หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 106

ฉันไม่มองเขา กลัวว่าตัวเองจะอดไม่ได้ที่จะทะเลาะกับเขา

คาดไม่ถึงว่าลู่จือสิงจะไม่ทะเลาะกับฉัน เขาถูกฉันลากไปยังบริเวณที่ลงทะเบียน

วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้มีคนจำนวนมากอยู่ในโรงพยาบาล ฉันนึกถึงความร้อนที่มาจากข้อมือของเขาในตอนที่ฉันลากเขามา ภายในใจของฉันนั้นรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

ฉันหันกลับไปมองเขาและหาที่นั่ง "คุณนั่งก่อน ฉันจะไปลงทะเบียนให้"

เขาจ้องมองฉัน ฉันคิดว่าเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ฉันรอเขาพูดอยู่ครู่หนึ่งและสุดท้ายเขาก็ไม่พูดอะไร ฉันก็ไม่สนใจเขา เดินไปเข้าแถวเพื่อลงทะเบียน

แถวต่อคิวนั้นยาวมาก ฉันยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ฉันอดไม่ได้ที่จะหันไปมองลู่จือสิงที่นั่งพักอยู่ตรงเก้าอี้แต่กลับคาดไม่ถึงว่าเขาเองก็กำลังมองฉันอยู่เช่นกัน

ดวงตาสีดำคู่นั้นที่ไม่อาจหยั่งรู้อะไรได้ ภายในดวงตานั้นเป็นอารมณ์ที่ฉันไม่สามารถคาดเดาได้เลย

ฉันผงะไปชั่วขณะและละสายตาออกจากเขา แต่ภายในสมองของฉันกลับเต็มไปด้วยภาพใบหน้าของเขาที่ฉันเพิ่งเห็นเมื่อครู่

จริงๆเลย ความเจ็บปวดที่ไม่เคยมีมาก่อน

เวลาผ่านไปเกือบ20นาทีฉันนั้นเพิ่งจะได้ลงทะเบียน

เนื่องจากลู่จือสิงมีไข้สูงเกินไปฉันลงทะเบียนไปว่าเขาเข้าสู่ภาวะฉุกเฉิน

อย่างไรก็ตามอาจเป็นเพราะวันนี้ลู่จือสิงโชคไม่ดีนัก ห้องฉุกเฉินนั้นมีคนมากมายกำลังรอคอยอยู่เช่นกัน

ฉันก้มศีรษะลงไปมองลู่จือสิง เขายังคงอยู่ในชุดสูทสีดำตัวเดิมที่มีเสื้อแจ็คเก็ตขนสัตว์สีน้ำเงินกรมท่าสวมทับด้านนอกซึ่งทำให้เขาดูเหมือนคุณชายรัชทายาท แต่ใบหน้าเขานั้นซีดเซียวเป็นอย่างมาก

ดูเหมือนว่าลู่จือสิงจะมีไข้อย่างรุนแรง แม้แต่ดวงตาที่แข็งกร้าวของเขานั้นก็ดูอ่อนแรงลง

ฉันยืนอยู่ตรงหน้าเขา จ้องมองคนที่เข้าแถวในห้องฉุกเฉิน เพื่อเลี่ยงไม่ให้มีใครเข้ามาแซงคิว

ต้องรออีกประมาณ 10 นาทีกว่าจะถึงคิวของลู่จือสิง เมื่อได้ยินหมอเรียกชื่อของเขา ฉันจึงรีบคว้ามือของเขา "ลู่จือสิง ถึงคิวคุณแล้ว"

เขาเงยหน้าขึ้นมองฉันก่อนจะลุกขึ้น แต่กลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะเซจนแทบล้ม ฉันเอื้อมมือไปจับเขาโดยไม่รู้ตัวและเขาก็ได้เอนร่างกายไว้ที่ฉัน

ฉันตกตะลึงไปชั่วครู่ "ลู่จือสิง คุณ---"

"ปวดหัว"

เขาขยับตัวเล็กน้อยและร่างกายเขายังคงพิงฉันอยู่

ฉันเม้มริมฝีปากและรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรคิดจุกจิกจู้จี้กับคนป่วย

เมื่อเข้าไปใกล้ ฉันก็ได้กลิ่นบุหรี่และแอลกอฮอล์จางๆบนร่างกายของเขา ฉันนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลี่จื้อและอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

เขาคนนี้ ทำงานอย่างไม่คิดถึงชีวิต อาการไข้รุนแรงขนาดนี้ เขายังคงไปทำงานคบค้าสมาคมธุรกิจอยู่อีก

ในขณะที่ประคองเขาเข้ามา หมอก็เหลือบมองฉัน "สามีของคุณเป็นอะไร?"

"หมอ----"

"ปวดหัว มีอาการไข้"

ในขณะที่ฉันกำลังจะอธิบาย ลู่จือสิงก็ได้พูดแทรกเข้ามาและไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้พูด

"ตัวร้อนกี่องศา?"

