกว่าอีก ฉันไม่ดีเองค่ะแม่ ฉันไม่ควรกลับมาวิวาห์ชินกับการได้รับความรักจากทุกคนเพียงคนเดียว ตอนนี้มีฉันมาอีกคน ไม่ชินเป็นเรื่องปกติ ……”
เทียนแขร้องไห้เสียงดังขึ้นอีก ตรงทางเดินเต็มไปด้วยเสียงร้องของเธอ
ห้องคนไข้ VIP อื่นๆที่อยู่ใกล้ๆก็มีคนยื่นหน้ามาเรื่อยๆ มีพยาบาลสองคนยืนอยู่ไกลๆ หลายครั้งอยากจะพูดอะไรก็หยุดไว้
วันวิวาห์ฟังความเข้ากันได้ดีของพวกเขา ก็รู้สึกว่าหัวใจชาไปหมด ไม่รู้สึกใดๆอีก
เธอหันหน้าไป มองไปยังหอคนไข้ของคุณท่านด้วยดวงตาเศร้าสร้อย
ชายชราที่น่าสงสาร พยายามมาทั้งชีวิต แต่เลี้ยงคนกลุ่มนี้ออกมาเป็นแบบนี้
พอเขาฟื้นมา ไม่รู้ว่าจะหมดหวังเสียใจแค่ไหน
วันวิวาห์เหนื่อยไปทั้งหัวใจ ขี้เกียจเถียงกับพวกเขา:“โอเค ฉันจะเซ็น!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสพรักร้อน กลางใจตัวพ่อ