ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 700

หลี่เฉี่ยนโม่ได้ยินเช่นนี้ก็ดูลำบากใจเล็กน้อย เขาเหลือบมองเซี่ยหวนอวี่ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์อย่างเงียบๆ แล้วจึงกล่าวเบาๆ "ไม่ใช่ว่าข้าน้อยไม่อยากให้พระชายาดูขอรับ แต่ทว่าเอกสารเหล่านั้นอยู่ในคลังเอกสารของกรมอาญาแล้วขอรับ ตอนนี้จึงไม่มีทางที่จะให้พระชายาดูจริงๆ ขอรับ"

หยุนชางพยักหน้าเบา ๆ และเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงเงยหน้าขึ้นและกล่าวเบาๆ ว่า " ข้าไม่ทราบเกี่ยวกับการสืบคดี ฉะนั้นจึงรบกวนใต้เท้าหลี่แล้วกัน เพียงแต่หวังว่าหากมีความคืบหน้ากระไร อยากรบกวนให้ใต้เท้าหลี่แจ้งข้าสักหน่อย ข้าทราบแล้วจะได้สบายใจขึ้น"

หลี่เฉี่ยนโม่ตอบกลับว่า " ข้าน้อยมิอาจรู้สึกรบกวนขอรับ เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของข้าน้อยอยู่แล้วขอรับ"

หยุนชางอมยิ้มอีกครั้งแล้วเงยหน้ามองเซี่ยหวนอวี่ ถวายบังคมแล้วกล่าวว่า " ทูลฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันทราบถึงสถานการณ์โดยคร่าวๆ แล้วเพคะ หม่อมฉันไม่ทราบเรื่องการสืบคดี เกรงว่าคงช่วยกระไรได้ไม่มากเท่าไหร่ ฉะนั้นจึงขอน้อมลาไปก่อนเพคะ"

เซี่ยหวนอวี่พยักหน้า " เอาล่ะ กลับไปเถิด"

หยุนชางค่อยๆ ถอยออกไปอย่างช้าๆ ฉินยีรออยู่นอกตำหนัก เมื่อเห็นหยุนชางเดินออกมาพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย นางก็มิได้ถามรายละเอียด เพียงแต่ตามหลังหยุนชางแล้วเดินตรงไปทางตำหนักเฉาเซี่ย

ยังเดินไม่ถึงครึ่งทาง ก็เห็นนางกำนัลคนหนึ่งวิ่งมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นหยุนชางนางจึงถอนหายใจ "พระชายารุ่ยอ๋องเพคะ.........."

หยุนชางจำนางได้ นางคือนางกำนัลที่รับใช้อยู่นอกตำหนักเฉาเซี่ย ดูเหมือนว่าจะชื่อไฉ่ยี? เมื่อหยุนชางเห็นสีหน้าของนางร้อนรนอย่างมาก จึงเอ่ยปากถามว่า "เกิดกระไรขึ้นหรือ? มีเรื่องกระหรือไม่?"

นางกำนัลพยักหน้าซ้ำๆ ดูเหมือนเหนื่อยจากการวิ่งเล็กน้อย นางหายใจแรงและกล่าวว่า "พระชายาเพคะ ท่านเร่งไปดูที่ศาลาลั่วเซี่ยข้างๆ ทะเลสาบเหยียนชุ่ยหน่อยเถิดเพคะ สาวใช้ของท่านทะเลาะกับหลิวเกิงยีของตำหนักหมิงชุ่ยเพคะ"

หยุนชางอดไม่ได้ขมวดคิ้วขึ้นมา รู้สึกรำคาญใจเล็กน้อย " ข้าเพิ่งบอกกับเฉี่ยนจั๋วไปเมื่อสักครู่ว่าอย่างได้ใจร้อน แล้วเหตุใดจึงทะเลาะกับคนอื่นขึ้นมาทันที?" ขณะที่กล่าวนางก็เร่งเดินไปที่ทะเลสาบเหยียนชุ่ย

แม้ว่าทะเลสาบเหยียนชุ่ยจะไม่เล็ก แต่ว่าศาลาลั่วเซี่ยหาไม่ยาก หยุนชางเห็นว่ามีคนจำนวนมากล้อมรอบอยู่นอกศาลา นางจึงเดินตรงเข้าไปทางนั้น

"เป็นเพียงสาวใช้ แต่กลับกล้ามาทะเลาะวิวาทกับเหล่านายหญิง นายของเจ้าสั่งสอนเจ้าอย่างไรกัน หากว่าเข้าทำตามสิ่งที่เกิงยีเหนียงเหนียงสั่ง เจ้าวาดเต่าไว้บนหน้าตัวเองสักตัว แล้วเดินวนรอบทะเลสาบเหยียนชุ่ยสามรอบ เช่นนั้นพวกข้าจะปล่อยเจ้าไป" เสียงแหลมๆ ของหญิงสาวผู้หนึ่งดังขึ้นมาพร้อมด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ย

หยุนชางขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วได้ยินเสียงของเฉี่ยนจั๋วดังขึ้น" หึ ช่างตลกสิ้นดี เจ้าเป็นเพียงนางสนมตำแหน่งสำรองขั้นที่9 แต่กลับกล้ามาใส่ร้ายชื่อเสียงของพระชายา ไม่ทราบจริงๆ ว่ากฎระเบียบในวังสั่งสอนคนเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร"

"เจ้ากล้าพูดว่าข้าไม่ได้รับการสั่งสอนอย่างนั้นหรือ นางกำนัล เฆี่ยนนางเดี๋ยวนี้!" เสียงที่โกรธเคืองเช่นนี้ ก็คงเป็นเสียงของหลิวเกิงยีที่ไฉ่ยีว่ากระมั้ง

"หยุดนะ!" ไฉ่ยีที่อยู่ข้างๆโกรธเคืองเล็กน้อย และกล่าวด้วยเสียงสูง

ผู้คนที่ล้อมรอบศาลาลั่วเซี่ยต่างก็หันกลับมาแล้วมองไปที่นางสามคน นางกำนัลที่หน้าตาสวยงามในนั้นก็ขมวดคิ้ว แล้วมองไปที่ไฉ่ยีด้วยความไม่สบอารมณ์ "เจ้าเป็นใครมาจากไหนอีก?"

หยุนชางหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางเข้าใจแล้วล่ะ คนที่อยู่ที่นี่ส่วนมากเป็นนางสนมตำแหน่งสำรองระดับเจ็ดขึ้นไป พวกนางไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าถวายพระพรหรือเข้าร่วมงานเลี้ยงพระราชวัง พวกนางจึงไม่เคยพบหยุนชางมาก่อน อีกทั้งทะเลสาบเหยียนชุ่ยนี้อยู่ห่างจากตำหนักใหญ่อย่างมาก ฉะนั้นโดยปกติแล้วเหล่านางสนมที่มีตำแหน่งสูงจะไม่เดินมาทางนี้ พวกนางจึงสามารถทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจ

"พวกเจ้าตาบอดหรือไง พระชายารุ่ยอ๋องเสด็จ ยังไม่รีบคุกเข่าถวายบังคมอีกหรือ" นางกำนัลที่รับใช้อยู่ตำหนักเฉาเซี่ยล้วนมาจากตำหนักไท่จี๋ทั้งนั้น และปกติคอยรับใช้ฝ่าบาท แน่นอนเมื่อไปถึงไหนก็มีแต่คนยกย่อง ไม่เคยได้รับการดูถูกเช่นนี้มาก่อน ฉะนั้นไฉ่ยีจึงโกรธเคืองหนักกว่าเดิม

"พระชายารุ่ยอ๋องรู้สึกว่าข้านิสัยไม่ดีหรือ?" หลิวเกิงยีอดทนสุดท้ายก็เอ่ยปาก

มือที่หยุนชางเคาะโต๊ะก็หยุดชะงัก จากนั้นก็เงยหน้ากล่าวต่อไฉ่ยีว่า "ไฉ่ยีรับใช้ฝ่าบาทมาโดยตลอด แน่นอนว่าทราบดีหากว่าเกิงยีตำแหน่งสำรองขั้นที่ 9แทนตัวเองว่า ข้า ต่อหน้าพระชายาต้องได้รับโทษเช่นไร"

ไฉ่ยีโค้งคำนับและพูดเบา ๆ ว่า " ทูลพระชายาเพคะ จำต้องตบปากยี่สิบทีเพคะ"

หยุนชางพยักหน้าเบา ๆ อมยิ้มและกล่าวว่า "ข้ารู้สึกว่าการลงโทษนี้รุนแรงเกินไป แต่ในเมื่อเข้าวังมาแล้ว ก็ไม่สามารถละเมิดกฎระเบียบภายในวังได้ ฉะนั้นก็รบกวนแม่หญิงไฉ่ยีจัดการให้หน่อยแล้วกัน"

หลิวเกิงยีเริ่มรู้สึกแปลกใจ จึงเร่งกล่าวว่า "เจ้าทำกระไร? ข้าเป็นถึงนางสนมในวังเชียวนะ"

หยุนชางหัวเราะอีกครั้ง "เกรงว่าหลิวเกิงยีคงไม่เข้าใจซะมั้ง เกิงยีเป็นเพียงตำแหน่งรองขั้นที่9 หากว่าข้าอยากจัดการ ข้ามีอำนาจนี้ อีกทั้งหลิวเกิงยีเป็นคนที่โง่เง่าและไม่มีความรู้เช่นนี้ เกรงว่าเจ้าคงไม่ทราบกระมั้งว่าแม่หญิงไฉ่ยีเป็นนางกำนัลข้างกายของฝ่าบาท หากว่าพูดถึงยศตำแหน่งแล้ว นางอาจจะสูงกว่าเจ้าด้วยซ้ำ"

ไฉ่ยีอมยิ้ม แต่มิได้ส่งเสียงกระไร ราวกับว่านางยอมรับอย่างเงียบๆ นางเดินไปหน้าหลิวเกิงยีแล้วยกมือตบลงไปที่หน้าดัง "เพี๊ยะ" เสียงดังก้องอย่างมาก

ผู้หญิงที่สามารถเข้าวังเป็นพระชายาได้นั้น ล้วนมีฐานะดี แม้ว่าจะเป็นนางเกิงยีเล็กๆ แต่เมื่ออยู่ในบ้านก็คงได้รับการตามใจยกย่องอย่างมาก จึงมิเคยโดนรังแกเช่นนี้

"พระชายารุ่ยอ๋อง เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าเฆี่ยนข้าแล้วจะไม่มีใครทราบ เรื่องที่เจ้ายั่วยวนฝ่าบาทตอนนี้ลือไปทั่วพระราชวังแล้ว เจ้ากล้าทำเช่นนี้แล้วยังกลัวคนอื่นพูดถึงอีกหรือ?" หลิวเกิงยีถูกไฉ่ยีตบจนมึนไปแล้ว เมื่อนางได้สติกลับมาจึงด่าทออย่างรุนแรง ทันใดนั้นเหล่าหญิงสาวที่อยู่นอกศาลาลั่วเซี่ยต่างก็สีหน้าขาวซีดขึ้นมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง