หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 125

“ซูยุ่น เธอคิดดีแล้วรึยัง ?”

“ฉันคิดดีแล้ว”

“ในเมื่อเธอคิดดีแล้ว ก็ไปเถอะ วันระมืนฉันถึงกลับ ถ้าหากเธอมีเรื่องอะไรก็ติดต่อเซียวหลิงหราน ช่วงนี้เขาอยู่ที่เมืองA”

เซียวหลิงหรานเป็นเพื่อนของฉีซิ่วหราน บางครั้งเซียวหลิงหรานก็มาหาฉีซิ่วหรานที่บ้านของฉัน ไปๆมาๆ ฉันกับเซียวหลิงหรานก็กลายเป็นเพื่อนกัน

“ฉันรู้แล้ว เธอรีบนอนเถอะ ตอนนี้ที่นั่นคงจะดึกมากแล้ว?”

“อืม ฝันดี”

หลังจากวางสาย ฉันก็กลับมาดูเป้ยเปยที่ห้องสักพัก คิดไปคิดมา ฉันก็โทรศัพท์ไปหาชวี่ชิงหนาน

หลังจากอธิบายกับชวี่ชิงหนาน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่ง:“พรุ่งนี้คุณขึ้นเครื่องกี่โมง ? ”

“สิบเอ็ดโมงกว่า”

“ฉันจะให้คนไปรับคุณ ตอนนี้ตระกูลลู่วุ่นวายนิดหน่อย จงฮุ่ยหรานไม่ใช่คนใจเย็น ยังไงก็ต้องระวังตัวหน่อย”

คำพูดของชวี่ชิงหนานทำให้ฉันเกิดความลังเลขึ้นมา:“พี่ชาย ตระกูลชวี่ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ฉันอยากพาเป้ยเปยกลับไป จะมีอันตรายอะไรรึเปล่า ?”

“เรื่องเป็นมายังไงฉันก็ไม่ค่อยรู้ รู้แค่ว่าเมื่อสองเดือนก่อนมีบางอย่างเกิดขึ้นในงานหมั้นของลู่จือสิงและเฉินฮวนเหยียน มันเป็นเรื่องภายในตระกูลลู่ แต่คุณไม่ต้องกังวล ฉันจะส่งคนไปตามดู ไม่ว่าจะพูดยังไง ลู่เว่ยกั๋วก็คือปู่ของเป้ยเปย ไปเยี่ยมดูหน่อยก็ดีนะ ”

เมื่อได้ยินชวี่ชิงหนานพูดแบบนี้ ฉันก็ไม่ลังเลอีกต่อไป:“อืม ฉันรู้แล้ว วันพรุ่งนี้ประมาณบ่ายโมงฉันจะถึงเมือง A”

ฉันคิดถึงคำพูดของจงฮุ่ยหรานอยู่สองวันถึงตัดสินใจพาเป้ยเปยกลับมาที่เมือง A ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชอบจงฮุ่ยหราน แต่ไม่ว่ายังไง เป้ยเปยก็เป็นหลานของตระกูลลู่ ตอนนี้ลู่เว่ยกั๋วนอนป่วยอยู่บนเตียง บางทีอาจจะไม่มีวันนั้นเลยก็ได้ ถ้าหากเป็นเพราะฉันทำให้เป้ยเปยไม่ได้เห็นปู่ของเธอ ก็คงน่าเสียดายแย่

ในชีวิตฉันนี้มีความเสียใจมากเกินไปแล้ว ฉันไม่อยากให้เป้ยเปยเติบโตมาท่ามกลางความเสียใจ

เพราะว่าพรุ่งนี้ฉันต้องขึ้นเครื่อง ไม่ถึงสี่ทุ่มฉันก็เข้านอนแล้ว

ตอนนี้เป้ยเปยสามารถนอนหลับไปจนถึงเช้าวันพรุ่งนี้ ฟ้ายังไม่ทันสว่าง เป้ยเปยก็ตื่นแล้ว

