ฮ่องเต้คลั่งรักมัดใจสนมตัวร้าย นิยาย บท 3

‘ได้’

เสียงระบบดิจิตอลยังคงตอบอย่างใส่ใจ ทว่าน้ำเสียงยังคงเรียบเฉย ไร้อารมณ์เหมือนเดิม

‘หากวางโครงเรื่องนิยายทั้งหมดสำเร็จ นายท่านก็จะมีโอกาสอธิษฐานสารพัดประโยคหนึ่งครั้ง โอกาสไม่ได้มีบ่อยๆ ต้องรีบคว้าเอาไว้นะ’

ดวงตาซือหลิงหลงสว่างจ้าขึ้นมาทันที

โอกาสอธิษฐานสารพัดประโยชน์? งั้นเธอก็สามารถอธิษฐานเพื่อกลับไปยังโลกปัจจุบันได้สิ?

ทว่าโครงเรื่องนิยายนี่...

‘แต่...ฉันอ่านนิยายเรื่องนี้จบสักพักหนึ่งแล้ว ตอนนี้จำไม่ค่อยได้ คุณเอาไฟล์เนื้อเรื่องให้ฉันหน่อยสิ ฉันจะได้อ่านทบทวนหน่อย’

‘ต้องขออภัย ตอนนี้ระบบส่งไฟล์ให้ไม่ได้ นายท่านโปรดแก้ไขปัญหาเอง การที่ไม่รู้โครงเรื่องระหว่างดำเนินภารกิจจะมีท้าทายสูงกว่า’

ระบบเสียงดิจิตอลหยุดแล้วเสริมอีกคำว่า

‘จุ้บๆ’

ซือหลิงหลง “!!!”

เชอะ ยังบอกมีความท้าทายสูงได้อีก!

แล้วจุ้บๆคืออะไรอีก?

‘เป็นคำเลียนเสียงที่ทำให้ระบบน่ารักมากขึ้น ช่วยให้ระบบกับนายท่านสื่อสารได้ดีมากขึ้น’

ซือหลิงหลงหัวเราะคิกคัก

‘ขอบคุณ แต่ฉันไม่เห็นจะน่ารักตรงไหน’

ระบบนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นก็ตอบว่า ‘นายท่านโปรดอย่าใจร้ายกับระบบมากเลย’

ซือหลิงหลงอยากตบโต๊ะยิ่งนัก ‘ระบบใจร้ายกับฉันมากกว่าละไม่ว่า ไม่ได้ การปฏิบัติภารกิจอย่างไม่มีทิศทาง ไม่ต่างกับการฆ่าฉันเลย คุณต้องแนะนำฉันเวลาฉันไม่ได้ทำตามเนื้อเรื่องนะ’

กระแสไฟฟ้าสายหนึ่งแวบผ่านอย่างรวดเร็ว เสมือนเกิดความชุลมุนไม่มีผิดเพี้ยน ผ่านไปครึ่งค่อนวัน ระบบจึงตอบอย่างฉะฉานว่า ‘ระบบอนุญาตขอเรียกร้องของนายท่าน ขออวยพรให้นายท่านผ่านด่านอย่างราบรื่น’

ผ่านไปชั่วครู่ ระบบก็เสริมขึ้นว่า ‘ม๊วฟๆ’

ซึ่งยังคงเป็นเสียงแข็งเหมือนเดิม

ซือหลิงหลงรู้สึกว่าเสียงในสมองเลือนหายไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

‘ได้ ก็แค่วางโครงเรื่องนิยาย ภารกิจแรกต้องให้ฮ่องเต้บ้ายกเลิกคำสั่งส่งพระสนมเหลียนเฟยเข้าตำหนักเย็นก่อน’

ซือหลิงหลงคิดได้ดังนี้ก็เงยหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ แต่เมื่อเห็นดวงตาหงส์มองหน้าอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาประหนึ่งทะเลสาบน้ำแข็งที่ลึกจนมองไม่เห็นก้น กลีบปากบางยกขึ้นเล็กน้อย พลางกล่าวเสียงข่มขู่ดุจน้ำแข็ง

“หลางกุ้ยเหรินอยากไปอยู่เป็นเพื่อนเหลียนเฟยหรือ?”

ยังอยากให้เขายกเลิกคำสั่งอีก ฝันลม ๆ แล้ง ๆ!

การที่เขาไว้ชีวิตพระสนมเหลียนเฟยก็นับว่าไว้หน้าสวรรค์แล้ว!

ซือหลิงหลงได้ยินคำพูดของเฮ่อเหลียนเย่ว์ก็สะดุ้งโหยง รีบปล่อยแขนเขาทันที

“รบกวนแล้ว ขอตัวลาเพคะ”

และน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาได้ยินเสียงพูดในใจของนางด้วย

เมื่อคิดได้ดังนี้ เฮ่อเหลียนเย่ว์ก็ขัดจังหวะความหวังในใจของซือหลิงหลง กล่าวเสียงเย็นเยียบกับฝูไท่ที่ยืนด้านข้างว่า

“ในเมื่อหลังคาตำหนักเสวี่ยนฟางเสียหาย เช่นนั้นก็ให้หลางกุ้ยเหรินย้ายไปอยู่ในข้างตำหนักหลิงหัวเถอะ”

เฮ่อเหลียนเย่ว์กล่าวจบ สามคนที่อยู่ในนั้นก็พากันงงเป็นไก่ตาแตก

“ห้ะ?” ฝูไท่คิดว่าตัวเองฟังผิดไป

ส่วนไป๋เชียนเชียนยิ่งไม่อยากจะเชื่อ อดกุมคอแล้วเอ่ยเสียงแหลมไม่ได้ “ฝาบาท แบบนี้ไม่ยุติธรรมนะเพคะ”

นางได้เข้าตำหนักเย็นแล้ว ดังนั้นบทลงทัณฑ์ของซือหลิงหลงก็น่าจะใช้ม้าห้าตัวแยกร่างของนางถึงจะถูก จะให้นางเข้าตำหนักหลิงหัวได้อย่างไร?

คนที่อยู่ในเหตุการณ์มีเพียงซือหลิงหลงที่ทำหน้าสงสัย

‘ตำหนักหลิงหัว...เป็นชื่อของตำหนักเย็นใช่ไหม?’

เฮ่อเหลียนเย่ว์ได้ยินคำพูดในใจของซือหลิงหลงแล้วก็กระตุกยิ้มเล็กน้อย ก้มหน้าไปกระซิบข้างหูนางด้วยน้ำเสียงที่เจือเจตนาร้าย

“ข้าเชื่อว่าเรื่องวันนี้ เจ้าไม่ผิด ดังนั้นข้าจะให้เจ้าอยู่ตำหนักหลิงหัวพร้อมกับข้า เจ้าชอบหรือไม่?”

ซือหลิงหลง “...”

‘หม่อมฉันอยากจะร้องดังๆว่าฟักยูว์ แต่ไม่รู้ว่าสมควรหรือเปล่า?’

เฮ่อเหลียนเย่ว์ “??” อะไรคือฟักยู้กัน?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฮ่องเต้คลั่งรักมัดใจสนมตัวร้าย