เมื่อหยุนชางได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็เย็นชายิ่งขึ้น แววตาของนางก็จับจ้องไปที่ซูหรูอิงซึ่งขดตัวอยู่ที่มุมเตียง ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในห้อง นางเห็นว่าซูหรูอิงเพียงแค่เชื่อฟังฮองเฮาและซูฉีมากจนเกินไป ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ฉะนั้นจึงคิดหาทุกวิถีทางเพื่อเข้าใกล้ท่านอ๋อง ตนยังคิดอยากจะสอนซูหรูอิงเล็กน้อย เพื่อให้นางยอมแพ้ไปเอง และไปตามหาใครคนนั้นที่เป็นคนที่ใช่ของตน
แต่ทันทีที่ซูหรูอิงออกจากห้องไป นางก็คงลืมสิ่งที่หยุนชางกล่าวไปจนหมดสิ้นกระมั้ง
"คุณหญิงซูกล่าวว่าเมื่อสักครู่นี้รุ่ยอ๋องอยู่ในห้องเจ้าหรือ? คุณหญิงซูตาฝาดจนเกิดภาพลวงตารึเปล่า? สาวใช้ของข้าถูกข้าสั่งให้ไปส่งของให้ท่านรุ่ยอ๋องทันทีที่คุณหญิงซูออกจาห้องข้าไป เฉี่ยนหลิ่ว เจ้ามาบอกกับคุณหญิงซูหน่อยว่าเมื่อสักครู่ท่านอ๋องกำลังทำกระไรอยู่?" หยุนชางยิ้มอย่างเย็นชา และจ้องมองไปที่ซูหรูอิงด้วยความสงสารเล็กน้อย
แววตาของเฉี่ยนหลิ่วสับสนเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าทุกคนมองมาที่นาง นางจึงร้อนรนเล็กน้อย และรีบก้มหน้าลงพร้อมกบ่าวว่า "เรียนพระชายาเพคะ เมื่อสักครู่หม่อมฉันพบท่านอ๋อง ท่านอ๋องเพิ่งจะพูดคุยกับคุณชายหลิ่วเสร็จเรียบร้อย และกำลังเดินมาทางห้องพักเพคะ ระหว่างทางท่านก็พบฮวากั๋วกง ฮวากั๋วกงบิดว่าการละเล่นของจวนองค์หญิงใหญ่นั้นน่าเบื่อยิ่งนัก จึงได้พาท่านอ๋องไปเล่นหมากรุกตรงศาลาที่เราเล่นพนันดื่มเหล้าเมื่อสักครู่นี้เพคะ บ่าวใช้หลายคนของจวนองค์หญิงใหญ่ก็คงพบเห็นเช่นกันกระมั้งเพคะ"
เมื่อหยุนชางได้ยินเช่นนี้ จึงหันไปมองซูหรูอิงที่สีหน้าเหลือเชื่อ แววตามีแสงประกายจากน้ำตา นางยิ้มและกล่าวว่า "คุณหญิงซูเป็นหญิงที่ยังมิได้แต่งงาน และวันนี้ได้ทำเรื่องที่ผิดปกติดังกล่าวไปอาจจะเกี่ยวข้องกับยาเสน่ห์นี้ก็เป็นได้ ข้าเห็นใจกับสิ่งที่คุณหญิงซูเจออย่างมาก ตอนนี้ท่านผู้ใหญ่และเหล่าฮูหยินอยู่ตรงนี้พอดี คุณหญิงซูสามารถเรียกร้องความยุติธรรมได้ เพียงแต่ว่าเรื่องบางเรื่องจะกล่าวโดยไม่มีหลักฐานมิได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ท่านอ๋องเป็นถึงราชนิกุล คุณหญิงซูใส่ร้ายท่านอ๋องเช่นนี้ คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก"
ซูหรูอิงกัดฟันเอาไว้ ตัวของนางสั่นไม่หยุด หยุนชางถอนหายใจ " พวกเราอยู่ที่นี่ คงยากที่คุณหญิงซูจะสงบสติตัวเองได้ ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็เป็นคนนอก คุณหญิงซูเป็นเพียงสาวน้อย นางเจอเรื่องเช่นนี้....... พวกเราออกไปข้างนอกก่อนเสียดีกว่า สาวใช้ของคุณหญิงซูอยู่ที่ใด? เหตุใดจึงไม่ปรากฏตัว? รีบสวมเสื้อผ้าให้คุณหญิงซูประเดี๋ยวนี้"
มีคนที่แต่งกายเป็นสาวใช้วิ่งออกมาจากด้านหลังฝูงชน นางห่อไหล่เอาไว้และเดินไปข้างเตียงที่ซูหรูอิงหลบอยู่ นางกัดปากมิได้กล่าวกระไร
หยุนชางมองดูนางทั้งสองอย่างเฉยเมย จากนั้นนางก็หันหลังและเดินออกจากห้องพักไปก่อน และเดินไปที่ศาลาพร้อมกับเฉี่ยนหลิ่วและเฉี่ยนจั๋ว
"พระชายาเพคะ... ซูหรูอิง.........." เฉี่ยนจั๋วหัวเราะออกมาเบาๆและเอ่ยปาก
"อะแฮ่ม…" เฉี่ยนหลิ่วรีบดึงมือของเฉี่ยนจั๋วเอาไว้ ใช้เสียงไอหยุดนางเอาไว้
หยุนชางแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เมื่อเดินไปถึงศาลาแล้ว ลั่วชิงเหยียนกำลังเล่นหมากรุกกับฮวากั๋วกงจริงๆ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังปะทะกัน ฮวากั๋วกงเกาหัวและครุ่นคิดอย่างหนัก ส่วนลั่วชิงเหยียนนั้นสงบอย่างมาก เขากวาดสายตามาที่หยุนชาง อีกทั้งยังยิ้มและโบกมือให้หยุนชาง
หยุนชางเดินไปยืนข้างๆลั่วชิงเหยียน แววตาของนางจ้องไปที่กระดานหมากรุก จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ไม่แปลกที่ฮวากั๋วกงเป็นเช่นนี้ ดูตัวหมากรุกบนกระดานนี้สิ หมากสีดำแทบจะไม่มีทางให้ลงต่อแล้ว
"จัดการแล้วหรือ?" ลั่วชิงเหยียนมิได้มองฮวากั๋วกง เขาหันหลังไปจับมือหยุนชางเอาไว้และถามอย่างอ่อนโยน
หยุนชางยิ้มและพยักหน้า แต่มิได้กล่าวกระไรมาก นางก้าวไปข้างหน้า จากนั้นก็หยิบหมากสีดำขึ้นมาและวางหมากลง "ท่านปู่ดูนี่สิ หากลงเช่นนี้ ทั้งหมดของด้านหลังนี้ก็จะสามารถเล่นต่อได้แล้วเพคะ"
ฮวากั๋วกงรีบยื่นมือออกและตบมือหยุนชางเบาๆ พูดขึ้นมาว่า "ไปให้พ้น ไปให้พ้น ทักษะหมากรุกของข้าต้องให้เจ้ามาสอนด้วยหรือ?" เพียงแค่เมื่อเขาจ้องไปที่กระดานหมากรุก จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ลั่วชิงเหยียน " ตาเจ้าแล้ว ข้าวางหมากเรียบร้อยแล้ว"
เมื่อหยุนชางได้ยินเช่นนี้ นางเกือบจะหัวเราะออกมา แต่ก็พยายามอดทนเอาไว้ แต่กลับไปยืนอยู่หลังลั่วชิงเหยียนแล้วดูทั้งสองเล่นหมากรุก ไม่นานฮวากั๋วกงก็แพไป สีหน้าของเขาไม่ดีเท่าไหร่นัก เขากล่าวด้วยความไม่สบอารมณ์ว่า "ไม่รู้จัดยอมคนแก่เลยหรือไง ช่างไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสจริงๆเลย ช่างมันเถอะ เจ้ามิต้องเล่นหมากรุกกับข้าแล้ว กลับไปเล่นไอ้พนันดื่มเหล้าไรนั่นต่อเถิด เล่นหมากรุกกับเจ้าไม่สนุกเลย"
หยุนชางยิ้มและกล่าวว่า "เกิดเรื่องบางอย่างขึ้นเพคะ หม่อมฉันเกรงว่างานเลี้ยงนี้คงจัดต่อไปมิได้แล้วเพคะ"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฮวากั๋วกงก็เงยหน้าขึ้นมองหยุนชาง สีหน้าของเขาจริงจังและไม่หยอกล้อเหมือนตอนแรก "เจ้าไปทำกระไรไม่ดีมาอีกแล้วหรือ?"
"ท่านปู่เข้าใจหม่อมฉันผิดไปเพคะ หม่อมฉันมิได้ทำกระไรเลยเพคะ" หยุนชางยิ้มพร้อมกล่าว
ขณะที่นางกำลังพูดอยู่ ก็เห็นมีบ่าวใช้มาแจ้งว่า "ขอคารวะท่านรุ่ยอ๋อง พระชายารุ่ยอ๋อง ฮวากั๋งกงขอรับ ต้องขออภัยจริงๆขอรับฝ่าบาททรงมีเรื่องเร่งด่วนเรียกองค์หญิงใหญ่เข้าพบขอรับ องค์หญิงใหญ่จำเป็นต้องเข้าพบฝ่าบาท งานเลี้ยงวันนี้จึงจบเพียงเท่านี้ขอรับ ต้องขออภัยจริงๆขอรับ"
ลั่วชิงเหยียนมิได้แสดงสีหน้าแปลกใจ เขาเพียงพยักหน้าเบาๆและยืนขึ้น " หากเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ขอลา เจ้าไปบอกองค์หญิงใหญ่แทนเราด้วยเถิด"
เฉี่ยนหลิ่วตกตะลึง เอ่ยปากกล่าวว่า" พระชายาเพคะ เจ้าเฉี่ยนจั๋วเป็นคนพูดตรงไปตรงมาเกินไป นางมิได้ตั้งใจ พระชายาโปรดอย่าโทษนางเลยเพคะ"
หยุนชางรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่านางจะกล่าวเรื่องเฉี่ยนจั๋ว เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางก็วางหนังสือลงและเงยหน้ามองเฉี่ยนหลิ่ว " พวกเจ้าติดตามข้ามาสักพักแล้ว พวกเจ้าก็คงค้นพบเช่นกันว่า ข้ามิใช่คนที่ชอบวางมาดเจ้านาย เพราะในจวนรุ่ยอ๋องนี้ไม่มีนายคนอื่นนอกจากข้าและท่านอ๋อง ข้าจึงมิได้เคร่งกับพวกเจ้าเท่าไหร่นัก แต่พวกเจ้าจะหลวมตัวเพราะเหตุนี้มิได้ เราอยู่ที่แคว้นเซี่ย ทุกคนจับจ้องจะเล่นงานเราตลอดเวลา หากว่าไม่ระวังเกิดผิดพลาด แล้วมีคนจับความลับเราไว้ได้ เช่นนั้นก็ยุ่งยากอย่างมาก พูด ตรงไปตรงมามิใช่ปัญหา แต่หากพูดตรงไปตรงมาโดยไม่แยกแยะเวลาและสถานที่ ก็จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาได้"
เมื่อเฉี่ยนหลิ่วได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้า "หม่อมฉันทราบเพคะ หม่อมฉันจะกล่าวกับเฉี่ยนจั๋วดีๆเกี่ยวกับเรื่องนี้เพคะ"
"เจ้าเป็นคนที่รู้ทุกอย่าง ทำเรื่องกระไรก็รู้กาลเทศะ เจ้าและเฉี่ยนจั๋วเข้าร่วมการฝึกอบรมพร้อมกัน และมาติดตามข้าพร้อมกัน แน่นอนว่าต้องสนิทมากกว่าคนอื่นๆ เจ้าไปบอกนางก็ดี" หยุนชางพยักหน้าและอ่านหนังสืออีกครั้ง
ไม่นาน สาวใช้ก็นำอาหารมา ลั่วชิงเหยียนก็หลับมาที่ห้องแล้วเช่นกัน หยุนชางวางหนังสือลงแล้วช่วยลั่วชิงเหยียนถอดเสื้อคลุมออก และยื่นให้เฉี่ยนหลิ่ว จากนั้นยื่นมือออกไปสัมผัสมือของลั่วชิงเหยียน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า " มือของท่านอ๋องอุ่นมาก เตาไฟที่ห้องก็อุ่นมาก หากว่าท่านอ๋องอยู่ในห้องอาจจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เฉี่ยนหลิ่วไปเปิดหน้าต่างเถิด"
ลั่วชิงเหยียนยิ้มและกล่าวว่า " ข้าจะไปอ่านหนังสือที่โต๊ะ เปิดหน้าต่างตรงนั้นออกก็พอแล้ว"
เฉี่ยนหลิ่วตอบรับและเดินไปเปิดหน้าต่างที่อยู่ข้างๆโต๊ะหนังสือ ลั่วชิงเหยียนหยิบขนมหนึ่งชิ้นจากจานที่วางอยู่ข้างๆหยุนชางแล้วป้อนเข้าปากและกินมันลงไป จากนั้นก็หันกลับมามองหยุนชางและกล่าวว่า " หลังจากเรื่องจิ่งเหวินซีแล้ว ข้าก็รู้แล้วว่าหญิงสาวทุกคนที่หลงใหลในตัวข้านั้นล้วนเป็นเหล่างูพิษปีศาจ วันนี้ข้าจึงได้ตัดปัญหาตั้งแต่ต้นลมด้วยตนเอง ฮูหยินพอใจหรือไม่?"
หยุนชางอดหัวเราะไม่ได้เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่หยอกล้อของลั่วชิงเหยียน นางยกมือขึ้นและตบแขนของลั่วชิงเหยียนพร้อมกล่าวว่า " ท่านอ๋องรู้ตัวเช่นนี้ หม่อมฉันพอใจอย่างมากเพคะ" แต่คิ้วนางกลับขมวดขึ้นมา "ซูหรูอิงคงจบสิ้นแล้ว น่าเสียดายผู้หญิงนี่งดงามเช่นนี้ แต่ทว่าซูหรูอิงถูกจัดการไปแล้ว แต่ฮองเฮาจะไม่หยุดแค่นี้อย่างแน่นอน เกรงว่านางคงจะคิดหาวิธีส่งเส้นสายมาในจวนเรา วันนี้เป็นซูหรูอิง วันหน้าก็อาจจะเป็นหลี่หรูอิง หรือจ้าวหรูอิงก็เป็นได้"
ลั่วชิงเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้ จากนั้นก็พูดอย่างจริงจังว่า "ความกังวลของฮูหยินมันอาจจะเกิดขึ้น หากเป็นเช่นนี้คงมีเพียงวิธีเดียวที่จะสามารถหยุดความคิดเช่นนี้ของฮองเฮาได้"
"อย่างนั้นหรือ?" หยุนชางหันไปเลิกคิ้วและมองไปที่ลั่วชิงเหยียน "วิธีกระไรหรือ?"
ลั่วชิงเหยียนหัวเราะออกมาเบาๆ"เกรงว่าคงต้องปล่อยข่าวว่าท่านรุ่ยอ๋องไร้น้ำยาแล้วกระมั้ง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...