เสพรักร้อน กลางใจตัวพ่อ นิยาย บท 73

วีระลังเลอยู่พักหนึ่ง : “เห็นสถานกักกันทางนั้นส่งข่าวมา ว่าวาเลนไทน์ยื่นหลักฐานผลวินิจฉัยโรคว่าตัวเองเป็นโรคประสาท.....พวกเขาคงจะวางแผนที่จะเจาะเข้าทางช่องว่างของกฎหมายน่ะครับ”

วันวิวาห์หัวเราะเยาะออกมา : “พวกเขาคงเหลือเพียงแค่วิธีนี้แล้วล่ะ ตอนแรกก็เอาหลักฐานปลอมมาบอกว่าฉันเป็นโรคประสาท ต้องการจำกำจัดฉันไป ตอนนี้ก็เอาหลักฐานโรคประสาทปลอมออกมาอีกหนึ่งฉบับ อยากจะช่วยวาเลนไทน์หลีกเลี่ยงจากการตกนรกทั้งเป็น......”

แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่ลูกแท้ๆของตัวเอง ก็จะไม่ได้รักและรู้สึกเจ็บปวดจริงๆสินะ

..........

กลับถึงบ้านฟ้าก็มืดแล้ว

หนูกะทิกำลังนั่งวาดรูปอยู่บนพรมขนปุยหนาอยู่ที่พื้น

เด็กน้อยเป็นพวกวาดศิลปะแบบไร้รูปลักษณ์ วาดได้อย่างไม่แน่วแน่ ใบหน้าเล็กๆที่จริงจังกำลังขุดอารมณ์ออกมา

วันวิวาห์ดูแล้วล่องลอย นึกถึงเด็กที่ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีคนนั้น

ถ้าหากมีชีวิตอยู่ โตขึ้นมาแล้ว จะเหมือนกับตัวเองที่พยายามตามหาแม่แท้ๆเหมือนกันหรือเปล่า?!

ถ้าหากมีคนมาดูถูกแม่แท้ๆของเธอ เธอจะโมโหและรู้สึกแย่เหมือนกับตัวเองไหม?!

ถ้าหากเธอเจอกับพ่อแม่บุญธรรมอย่างชูเกียรติและเทียนแขแบบนี้ เงื่อนไขในบ้านไม่ดีพอแล้ว พ่อแม่บุญธรรมก็เกิดความรู้สึกเกลียดชังในใจขึ้นมา ถ้าอย่างนั้นเธอ......

วันวิวาห์สั่นแล้วดึงสติกลับมา

ไม่หรอกไม่หรอก!

เด็กคนนั้น.....จะต้องไม่โชคร้ายเหมือนกับเธอแบบนี้อย่างแน่นอน!

เธอรีบหนีกลับเข้าไปในห้อง พยายามดิ้นรนอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดก็โทรออกหาอาจารย์สะกดจิตมาร์ตินอีกครั้ง

“คุณหมอมาร์ติน ฉันเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วนะคะ ครั้งนี้ ไม่ว่าระหว่างนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ที่ผ่านมาจะโหดร้ายแค่ไหน ฉันกลัวมากแค่ไหน ฉันจะยืนหยัดต่อไป ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้น ฉันยอมรับผลที่ตามมาทั้งหมดค่ะ!”

ตอนนี้เธอไม่มีญาติพี่น้องซักคนแล้ว

เธอจะไปหาลูกของตัวเอง ให้มั่นใจว่าลูกมีชีวิตอยู่ดีหรือเปล่า หลีกเลี่ยงว่าในอนาคตจะประสบกับความล้มเหลวแบบเธออีก

เธอเองก็อยากจะหาแม่แท้ๆให้เจอเช่นกัน.....ในฐานะที่เป็นแม่ เธอรู้สึกเป็นห่วงลูกของตัวเองขนาดนี้ แล้วแม่แท้ๆของเธอในช่วงหลายปีมานี้จะคิดถึงและเป็นห่วงเธออยู่เหมือนกันหรือเปล่า?

..........

ห้องวาดรูปโมโมะ

วันวิวาห์หยิบรูปถ่ายออกมาใบหนึ่ง : “โม ช่วยฉันสืบหาคนนึง ดูว่าในช่วงสิบยี่สิบปีมานี้ ในวงการบันเทิง และวงการแฟชั่นมีนักแสดงหรือศิลปินที่หน้าตาคล้ายกับคนๆนี้บ้างหรือเปล่า”

โมโมะรับมาดู : “นี่ไม่ใช่เธอเหรอ ยัยบ้า ล้อฉันเล่นใช่ไหม?”

วันวิวาห์ส่ายหน้า : “ไม่ใช่ฉัน”

รูปนี้เป็นรูปที่เธอเลียนแบบจากรูปใบนั้นที่เทียนแขให้เธอดู ใช้ใบหน้าตัวเองถ่ายในมุมเดียวกันและท่าทางที่เหมือนกัน

คนที่อยู่ในรูปนั้น เหมือนกับที่เห็นจากเทียนแขมาก

“เทียนแขบอกว่า เธอคือแม่แท้ๆของฉัน”

โมโมะเบิกตาขึ้นด้วยความตกตะลึง : “เฮ้ย ไม่ใช่มั้ง?”

วันวิวาห์เม้มปากไม่ได้พูดออกมา

โมโมะเก็บรูปเอาไว้ แล้วตีลงที่หน้าอกตัวเองเป็นการรับประกัน : “วางใจเถอะ ฉันจะต้องช่วยเธอสืบมาให้ได้”

“โม ขอบคุณนะ เรื่องฐานะของฉัน คนที่รู้มีไม่เยอะนัก เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะต้องดำเนินการอย่างลับๆ”

เลี่ยงการเกิดปัญหาใหม่ขึ้นมา

โมโมะทำท่าโอเค : “วางใจได้ ฉันเข้าใจน่า”

.........

ตอนกลางคืน

จอมพลเลิกงานกลับมาบ้าน เพิ่งจะเข้าประตูมานั้น ตรงหน้าดูลายตา แล้ววันวิวาห์ก็พุ่งเข้ามาปิดตาของเขาเอาไว้

“มีเซอร์ไพรส์ให้คุณค่ะ”

มุมปากจอมพลยกขึ้น : “เซอร์ไพรส์ของคุณผมสามารถเชื่อได้ไหม?”

วันวิวาห์ยิ้มโดยไม่ได้เอ่ยพูดออกมา จูงมือของเขาเอาไว้ แล้วดึงผ้าปิดจมูกบนหน้าตัวเองลงมา

จอมพลเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

จอมพลแทบจะไม่ได้สนใจที่จะโมโหแล้ว คิ้วขมวดเข้าหากัน แล้วรีบอุ้มเธอขึ้นมาส่งกลับเข้าไปในห้อง

วันวิวาห์จับเสื้อของจอมพลเอาไว้แน่นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำตานองหน้า : “ฉัน....ฉันนึกขึ้นมาได้นิดนึงแล้ว.....”

จอมพลรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย : “นึกอะไรครับ?”

เรื่องที่เกิดขึ้นในปีนั้นที่เธอสูญเสียความทรงจำไป ทางกวินทร์ก็ไม่ได้ผลลัพธ์มาโดยตลอด

น้ำตายังคงไหลออกมาไม่หยุดจากดวงตาที่มีความหวาดกลัวของวันวิวาห์ : “ใช้กำลัง....ปี....ปีนั้น ฉันถูกคนใช้กำลังบีบบังคับ......”

เธอกำลังสั่นเทา : “ผู้ชายคนนั้น....เหมือนกับสัตว์ที่ดุร้าย น่ากลัวมาก....เขา....เขาคงจะกินยาเข้าไป ไม่เหมือนกับคนปกติ....ไม่มีความรู้สึก ไม่มี......”

เธอพูดต่อไปไม่ได้แล้ว

ดวงตาที่เย็นชาของจอมพลมีพายุหมุนวนอยู่ เขาโอบเธอเข้ามาในอ้อมกอดด้วยความสงสารจับใจ กอดเธอเอาไว้แน่น : “ผ่านไปแล้ว ผมอยู่นี่ ไม่เป็นไรนะ!”

วันวิวาห์ก็ยังคงกำลังสั่นอยู่ น้ำตาเปียกชื้นบนเสื้อตรงหน้าอกของจอมพล : “.......หลังจากเหตุการณ์นั้น มีคนบอกฉันว่า จะต้อง....จะต้องตั้งครรภ์ลูก....เพียง....เพียงแค่ฉันคลอดลูกออกมา....เขาก็จะปล่อยฉัน......”

ดวงตาของจอมพลหดลงในทันที หลังจากที่ปลอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนแล้ว ก็นำอย่างระมัดระวัง : “ยังมีอะไรอีก?”

“ฉัน.....ฉันจำไม่ได้แล้ว.....”

“ยังจำว่าผู้ชายคนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไรได้บ้างไหม?”

วันวิวาห์ส่ายหน้า : “ฉันจำไม่ได้ค่ะ.....จำหน้าตาของเขาไม่ได้.....และก็ไม่รู้สถานะของเขาด้วย....”

เธอจับผมตัวเองอย่างเจ็บปวดทรมาน : “ฉันเองก็นึกไม่ออกด้วยว่าสรุปแล้วเคยคลอดลูกออกมาหรือเปล่า......ฉันนึกไม่ออก.....”

จอมพลเอาผมที่อยู่ในมือของเธอนั้นออกมา บรรจงจูบลงบนหน้าผากเป็นการปลอบประโลม : “นึกไม่ออกก็ไม่ต้องนึก เรื่องเหล่านั้นผ่านไปแล้ว ไม่สำคัญ ถ้าหากรู้สึกเจ็บปวดทรมาน ผมจะพาคุณไปสะกดจิต ลืมเรื่องพวกนั้นไปให้หมด”

มาร์ตินเคยบอกเขา ว่าการสะกดจิตสามารถฟื้นฟูความทรงจำได้บ้าง และก็สามารถทำให้คนลืมสิ่งที่ไม่อยากจำได้อีกด้วย

“ไม่....ไม่ได้ผ่านไปค่ะ”

วันวิวาห์ถอยออกมาจากอ้อมกอดของเขา ดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าเล็กๆถูกน้ำตาเปียกชุ่มไปหมดทั้งหน้า น่าสงสารเหลือเกิน

“ไม่ได้ผ่านไปค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่นานที่ฉันตรวจสุขภาพ คุณหมอบอกว่ามดลูกของฉันยังมีแผลเก่า นั่นคือเกิดจากที่เคยคลอดลูกเอาไว้.....จอมพล ฉันอาจจะเคยคลอดลูกมาคนนึงแล้วจริงๆ......”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสพรักร้อน กลางใจตัวพ่อ