ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 638

หากพระราชินีจงใจทำเช่นนี้ ฉะนั้นความหมายที่ซ่อนอยู่หลังประโยคนั้นมีมากมายเหลือเกิน ภายในห้องนั้นมีเครื่องใช้ที่ใช้น้ำมันตุงทาอยู่มากมาย เดิมก็ไม่ดีต่อทารกในครรภ์ของหลินโยวหรานอยู่แล้ว หากว่าปิดหน้าต่างและวางเตาไฟไว้ในห้อง เกรงว่าไม่นานทารกในท้องของหลินโยวหรานคงจะแท้ง

"ใช่เพคะ หม่อมฉันได้บอกกับฮุ่ยจาวอี๋แล้วเพคะ ให้นางรักษาตัวอยู่ในห้องบรรทมดีๆ และเมื่อภาวะครรภ์คงที่แล้ว จึงสามารถออกไปเดินเล่นได้" หยุนชางตอบด้วยเสียงเบา

ฮองเฮาพยักหน้าและพูดอย่างเย็นชาว่า "เจ้าลุกขึ้นมาเถิด เจ้าเองก็ตั้งครรภ์อยู่เช่นกัน หากว่ารุ่ยอ๋องเห็นว่าเจ้าคุกเข่าอยู่ในวังข้า เขาก็คงจะมีปัญหากับข้า"

หยุนชางตอบและยืนขึ้น

หลังจากฮองเฮาจิบชาแล้วจึงพูดอย่างเฉยเมยว่า "ในเมื่อฮุ่ยจาวอี๋เชื่อในทักษะการรักษาของเจ้าเช่นนี้ ฉะนั้นเจ้าก็จ่ายยาคงที่ภาวะครรภ์ให้นางสักหน่อยเถิด! นางจะได้มิต้องรู้สึกว่าคนในพระราชวังนี้หวังแต่จะทำร้ายทารกในท้องนาง"

หยุนชางไม่เข้าใจว่าเหตุใดพระราชินีจึงกล่าวเช่นนี้ นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และคิดในใจว่า หากว่านางจ่ายยาให้ เมื่อฮุ่ยจาวอี๋แท้งหรือว่ายานั้นมีปัญหากระไร ข้าก็จะไม่สามารถโต้เถียงกระไรได้แล้ว ฉะนั้นนางจึงยิ้มและกล่าวว่า " ขึ้นชื่อว่ายา ย่อมมีพิษไม่มากก็น้อย หม่อมฉันรู้สึกว่า ไม่ว่างอย่างไรยาคงที่ภาวะครรภ์ก็นับว่าเป็นยา ฉะนั้นควรกินให้น้อยเสียดีกว่าเพคะ"

ฮองเฮาจ้องไปที่หยุนชางและเหลือบมองด้วยความเฉยชา " หึ ยังไงก็ตามฮุ่ยจาวอี๋เชื่องฟังเจ้า ดังนั้นเจ้าว่าอย่างไรก็ตามนั้นเถิด"

หยุนชางฟังออกว่าสิ่งที่นางพูดมานั้นมีความเสียดสีเล็กน้อย แต่นางก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน

หยุนชางพยายามยอมนาง จนหยิบยกเซี่ยหวนอวี่ออกมา ฮองเฮาก็ทำกระไรนางมิได้ จึงได้ต่อว่านางไปอย่างเย็นชา จากนั้นก็ปล่อยนางไป ขณะที่หยุนชางเดินออกจากตำหนักเว่ยยาง นางพบหญิงสาวในชุดแปลก ๆ มาเดินมาทางตำหนักเว่ยยางอยู่สองสามคน

ที่กล่าวว่าพวกนางแต่งกายแปลก เพราะชุดที่พวกนางสวมใส่นั้นไม่เหมือนชุดของนางกำนัล และก็ไม่เหมือนชุดของนางสนม หยุนชางจ้องมองไปที่คนเหล่านั้นอยู่ครู่หนึ่ง และพบว่าพวกนางล้วนหน้าคุ้นอย่างมาก จากนั้นนางก็ตระหนักขึ้นมาในใจได้ว่า นี่ก็คงเป็นนางข้าหลวงที่เขาว่ากันล่ะมั้ง

หยุนชางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในเมื่อนางก็เข้าวังมาแล้ว เช่นนั้นก็ไปที่ตำหนักเซียงจู๋ด้วยเสียดีกว่า จากนั้นนางก็พาฉินยีเดินมุ่งไปทางตำหนักเซียงจู๋

หนิงเฉี่ยนและหลินโยวหรานกำลังจิบชาและพูดคุยกันอยู่ภายในตำหนัก เมื่อเห็นว่าหยุนชางมา หนิงเฉี่ยนไม่แปลกใจเท่าไหร่ ก็นางยิ้มและยืนขึ้นพูดว่า ข้าเพิ่งได้ยินนางกำนัลแจ้งว่าพระชายาไปตำหนักเว่ยยางมา ข้ายังกังวลอยู่ว่าฮองเฮาจะจับผิดเจ้าหรือไม่ และกำลังพูดคุยกับโยวหราน หากว่าอีกสักพักเจ้ายังไม่ปรากฏตัว ข้าก็จะไปที่ตำหนักเว่ยยางแล้ว"

หยุนชางเดินไปนั่งที่เก้าอี้ยิ้มแล้วพูดว่า "นางอยากจับผิดข้า แต่ทุกคนเห็นว่าข้าเข้าไปด้านใน ฉะนั้นนางก็ทำอะไรที่มากเกินไปมิได้ เมื่อสักครู่ข้าเห็นหญิงสาวสองสามคนอยู่นอกตำหนักเว่ยยาง ข้าได้ยินมาว่าพวกนางเป็นนางข้าหลวงที่ได้รับเลือกใหม่หรือ?"

หนิงเฉี่ยนได้ยินเช่นนี้ ก็พยักหน้าและกล่าวว่า "ใช่แล้ว เดิมทีได้ยินมาว่ามีนางข้าหลวงรับใช้ฝ่าบาทเช่นกัน งานหลักของพวกนางก็จะเป็นการคัดแยกหนังสือกราบทูลและเตรียมเอกสารพระราชโองการ พระชายาองค์รัชทายาทเดิมก็เป็นนางข้าหลวง แต่ตอนหลังได้อภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาทแล้ว ตําแหน่งนางข้าหลวงจึงว่าง พระราชินีเห็นว่าช่วงนี้ฝ่าบาททรงงานอย่างหนัก จึงได้ทรงแนะนำฝ่าบาทว่า เป็นการดีหรือไม่หากว่าเรียกคืนระบบนางข้าหลวง จากนั้นก็เลือกนางข้าหลวงมาสองสามคน ซึ่งสามารถแบ่งปันงานราชการบางส่วนของฝ่าบาทได้ ฝ่าบาทมิได้ห้ามไว้ สองสามวันก่อนพระราชินีก็ทำการเลือกอย่างกว้างขวางภายในวัง อีกทั้งยังจัดการสอบขึ้นมา และให้ฝ่าบาทเป็นผู้ออกข้อสอบ และได้รับเลือกออกมาสองสามคน บัดนี้พวกนางก็เป็นนางข้าหลวงเพียงชั่วคราวเท่านั้น สุดท้ายแล้วนางข้าหลวงจะเหลือเพียงสองคนเท่านั้น จากนั้นทั้งสองคนก็วนเวียนติดตามฝ่าบาทไป"

หยุนชางพยักหน้า แต่ก็คิดในใจเล็กน้อย หากเป็นไปตามที่หนิงเฉี่ยนกล่าว นางข้าหลวงนี้ก็สามารถเข้าถึงหนังสือกราบทูลของเหล่าขุนนางได้ และจะได้ทราบพระราชโองการของฝ่าบาทเป็นคนแรก หากว่าสามารถวางเส้นสายไว้ในตำแหน่งนี้ได้ เช่นนั้นก็ดีต่อจวนรุ่ยอ๋องเช่นกัน