"ยังไม่วัดอุณหภูมิเลย"

เขาหมดเรี่ยวหมดแรง เดิมทีฉันอยากจะผลักหัวเขาออกไปจากเอวของฉัน แต่เมื่อมองสภาพเขาที่เป็นเช่นนี้แล้วสุดท้ายก็ต้องอดกลั้นเอาไว้

"งั้นคุณไปวัดไข้ก่อน ให้ภรรยาคุณประคองคุณไปทางด้านนั้น"

หมอยังยืนยันในความสัมพันธ์ของฉันและลู่จือสิง ฉันเองก็ขี้เกียจที่จะอธิบาย ฉันประคองเขาไปทางด้านที่คุณหมอบอกและรอวัดไข้

สิบนาทีหลังจากนั้น

"39องศา ตัวร้อนมาก"

ลู่จือสิงไม่กล่าวอะไร ฉันคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวเพิ่มเติม "เขาดื่มเบียร์มาด้วยนิดหน่อย"

"เอาเป็นว่าให้น้ำเกลือสองขวดแล้วก็รับยาไป"

ในขณะที่กล่าว หมอก็ได้ยื่นบัตรให้กับฉันและเรียกคนถัดไป

หลังจากที่คิดเช่นนั้น ฉันจึงรินน้ำอุ่นให้เขาหนึ่งแก้ว และถามพยาบาลเกี่ยวกับสำลีก้อนเพื่อมาเช็ดริมฝีปากของเขาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น

ในช่วงเวลานี้เขาก็เป็นเช่นนี้และได้ทำให้ฉันสับสน

โทรศัพท์ภายในอ้อมแขนฉันก็ส่งเสียงดังขึ้น พบว่าสายที่โทรเข้ามานั้นเป็นสายของฉีซิ่วหราน หลังจากที่ตัดสายไปฉันก็ได้ส่งข้อความอธิบายสถานการณ์ในตอนนี้ให้เขาได้รู้

เมื่อฉันเก็บโทรศัพท์แล้วเรียบร้อย ลู่จือสิงก็ได้ตื่นขึ้น เขาลืมตาพร้อมกับจ้องมองมาที่ฉัน

"คุณหิวน้ำหรือเปล่า?"

เขาต้องการที่จะลุกขึ้นนั่ง ฉันกลัวว่าเมื่อเขาขยับแล้วเข็มอาจจะขยับไปด้วย ฉันจึงยกมือขึ้นและผลักเขาลงกับเตียงโดยไม่รู้ตัว "คุณอย่าขยับมั่วซั่วสิ คุณกำลังให้น้ำเกลือนะ!"

ด้วยความรีบร้อน การกระทำเมื่อครู่นั้นฉันเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย

เมื่อสติของฉันกลับมา ฉันก็พบว่าร่างกายของฉันกำลังแนบชิดกับร่างกายส่วนบนของเขา เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นริมฝีปากของฉันก็สัมผัสกับคางของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ

"ฉัน---"

จู่ๆลู่จือสิงก็เอื้อมมือมาและกดร่างกายของฉันลงในทันใด ริมฝีปากที่เย็นของเขาประกบลงบนริมฝีปากของฉัน จากนั้นฉันก็ได้สติและผลักเขาออกไปโดยไม่รู้ตัว แต่กลับถูกเขากอดไว้แน่น แตกต่างจากภาพลักษณ์ที่อ่อนแรงเมื่อสักครู่นี้

การจูบอีกครั้งสำหรับระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา ฉันไม่มีอาการสับสนใดๆ ฉันกัดฟันพร้อมกับจ้องมองเขาอย่างเย็นชาและยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น

เขาพยายามจะเปิดปากของฉันอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ฉันก็ยังอดกลั้นเอาไว้ ในที่สุดลู่จือสิงก็ยอมแพ้และปล่อยฉันเป็นอิสระ

ฉันยืนตัวตรง ยกมือขึ้นเช็ดริมฝีปากอย่างรุนแรงจากนั้นมองเขาด้วยสีหน้าว่างเปล่า "ในเมื่อคุณเองก็ตื่นแล้ว งั้นคุณก็ช่วยดูระดับน้ำเกลือเองแล้วกัน ฉันยังมีธรุ ขอตัวก่อน"

"ซูยุ่น!"

เขาเอื้อมมือมาจับฉัน มือนั่นมือที่มีเข็มเจาะค้างเอาไว้

ทันทีที่ฉันหันกลับไปมอง ฉันเห็นเลือดของเขาไหลย้อนมา ภายในใจฉันรู้สึกร้อนรนและตะโกนใส่เขาในทันที "คุณกลับไปนั่ง!"

เขาขมวดคิ้ว ไม่ยอมปล่อยมือและเงยหน้ามองฉัน "คุณกลัวอะไร ซูยุ่น?"

คำพูดของเขาทำให้ร่างกายของฉันแข็งทื่อ ฉันจ้องมองเขา ลึกๆภายในใจของฉันมีความรู้สึกบางอย่างที่กำลังปั่นป่วน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้