หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 115

“ผมจะบีบบังคับคุณไปถึงไหนหรือ ผมเพียงแค่อยากจะทานอาหารกลางวันเท่านั้นเองนะครับ”

เขาก้มลงมามองฉัน ทุกถ้อยทุกคำในน้ำเสียงสงบนิ่ง ดูแล้วเหมือนฉันก้าวร้าวผู้อื่นไปเองคนเดียวอย่างนั้น

เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์เมื่อกี้ตึงเครียดมาก แต่มาตอนท้ายจู่ๆ น้ำเสียงของเขาก็ผ่อนคลายลง ทิ้งฉันให้โกรธจนตัวสั่นอยู่คนเดียว ส่วนเขาอารมณ์สุขสบายดีซะอย่างนั้น

“คุณออกไปเลย!”

“อย่าเสียงดังไป เป้ยเปยจะตื่นแล้วครับ”

เขาใช้วิธีสงบสยบความเคลื่อนไหว ฉันโมโหจนอยากจะร้องไห้ ผลคือ เขาดึงรถเข็นเด็กอ่อนกลับมา: “เอาล่ะ สายมากแล้ว คุณไปทำกับข้าวเถอะครับ”

“ลู่จือสิง ตกลงคุณฟังฉันพูดอยู่——”

ฉันยังพูดไม่ทันจบ เขาก็ผลักรถเข็นเป้ยเปยเข้าห้องไปแล้ว

ฉันยืนอยู่ตรงนั้น ไม่รู้จะระเบิดอารมณ์โกรธไว้ตรงไหน

แต่ฉันรู้ดีว่าไม่มีแรงเท่าเขา ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเป้ยเปยอยู่ ถึงฉันจะเข้าไปดึงเขาออกมา ก็คงดึงไม่ไปอยู่ดี

แทนที่จะเสียแรงเปล่า สู้เอาแรงไปทำอาหารดีกว่า ได้แต่หวังอยู่ในใจว่าเมื่อเขาทานเสร็จแล้วจะรีบไสหัวไปให้ไวเลย

จากนั้นจึงยอมเข้าห้องครัวไปทำอาหารกลางวัน เหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งเช้าแล้ว ฉันเองก็หิวมากเช่นกัน

เมื่อทำไปได้ครึ่งทาง ฉันก็พบว่าลู่จือสิงมายืนอยู่ข้างประตูกำลังมองดูฉันอยู่

การจ้องมองของเขาช่างตรงไปตรงมาเหลือเกิน ทำให้ฉันไม่อาจที่จะมองข้ามไปได้

ในช่วงสองสามนาทีแรกฉันยังพยายามที่จะสะกดจิตตัวเองไม่ให้ไปสนใจ ไม่ไปยุ่งกับสายตาของเขา แต่ก่อนที่จะหั่นเนื้อลงไปฉันเผลอใจลอย จึงหั่นถูกนิ้วมือตัวเองแทน

“ซี๊ด”

ฉันอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจ ในขณะที่ยังไม่มีปฏิกิริยาออกมา ลู่จือสิงก็เข้ามาจับมือฉันไปที่ก๊อกน้ำจากนั้นก็เปิดน้ำให้ไหลแรงๆ ผ่านมือฉันไป: “คุณกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย?”

ฉันเงยหน้ามองเขาจึงพบว่าใบหน้าของลู่จือสิงดำเหมือนก้นหม้อเลย

แล้วใจฉันก็เหมือนถูกอะไรปัดๆ เบาๆ อย่างนั้น โชคดีที่ฉันเกิดอาการเจ็บแผลบนมือขึ้นมานิดหนึ่ง จึงคืนสติกลับมาได้เร็ว

ฉันดึงมือกลับ: “ออกไป!”

“มือคุณบาดเจ็บแล้วครับ!”

เขาขมวดคิ้ว มองฉันด้วยใบหน้าไม่เห็นด้วย

ฉันยิ้มเยาะ: “ไม่ใช่เป็นเพราะประธานลู่อยากจะทานอาหารกลางวันที่บ้านหรือคะ?”

หายากที่เขาจะไม่โต้กลับ จากนั้นเขาก็ลากฉันออกไป: “พูดให้มันน้อยๆ หน่อย กล่องปฐมพยาบาลอยู่ที่ไหนในบ้านครับ?”

เห็นเขาทำท่าเป็นกังวลราวกับจะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่อยู่แล้ว ฉันก็รู้สึกเจ็บปวดที่ใจ

เดิมทีฉันควรจะเย็นชาต่อไป ไม่ต้องไปสนใจว่าเขาจะพูดอะไรดีที่สุด

แต่พอเห็นเขาก้มหน้ามองดูแผลตื้นๆ บนมือฉันแล้วขมวดคิ้วใส่ ฉันก็อดไม่ได้ที่จะเปิดปากพูด: “อยู่เคาน์เตอร์ที่สอง ในห้องครัวค่ะ”

เวลานี้เขาถึงจะเงยหน้าแล้วมองมาที่ฉัน: “กดเอาไว้นะครับ”

บาดแผลไม่ใหญ่อะไร แต่เลือดออกค่อนข้างมาก

ฉันกดแผลเอาไว้ จากนั้นลู่จือสิงก็ลุกขึ้นไปหากล่องปฐมพยาบาล

เขาเคลื่อนไหวเร็วมาก ไม่กี่นาทีก็บิดกล่องปฐมพยาบาลให้เปิดออกมา: “ยื่นมือออกมาครับ”

ฉันยื่นมือออกไป เลือดยังไหลอยู่ ตอนนี้เลือดสดๆ ไหลทะลักออกมาไม่ยอมหยุด

ลู่จือสิงหยิบสำลีและยาฆ่าเชื้อออกมา และหยดยาฆ่าเชื้อลงไปบนสำลี จากนั้นก็เอามากดบนบาดแผลของฉัน

ทีแรกฉันยังคิดว่าเขาคงจะอ่อนโยนสักหน่อย ใครจะไปรู้ว่าเขากลับกดลงมาแรงๆ อย่างไม่เกรงใจกันบ้างเลย

“ลู่จือสิงคุณจงใจหรือเปล่าเนี่ย?”

เขาเงยหน้าขึ้นมามองฉันด้วยสีหน้าเย็นชา: “รู้ตัวว่าเจ็บแล้วใช่มั้ย?”

“งั้นคุณก็ลองมาดูจะได้รู้ว่าเจ็บหรือไม่เจ็บกัน!”

เขามึนงงไปซักพัก คาดว่าเขาคงไม่คิดว่าครั้งนี้ฉันจะยอมรับออกมาตรงๆ แบบนี้

แต่ฉันเหนื่อยแล้ว ในสองสามวันนี้แค่รับมือกับเขาฉันก็รู้สึกอ่อนเพลียเหมือนตัวเองได้ถูกคว้านออกไปทั้งตัวแล้ว

“ซูยุ่น ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะครับ”

“แล้วคุณหมายความว่าอย่างไรหรือคะ?”

ฉันหันข้างไปมองเขา: “สองปีก่อนคุณหลอกฉันเล่นยังไม่พอ สองปีหลังยังคิดจะทำอีกหรือคะ?”

“ผมไม่ได้ทำ!”

คำปฏิเสธของเขาทำให้ฉันรู้สึกอยากประชดประชันขึ้นมา แรกเริ่มเดิมทีเขาได้ทำเรื่องอย่างนั้นออกมา ทำไมตอนนี้ถึงปฏิเสธกันล่ะ?

“ใช่ คุณไม่ได้ทำ คุณแค่ต้องการเป้ยเปยเท่านั้นใช่มั้ยคะ? ในเมื่อคุณกับเฉินฮวนเหยียนอยู่ด้วยกันแล้ว หลังจากนี้พวกคุณยังมีลูกด้วยกันได้อีกมากมาย ทำไมคุณจะต้องมาแย่ง

เป้ยเปยไปจากฉันคะ?”

เพียงแค่คิดว่าอีกหน่อยคนที่จะอยู่ด้วยกันกับเขาคือเฉินฮวนเหยียน ฉันก็รู้สึกทรมานราวกับหัวใจกำลังถูกผู้อื่นจับเอาไว้อย่างแน่นหนา

ฉันคิดว่าฉันจะได้อยู่ด้วยกันกับเขาไปตลอดชีวิต แต่สุดท้ายกลับพบว่าตัวเองเป็นได้แค่เพียงคนที่เดินผ่านไปมาเท่านั้น

“ซูยุ่น ผมกับเฉินฮวนเหยียนไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดแบบนั้นนะครับ!”

ฉันรู้สึกว่าคำพูดของเขาช่างน่าขำ: “ไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดแบบนั้น แล้วเป็นแบบไหนกันหรือคะ? อย่าบอกนะว่าคนที่คุณหมั้นด้วยเมื่อสองสามเดือนก่อนหน้าไม่ใช่เฉินฮวนเหยียน อย่าบอกนะว่าเธอเป็นคนที่อยู่ด้วยกับคุณในตอนนี้แล้ว!”

ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรจะมาสนใจกับเรื่องพวกนี้ เพราะฉันกับเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้ว!

แต่ฉันอดไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะสนใจ

ความรักล้วนเห็นแก่ตัวทั้งนั้น ฉันรักเขา ฉะนั้นแม้จะมีแค่ยุงตัวเมียคอยอยู่ข้างเขาตลอดเวลาฉันก็ถือสา ไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงตัวเป็นๆ คนหนึ่ง แล้วยังเป็นผู้หญิงคนที่หมั้นกันแล้วและเตรียมตัวที่จะแต่งงานกันอีกด้วย

“เรื่องของเฉินฮวนเหยียนผมไม่สะดวกที่จะอธิบายให้คุณฟังในตอนนี้ แต่เรื่องระหว่างผมกับเธอไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดแบบนั้นเลย อีกอย่างที่ผมมาเมือง D ในครั้งนี้ก็ไม่ใช่เป็นเพราะผมอยากได้เป้ยเปยเท่านั้น”

เขาพูดๆ ทันใดนั้นก็เอามือมาจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันแล้วบังคับให้ฉันมองมาที่เขา: “ผมยังต้องการคุณด้วย ซูยุ่น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้