"เดิมทีข้าก็คิดอยากจะทำกระไรบางอย่างกับนางข้าหลวงเหล่านี้ แต่ทว่าอำนาจในการคัดเลือกอยู่ในมือฝ่าบาท อีกทั้งการสอบของฝ่าบาทนั้นเข้มงวดอย่างมาก คำถามที่ถามล้วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทางกิจการเมือง ผู้หญิงธรรมดาๆ จะทราบเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร คนของข้าไม่ผ่านการประเมินรอบแรก จึงถูกคัดออกไปแล้ว" หนิงเฉี่ยนถอนหายใจเบา ๆ ดูเหมือนเสียใจเล็กน้อย

หยุนชางยิ้มเบา ๆ แล้วหันไปสบตากับฉินยี แววตาของนางเผยรอยยิ้มออกมา ใช่แล้ว ผู้หญิงทั่วๆ ไปจะทราบเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร แต่หญิงสาวที่ผ่านการฝึกฝนของพวกนางมาก ทราบเรื่องต่างๆ มากกว่านี้ด้วยซ้ำ

หยุนชางหันไปมองหลินโยวหราน จากนั้นก็ถามด้วยเสียงเบาๆ ว่า "วันนี้รู้สึกดีขึ้นหรือยัง?"

หยุนชางก็หัวเราะออกมาเช่นกัน "แน่นอนว่าต้องใจร้อน แม้ว่านางจะเป็นถึงฮองเฮา แต่ก็มีโอรสเพียงคนเดียวคือองค์รัชทายาท และตอนนี้องค์รัชทายาทเสียชีวิตไปแล้ว อีกทั้งวังหลังนี้มีคนใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่าเหล่านางสนมที่เข้าวังมาใหม่เริ่มตั้งครรภ์กันแล้ว นางจะไม่กระวนกระวายได้อย่างไร"

หนิงเฉี่ยนพยักหน้าและขยับเข้าใกล้หยุนชางมากขึ้น "ข้ากลับรู้สึกว่า นี่คือโอกาส..........."

หยุนชางเลิกคิ้วขึ้นและเข้าใจในทันที นางอมยิ้มขึ้นมา "ก็จริง เป็นโอกาสที่ดี"

ระหว่างทางกลับไปที่จวนรุ่ยอ๋อง หยุนชางยังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งที่หนิงเฉี่ยนกล่าว เมื่อรถม้าหยุดที่หน้าประตูจวนรุ่ยอ๋อง หยุนชางก็มีแผนในใจแล้ว ทันทีที่ก้าวเข้าจวนรุ่ยอ๋องไปนางก็กล่าวต่อพ่อบ้านว่า "ข้าจำได้ว่าตอนที่ข้าเพิ่งตั้งครรภ์ ได้เชิญท่านหมอมาตรวจดูอยู่ไม่น้อย ดูเหมือนว่าจะมีหลายท่านเป็นที่รู้จักในนามหมอเชี่ยวชาญทางนรีเวชใช่หรือไม่? พรุ่งนี้เจ้าไปตามพวกท่านมาที่จวนให้ข้าที.........."

พ่อบ้านตะลึง "พระชายารู้สึกไม่สบายหรือไม่ขอรับ?"

หยุนชางส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้ม "ไม่เป็นกระไร ข้ามีเรื่องบางอย่างจะถามพวกเขา"

เมื่อกลับไปถึงลานบ้านด้านใน ลั่วชิงเหยียนกลับมาแล้ว เขากำลังอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ เมื่อได้ยินหยุนชางเปิดม่านออก เขาก็หันหน้ามองไปที่ประตู " ตอนที่ข้ากลับมา ข้าไม่พบใครอยู่ในลานบ้านเลย เจ้าไปไหนมา?"

หยุนชางอดหัวเราะไม่ได้เมื่อได้ยินเช่นนี้ "เห็นๆ กันอยู่ว่าด้านนอกมีสาวใช้อยู่หลายคน จะไม่พบใครเลยได้อย่างไร เจ้ามิได้ถามพ่อบ้านหรือ?"

"ลั่วชิงเหยียนเม้มริมฝีปากเบา ๆ "ขี้เกียจจะถาม" เขาดูเหมือนจะน้อยใจนางเล็กน้อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง