หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 119

มันน่าเกลียดจริงๆ เขารู้จุดอ่อนของฉัน แล้วใช้มันควบคุมฉันครั้งแล้วครั้งเล่า

“ซูยุ่นฉันขอโทษ”

ขอโทษ... ขอโทษอีกแล้ว

ฉันมองเขา แต่ว่าไม่ได้พูดอะไรออกไปสักคำ

ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์มาเถียงกับเขาว่าใครถูกใครผิด เพราะสีหน้าของเขาดูไม่ดีเลยจริงๆ

ฉันอดกลั้นความโกรธไว้แล้วเม้มริมฝีปากเดินตามหมอเข้าไปในห้องตรวจ

ตรงผ้าก๊อซมีเลือดไหลซึมออกมา ขณะที่พยาบาลเปิดผ้าพันแผลออก อยู่ๆ ลู่จือสิงก็ยกมือขึ้นมาปิดตาฉันไว้

ฉันดึงมือของเขาออก เขาหันมามองฉันอย่างอ้อนวอนด้วยดวงตาสีดำคู่นั้น "อย่ามอง"

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเจ็บปวดหรือเปล่า น้ำเสียงของลู่จือสิงจึงฟังดูทุ้มต่ำราวกับกำลังอดกลั้นอะไรบางอย่างไว้

ฉันไม่เคยทนสายตาเช่นนี้ของเขาได้เลย เมื่อเขาสะเทือนใจฉันก็สะเทือนใจไปด้วย เมื่อเขาอ้อนวอนก็ดูช่างน่าสงสาร

อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ

ฉันเบือนหน้าออกไปให้ลู่จือสิงเห็นว่าฉันไม่ได้มอง

แต่เขาก็ยังไม่ยอมลดมือที่บังสายตาของฉันลง

พยาบาลบอกว่าแผลอักเสบจริงๆ และต้องรับการรักษาอีกครั้ง

ลู่จือสิงส่งเสียงตอบรับสั้นๆ "อืม"

ฉันมองมือของเขาที่พาดบังสายตาของฉันอยู่ ไม่รู้ว่าตาฝาดไปหรือเปล่าที่เห็นว่ามือของลู่จือสิงกำลังสั่น

ฉันทนไม่ไหวจึงยกมือขึ้นดึงมือของเขาลง "ไม่ต้องบังแล้ว ฉันหลับตาเอง"

เมื่อพูดจบฉันก็หลับตาทันที

หลังจากหลับตาลง ประสาทการได้ยินก็ดูเหมือนจะชัดเจนขึ้น

ฉันเริ่มได้ยินเสียงหอบหายใจเบาๆ ของลู่จือสิง

ฉันรู้ว่าเขาเจ็บ ขณะเดียวกันฉันก็เจ็บและปวดใจเช่นเดียวกัน

ใช้เวลาเกือบยี่สิบนาทีเขาก็ทำแผลเสร็จ

แต่ลู่จือสิงมีไข้และจำเป็นต้องให้ยาผ่านสายน้ำเกลือ ไม่อย่างนั้นอาจมีปัญหาได้หากไข้ยังไม่ลด

ทันทีที่ฉันชำระเงินเสร็จ ฉีซิ่วหรานก็โทรมา

ฉันเล่าอาการของลู่จือสิงให้ฉีซิ่วหรานฟัง ส่วนเขาก็บอกฉันว่าเป้ยเปยเข้านอนแล้ว และไม่ดื้อเลย

หลังจากพูดจบเราทั้งคู่ก็เงียบไป สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดและน่าอึดอัดใจเล็กน้อย

ฉันรู้ว่าฉีซิ่วหรานคิดอย่างไรกับฉัน แต่ฉันก็ปล่อยให้เขาดูแลเป้ยเปย ในขณะที่ตัวเองพาลู่จือสิงมาโรงพยาบาล

ฟังดูเหมือนจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าฉันเป็นฉีซิ่วหราน ฉันคงเกลียดตัวเองอย่างมาก

ในที่สุดฉันก็ทนไม่ได้และพูดขึ้นก่อนว่า "ฉีซิ่วหราน"

"มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?"

"ขอโทษนะ วันนี้..."

ฉันยังพูดไม่ทันจบ ฉีซิ่วหรานก็ขัดขึ้นมา "ซูยุ่น ฉันเคยบอกไปแล้ว ว่าฉันมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือเธอ เธอไม่จำเป็นต้องขอโทษหรือขอบคุณฉันทุกครั้งหรอกนะ"

ฉันถอนหายใจ "ก็ได้... ฉันไม่รู้ว่าคืนนี้จะได้กลับไปตอนไหน ยังไงฝากเป้ยเปยไว้กับนายด้วยนะ”

“ไม่เป็นไร รอให้ประธานลู่ไข้ลดลงแล้วค่อยคุยกันอีกที”

ฉันวางสายแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

ยิ่งรู้สึกผิดกับฉีซิ่วหรานมากขึ้นในคืนนี้

ฉันกลับไปที่ห้องผู้ป่วยและพบว่าลู่จือสิงกำลังเดินออกมาพร้อมกับขวดน้ำเกลือ

พอเห็นเขาขยับร่างกายแบบนี้ฉันก็โมโหขึ้นมา "คุณทำอะไรน่ะ!"

ขนาดมือหนึ่งถูกพันแผลไว้และมืออีกข้างกำลังให้น้ำเกลือ เขายังทำอะไรตามอำเภอใจอีก

เขาไม่ขัดขืน ยอมให้ฉันเอาขวดน้ำเกลือแขวนกลับไปที่เดิมแล้วนอนลงบนเตียงอย่างเชื่อฟัง "ฉันคิดว่าเธอกลับไปแล้ว"

คำพูดที่จู่ๆ ก็เอ่ยออกมานั้นทำให้มือของฉันชะงัก ฉันวางกระเป๋าลงก่อนจะหันกลับไปมองเขาแล้วยิ้มเยาะ "ประธานลู่ อย่าคิดว่าทุกคนจะเลือดเย็นเหมือนคุณสิ"

เขามองฉันโดยไม่พูดอะไร

เขาทำตัวตามสบาย

ฉันก้มลงมองโทรศัพท์และพบว่าตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งกว่าๆ แล้ว นี่ฉันนอนหลับอยู่ที่ข้างเตียงไปตั้งหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ เชียวหรือ?

ทีแรกฉันอยากจะช่วยลู่จือสิงดูขวดน้ำเกลือ แต่ดันเผลอหลับไปจนเขาต้องดูแลตัวเองเสียนี่

เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันก็รู้สึกผิดเล็กน้อย "คุณหลับเถอะ คราวนี้ฉันจะช่วยคุณดูเอง"

“นอนไม่หลับ”

“เจ็บแผลหรือ?”

เขาไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ

แต่ฉันรู้ว่าเขาน่าจะเจ็บแผล

ฉันหันไปมองแขนของเขา น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้เห็นตอนที่เขาทำแผล ตอนนี้มันถูกแขนเสื้อบังจนมองไม่เห็นอะไรเลย

"แขนของคุณบาดเจ็บได้ยังไง โดนแทงใช่ไหม?"

ฉันชำเลืองมองและถามราวกับไม่ได้ใส่ใจ

ลู่จือสิงมองมาที่ฉัน อาจเป็นเพราะว่าไม่สบาย สีหน้าของเขาจึงดูแย่มาก "เธอเป็นห่วงฉันไหมซูยุ่น?"

คำพูดของเขาทำให้ใบหน้าฉันนิ่งขึงไป พลางคิดว่าตัวเองเป็นบ้าไปแล้วหรือไงถึงถามคำถามแบบนั้นออกมา

ฉันเบือนหน้าหนี "ถ้าคุณไม่อยากพูดถึงก็ลืมๆ ไปเถอะ"

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงฉุดดึงฉันไปแล้ว

แต่ตอนนี้เขากลับเงียบลงในทันที

ฉันเองก็บอกไม่ถูกว่าทำไมความเงียบของลู่จือสิงจึงทำให้ฉันรู้สึกเหมือนมีไฟแผดเผาอยู่ในใจ ทำไมทุกอย่างถึงไม่ราบรื่นเอาเสียเลย

ฉันเหลือบมองเขา "ฉันจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย"

"ซูยุ่น..."

เขาเรียกฉันจากด้านหลัง แต่ฉันก็ออกไปโดยไม่หันกลับไปมอง

เขาไม่พูด แต่มีบางคนที่พูดเสมอ อย่างเช่นหลี่จื้อ...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้