ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 598

"องค์หญิงทั้งสามนั้นพระชนมายุค่อนข้างมาก และเสด็จแม่ของพวกนางก็ไม่ได้มียศมีศักดิ์เท่าใดนัก อุปนิสัยของพวกนางกลับถือว่าไม่เลวเลยนะเพคะ องค์หญิงใหญ่ทรงเป็นคนหนักแน่น องค์หญิงรองช่างพูดช่างจา องค์หญิงสี่ค่อนข้างสุขุม" ฉินยีพูดในขณะที่พยุงหยุนชางเดินกลับเข้าไปในห้อง "ดูแต่ละองค์รักใคร่กลมเกลียวกันดีนะเพคะ แต่หม่อมฉันก็ได้ยินมาว่า ลึกๆแล้วพวกนางก็แบ่งพรรคแบ่งพวกอยู่เหมือนกัน องค์หญิงใหญ่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อท่านอ๋องเจ็ด องค์หญิงรองและองค์หญิงสี่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อฮองเฮา ล้วนเป็นผู้ที่อยู่คนละฝ่ายกับเราทั้งนั้นเลยเพคะ"

หยุนชางยิ้ม เนื่องจากวันนี้นางตื่นเช้ากว่าปกติ ตอนนี้นางเริ่มจะง่วงนอนแล้ว นางเดินไปนั่งลงบนตั่งแล้วพูดไปยิ้มไปว่า "โบราณท่านว่าไว้ ไม่มีผู้ที่เป็นมิตรแท้ต่อเราได้ตลอดกาล และไม่มีผู้ที่เป็นศัตรูต่อเราได้ตลอดกาลเช่นเดียวกัน วันนี้อาจจะไม่ใช่คนฝ่ายเดียวกับเรา ใครจะไปรู้ว่าวันพรุ่งนี้อาจจะมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไปก็เป็นได้"

ฉินยีพยักหน้า "องค์หญิงเหล่านี้ไม่ค่อยมีผู้ใดเหลียวแล แต่นั่นก็อาจจะเป็นประโยชน์ได้เหมือนกัน หม่อมฉันได้ยินมาว่า องค์หญิงสี่ทรงมีลูก ลูกของนางสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง จะต้องใช้หยูกยาอยู่เป็นประจำ ด้วยเหตุนี้ องค์หญิงสี่จึงมาสนิทกับองค์หญิงรอง เพราะพระสวามีขององค์หญิงรองทำการค้า มีร้านค้าหยูกยาอยู่เป็นจำนวนมากเพคะ"

"อืม เจ้าเก็บรวบรวมข้อมูลเอาไว้ รอวันไหนว่างๆข้าจะเอามาวิเคราะห์" หยุนชางพูดพลางหาวออกมา

ฉินยีเห็นท่าทางของหยุนชางแล้วก็เข้าไปช่วยหยุนชางถอดผ้าคลุมไหล่ขนจิ้งจอกออก จากนั้นก็ถอดชุดคลุม ตามด้วยปิ่นปักผม นางพูดกับหยุนชางว่า "หากพระชายาทรงง่วงนอนก็พักผ่อนเสียหน่อยนะเพคะ ประเดี๋ยวหม่อมฉันจะมาปลุก พระชายาจะต้องเสด็จไปจวนกั๋วกงอีกในช่วงเย็นนะเพคะ"

หยุนชางรับคำ นางถอดรองเท้าแล้วขึ้นไปบนเตียง ฉินยีเดินไปหยิบผ้าห่มมาให้หยุนชาง เมื่อนางเดินกลับมาถึงเตียง หยุนชางก็ได้หลับไปเรียบร้อยแล้ว

ฉินยีห่มผ้าให้หยุนชาง หลังจากนั้นเฉี่ยนจั๋วก็วิ่งเข้ามาในห้อง ฉินยีทำท่าเตือนให้เฉี่ยนจั๋วอย่าส่งเสียงดัง เฉี่ยนจั๋วจึงก้าวเดินอย่างระมัดระวัง นางมองดูหยุนชางที่กำลังนอนหลับ จากนั้นจึงจูงมือฉินยีออกไปนอกห้อง

นอนพักผ่อนไปได้ราว 1 ชั่วยาม ฉินยีก็ปลุกหยุนชางให้ตื่นนอน นางช่วยหยุนชางแต่งตัว นางเลือกชุดกระโปรงสีแดงมาให้กับหยุนชาง นางช่วยหยุนชางคาดผ้าผูกเอว ทำผมอย่างง่ายๆ ในขณะที่นางกำลังช่วยหยุนชางแต่งตัว นางก็ได้พูดขึ้นมาว่า "ในช่วงที่พระชายากำลังบรรทม ในวังก็ได้มีประกาศออกมาแล้วเพคะ แจ้งว่าในช่วงย่ำรุ่งของวันพรุ่งนี้จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองขึ้นมาที่ตำหนักไท่จี๋เพคะ"

หยุนชางพยักหน้า พลันนึกไปถึงเรื่องของฮุ่ยไฉเหริน นางบอกกับฉินยีว่า "ฮุ่ยไฉเหรินตั้งครรภ์แล้ว เจ้ารู้เรื่องนี้หรือไม่?"

ฉินยีนิ่งไปสักพักแล้วจึงค่อยๆพยักหน้า "เฉี่ยนจั๋วได้บอกหม่อมฉันแล้วเพคะ"

"หญิงสาวเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่เจ้าเคยให้การฝึกฝนอบรม หลินโยวหรานก็เป็นคนที่เจ้าให้การสนับสนุน ข้าเชื่อมั่นในตัวนางมาก แต่หลังจากที่ได้รับข่าวว่านางแพ้ท้องอย่างรุนแรง ข้าก็เพิ่งจะฉุกคิดได้ว่าเราอาจจะลืมคำนึงถึงเรื่องบางเรื่องไป นั่นก็คือการที่ได้เป็นแม่คน เรื่องที่หลินโยวหรานตั้งครรภ์จะถูกประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ภายในค่ำคืนนี้ เมื่อถึงตอนนั้นแล้ว ฝ่ายศัตรูโดยเฉพาะฮองเฮา อาจจะเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของลูกในท้องหลินโยวหราน ข้ารู้สึกไม่สบายใจเลย เจ้าจงส่งคนไปจับตาดูเอาไว้ ข้าเกรงว่าหลินโยวหรานจะลงมือทำอะไรลงไปด้วยความหุนหันพลันแล่นเพียงเพราะต้องการปกป้องลูกของตน" หยุนชางพูดพลางขมวดคิ้ว

ฉินยีพยักหน้า "เพคะ หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ"

"ทันทีที่ฮองเฮาทรงทราบเรื่องที่หลินโยวหรานตั้งครรภ์ นางคงจะใช้โอกาสนี้ในการสรรหาหญิงงามเข้ามาในวังเพื่อยั่วยวนฮ่องเต้ เจ้าคิดว่าฮ่องเต้จะทรงสนพระทัยแม่นางคนใดบ้าง จงไปรวบรวมรายชื่อมาให้ข้า ข้าจะลองพิจารณาดู" หยุนชางหาว แล้วสั่งการกับฉินยีเบาๆ

ฉินยีรับคำ นางทำผมให้หยุนชางเสร็จแล้ว เมื่อปักปิ่นลงไปแล้วนางก็ได้พูดกับหยุนชางว่า "จริงสิเพคะ เมื่อครู่นี้เฉี่ยนจั๋วรายงานมาว่า นางได้นำตัวหญิงสาวนางนั้นเข้ามาในจวนแล้วเพคะ"

หยุนชางกำลังเอื้อมมือไปลูบปิ่นปักผม เมื่อได้ยินดังนั้นมือของนางก็หยุดชะงักไปชั่วครู่ "หญิงสาวนางนั้นคือหลิ่วฉูฉู่ใช่หรือไม่?"

ฉินยีพยักหน้า "หม่อมฉันได้ยินเฉี่ยนจั๋วบอกว่า ตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้ว คือหลิ่วฉูฉู่แน่นอนเพคะ"

หยุนชางครุ่นคิดอยู่สักครู่ แล้วนางก็ยิ้มออกมา "เป็นหลิ่วฉูฉู่จริงๆด้วย" พูดจบก็หันไปมองเงาสะท้อนที่ปรากฏขึ้นในคันฉ่อง "รอให้ข้ากลับมาจากจวนกั๋วกงเสียก่อน แล้วค่อยไปนำตัวหลิ่วฉูฉู่เข้ามาให้ข้าดู"

ฉินยีพยักหน้า แล้วหยุนชางก็เอ่ยถามเรื่องเวลา

เมื่อมือของเขาอุ่นแล้ว ลั่วชิงเหยียนก็ได้กุมมือของหยุนชาง แล้วลูบไปที่ท้องของนาง เขาขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นมาเบาๆว่า "ทำไมยังเล็กอย่างนี้ล่ะ?"

หยุนชางได้ฟังก็หัวเราะ "ก็ท่านอ๋องคอยลูบอยู่ทุกวันๆ จะเห็นความแตกต่างได้อย่างไรล่ะเพคะ หม่อมฉันกลับรู้สึกว่า เอวของหม่อมฉันหนาขึ้นมาอีกนิดแล้ว......" พูดจบนางก็ขมวดคิ้ว "อีกไม่นานคงจะสวมเสื้อผ้าที่เคยสวมไม่ได้แล้ว"

ลั่วชิงเหยียนไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของสิ่งที่หยุนชางพูดไป เขาโอบเอวของนางไว้แล้วพูดกับนางว่า "ใส่ไม่ได้ก็ซื้อใหม่สิ"

"เอวหนาแล้วจะสวมชุดไหนก็ไม่สวยทั้งนั้นไงล่ะเพคะ" หยุนชางพูดจบก็ทำปากจู๋

ลั่วชิงเหยียนถึงกับหัวเราะ "จะไม่สวยได้อย่างไร ในปฐพีนี้จะหาหญิงใดมางามเกินกว่าพระชายาของข้าไม่ได้อีกแล้ว"

หยุนชางเขินอายจนหน้าแดง นางผละตัวออกมาจากอ้อมกอดของเขา นางรู้สึกหัวใจเต้นแรง คนที่ดูเย็นชาอย่างเขา เวลาป้อนคำหวานกลับทำให้นางเขินอายได้มากถึงเพียงนี้

ฉินยีนำชุดคลุมและผ้าคลุมไหล่มาให้หยุนชางสวมใส่ ลั่วชิงเหยียนยังคงจดจ้องมองดูหยุนชาง หยุนชางเห็นดังนั้นแล้วก็ดุเขาไปว่า "เหตุใดยังไม่ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์อีกล่ะเพคะ? ประเดี๋ยวก็ต้องออกไปข้างนอกกันแล้วนะเพคะ"

ลั่วชิงเหยียนอมยิ้ม จากนั้นก็ลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าเดินเข้าไปในห้องสรงน้ำ

ทั้งสองออกมาจากจวนด้วยกัน วันก่อนวันส่งท้ายปีเก่าที่จวนกั๋วกงถือเป็นวันรวมญาติครั้งใหญ่ เครือญาติแต่ละคนจะมารวมตัวกันที่นี่ เป็นบรรยากาศที่ครึกครื้นยิ่งนัก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง