เสพรักร้อน กลางใจตัวพ่อ นิยาย บท 30

ผู้จัดการนึกถึงสายโทรศัพท์เมื่อกี้ก็เหงื่อตกรีบวิ่งมาขอโทษ

จอมพลหันไปหาตำรวจ "ตำรวจสามารถบุกเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวได้ตามใจด้วยเหรอครับ? พวกคุณกำลังจับอาชญากรหรือผู้ต้องสงสัยอยู่กันแน่?"

ตำรวจกำลังจะอธิบาย

ผู้จัดการร้านรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อขวางไว้ "ทั้งสองท่านครับ ที่บอกว่ามอบตัว มันคือการที่นักโทษหรือผู้ต้องสงสัยไปสารภาพที่สถานีตำรวจด้วยตัวเอง ร้านอาหารของเราเป็นสถานที่ที่ถูกกฎหมาย ไม่มีทางมีผู้ต้องหาหรือผู้สงสัยอะไรพวกนี้ ถ้าหากพวกคุณไม่มีหมายจับ ไม่ได้มาทานข้าว ต่อให้เป็นตำรวจก็ไม่มีสิทธิ์มาปฏิบัติงานในร้านอาหารของเรา กรุณาออกไปก่อนเถอะครับ ถ้าออกไปนอกร้านอาหารของเราแล้ว ไม่ว่าพวกคุณจะทำอะไรเราจะไม่ยุ่ง"

สีหน้าตำรวจไม่ดีนัก

ผู้จัดการรีบพูดว่า "ร้านอาหารของเราเป็นทรัพย์สมบัติของเกตุดิสรณ์กรุ๊ป พวกคุณน่าจะเคยได้ยินชื่อคุณชายกวินทร์ของเราอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก หากไปยุแหย่ให้เขารำคาญขึ้นมา หากเป็นเรื่องขึ้น ทุกคนจะแย่เอานะครับ"

ตระกูลเกตุดิสรณ์มีหน้ามีตาในเมืองนราวัณ

แม้แต่รัฐบาลเมือง เลขานายกก็ยังไว้หน้าเลย

ตำรวจทั้งสองลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันไปมองวันวิวาห์ "ขอโทษที่รบกวนอาหารค่ำของทุกท่าน คุณวันวิวาห์ พวกเราจะรอคุณอยู่นอกร้านอาหารนะครับ"

หลังจากพูดจบทั้งสองก็เดินออกไปอย่างช่วยไม่ได้

ดวงตาของวันวิวาห์เป็นประกาย เธอเอ่ยปากอวยจอมพลว่า "ที่รัก เมื่อกี้นายสุดยอดมาก เป็นบุญของฉันที่ได้สั่งสมมาแปดชาติจริงๆที่ได้มาเจอนาย"

หนูกะทิยู่ปากสีชมพูเล็กๆ

แปดชาติก็ไม่พอ!

จอมพลเยาะเย้ย "ตอนนี้ต้องการทนายแล้วสิ?"

"ต้องการ ต้องการ ต้องการมากๆ เธอมองการณ์ไกลจริงๆ ไม่ต้องห่วง ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ให้เสียหน้าเธอแน่นอน"

วันวิวาห์รีบกินข้าวในถ้วยอย่างรวดเร็ว เธอวางถ้วยและตะเกียบลง กล่าวลากับสองพ่อลูกอย่างมั่นใจ "รอฉันมีชัยกลับมาทำของอร่อยให้กินได้เลย"

จอมพลเก็บสายตาลิ้มรสไวน์โดยไม่สนใจเธออีก

หลังจากที่วันวิวาห์จากไป บนโต๊ะอาหารเหลือเพียงสองพ่อลูก

หนูกะทิที่เหมือนผู้ใหญ่ในร่างเด็กส่ายหน้า "ตาพล ยินดีด้วย ก่อนหน้านี้คิดว่าพ่อแต่งงานกับตัววุ่นวายจะสร้างความยุ่งยากมาให้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าถึงตัววุ่นวายจะสร้างความยุ่งยาก แต่ก็สนุกดี อย่างน้อยก็นำมาความสนุกสนานมาให้เราสองพ่อลูกที่น่าเบื่อไม่น้อย!"

จอมพลขมวดคิ้ว "ลูกเรียนรู้ความคิดที่ไร้หัวใจได้อย่างรวดเร็วดีนี่"

หนูกะทิเม้มริมฝีปากสีชมพูยิ้มอย่างขี้งอน ไม่สนใจพ่อตัวเอง

จอมพลขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกดโทรหาหมายเลขบนหน้าจอ

...

สถานีตำรวจ

"วันวิวาห์ ทำไมคุณถึงเอาสูตรที่ไม่สมบูรณ์มาทำร้ายวาเลนไทน์ด้วย?"

"ผลิตภัณฑ์ที่คุณพัฒนาขึ้นทำให้ผู้คนเสียโฉมถือเป็นอาชญากรรม ถ้าคุณรับสารภาพโทษจะผ่อนจากหนักเป็นเบา ที่คุณทำแบบนี้มีจุดประสงค์อะไร?"

คำถามให้ร้ายด้วยการล่อลวงโผล่มาไม่หยุด

วันวิวาห์ยิ้มอย่างเย็นชา เงียบไม่พูดอะไร

จนกระทั่งตำรวจที่ตั้งคำถามถามจนปากแห้ง ความอดทนก็หมดลง เธอจึงถามกลับอย่างใจเย็นว่า "ก่อนที่ฉันจะตอบคำถาม โปรดบอกฉันทีว่าตอนนี้ฉันต้องตอบในฐานะอะไร? ผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหา?"

เธอพูดต่อโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ "ถ้าเป็นผู้ต้องหา ฉันทำอะไรผิดกฎหมาย? พวกคุณใช้หลักฐานอะไรมาจับกุมฉัน? หากเป็นผู้ต้องสงสัย ฉันมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด พวกคุณมาถึงก็มาตัดสินคดีฉันทันที อิงหลักกฎหมายบทไหน?! การที่ตำรวจจับคนร้ายผิดไม่ต้องรับผิดชอบเหรอ?"

ทำถามทำเอาตำรวจหน้าเสีย "วันวิวาห์ อย่าคิดว่าเพราะตระกูลโสธรณาลัยรวย แล้วจะดูถูกพวกเราได้"

"ผู้ที่เคารพผู้อื่นย่อมได้รับความเคารพกลับเสมอ"

วันวิวาห์เหลือบมองทั้งสองคน แล้วลุกขึ้นเดินจากไป

ทันทีที่เธอเดินไปที่ประตูสถานีตำรวจ พอร์เชอคันหนึ่งก็กดแตร เบรกลงตรงหน้าเธอ

ภาชิระรีบผลักประตูลงจากรถ "วิวาห์ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?"

เขายื่นมือจะไปดึงเธอ

วันวิวาห์เอามือหลบ แล้วถอยหลังไปสองก้าว "คุณชายภาชิระไม่ทันดูเรื่องตลกช้าไปหนึ่งก้าว การสอบสวนเสร็จลงแล้ว"

ใบหน้าที่เป็นห่วงของภาชิระแข็งทื่อ สีหน้าเศร้าเล็กน้อย "เธอยังโทษฉันอยู่?"

เขาถอนหายใจ "วิวาห์ ฉันแค่เป็นห่วงเธอ อยากดูแลเธอ หลังจากที่รู้ว่าเธอถูกพาตัวมาที่นี่ ฉันกลัวว่าเธอจะกลัว ฉันไม่ทันได้กินข้าวก็รีบมาเลย..."

"ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องขอบคุณนายจริงๆ"

วันวิวาห์เยาะเย้ย "ขอบคุณที่นายทำให้ฉันขยะแขยงสุดๆ!"

หน้าของภาชิระซีดอย่างรู้สึกผิด พยายามอดกลั้นไว้

"นายรู้ไหมว่าฉันมาที่นี่กี่ครั้งแล้ว?" วันวิวาห์ถาม

เธอหัวเราะกับตัวเองโดยไม่รอให้เขาตอบ "ครั้งที่สาม! สองครั้งก่อนหน้าล้วนยังไม่บรรลุนิติภาวะ ครั้งแรกตอนอายุ 10 ขวบ ฉันหวังดีช่วยเหลือคุณยายชราคนหนึ่งที่ขายผักข้างทางบอกเธอว่าเงินที่ได้รับเป็นของปลอม ทำให้คนที่ให้เงินโกรธยังไม่เท่าไร แต่ยายกลับโทษว่าฉันส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเธอ เธอโวยวายร้องไห้จนกลายเป็นเรื่องใหญ่จนเรียกตำรวจมา"

"วิวาห์..."

วันวิวาห์ทำเป็นไม่ได้ยิน "ครั้งแรกที่ฉันเดินออกจากสถานีตำรวจ ฉันสาบานว่าชาตินี้จะไม่เป็นคนดีง่ายๆอีกต่อไป!"

เธอจ้องเขาอย่างเย็นชา "ครั้งที่สองตอนอายุ 15 ที่โรงเรียนรุ่นพี่ชั่วคนหนึ่งจีบฉันไม่ติดจึงพาลโกรธ ทำให้ฉันขายหน้าด้วยการบอกว่าฉันสวยแต่โง่ ต่อมาถูกฉันอัดอย่างอนาถ หลังจากออกจากโรงพักครั้งนั้นฉันก็ตัดสินใจว่าใช้ความสามารถในการพูด! ฉันวันวิวาห์จะไม่แค่สวยอย่างเดียว แต่จะทำทุกอย่างให้ไม่ด้อยไปกว่าผู้ชายคนไหน! สำหรับครั้งนี้..."

วันวิวาห์หยุด มองภาชิระที่หน้าซีดแล้วเยาะเย้ยว่า "ครั้งนี้พวกนายทำให้ฉันเข้าใจ ในสังคมนี้ ความรักมันเป็นเรื่องเหลวไหล! ครอบครัว มิตรภาพ รักครั้งแรกล้วนพ่วงมาด้วยผลประโยชน์ทั้งนั้น!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสพรักร้อน กลางใจตัวพ่อ