ฉันเก็บของเสร็จก็ได้เวลาไปสนามบินแล้ว ฉันอุ้มเป้ยเปยลงไปเพื่อจะไปสนามบิน

เที่ยวบินนี้ใช้เวลาบินสองชั่วโมง เมื่อเครื่องลงเลขาของชวี่ชิงหนานก็โทรศัพท์มา

ตามปกติแล้วฉันไม่สามารถกลับไปนอนที่ตระกูลลู่ได้ ครั้งนี้ที่มาก็เพื่อที่จะให้ลู่เว่ยกั๋วได้เจอกับเป้ยเปย และฉันก็ไม่อยากไปพักที่ตระกูลชวี่ด้วย

ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตระกูลลู่เป็นยังไงบ้าง แต่ฉันไม่อยากใตระกูลชวี่เข้ามาเกี่ยวข้อง

“คุณซู สองวันนี้ประธานชวี่ค่อยข้างยุ่ง ถ้าหากคุณต้องการอะไรสามารถติดต่อฉันได้ นี่เป็นช่องทางติดต่อทั้งหมดของฉัน”

ฉันเอื้อมมือไปหยิบนามบัตร และยิ้มขอบคุณ:“ขอบคุณค่ะ เลขาฟาง”

ฟางหลินยิ้ม “เป็นสิ่งที่ฉันควรทำค่ะ”

ตอนนี้เป้ยเปยหิว อ้าปากและร้องไห้ ฉันไม่มีเวลาจะขอบคุณฟางหลินแล้ว จึงทำได้เพียงมองหน้าเขาอย่างเขินอาย:“ขอโทษนะคะ เด็กๆหิวง่าย”

“คุณซูเกรงใจเกินไปแล้ว เป้ยเปยน่ารักมากค่ะ”

ไม่มีแม่คนไหนเมื่อได้ยินคนอื่นชมลูกตัวเองแล้วจะไม่มีความสุข ฉันก็มีความสุขมาก

ฟางหลินทำทุกอย่างรอบคอบมาก เธอรู้ว่าฉันเอาลูกมาด้วย ทุกมุมของคอนโดพื้นพรมที่อยู่บนพื้นของตกแต่งในบ้านถูกนำออกไปให้เยอะที่สุด

นอกจากนี้ยังมีกล่องขนาดใหญ่ ด้านในใส่ของเล่นเด็กไว้

เด็กเล็กอยากรู้อยากเห็นทุกอย่าง ตอนนี้เป้ยเปยสามารถเดินและส่งเสียงได้ ตอนนี้เห็นของเล่นใหม่ก็ลืมแม่คนนี้ไปเลย

เด็กเล็กอยากรู้อยากเห็นทุกอย่าง ตอนนี้เป้ยเปยสามารถเดินและส่งเสียงได้ ตอนนี้เห็นของเล่นใหม่ก็ลืมแม่คนนี้ไปเลย

เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ฉันก็ออกไปโทรหาจงฮุ่ยหรานพลางมองเป้ยเปยไปด้วย

เธอรับอย่างรวดเร็ว เหมือนว่ากำลังรอโทรศัพท์ของฉัน “ ซูยุ่น? ”

ฟางหลินเดินวนรอบรั้วเล็กๆในห้อง มันถูกคลุมด้วยผ้าห่มนุ่มๆ รั้วสูงประมาณครึ่งเมตร ฉันปิดประตูทำให้เป้ยเปยไม่สามารถปีนออกมาได้

เขาจิบชา “ฉันไปดูเป้ยเปย”

ฉันพยักหน้า “ฉันจะไปทำซุปแก้แฮงค์ให้คุณ”

เขาหันกลับมามองฉัน อย่างทำไรไม่ถูก: “ตกลง”

ซุปแก้เมาทำไม่ยาก ไม่ถึงสิบนาทีก็ทำเสร็จแล้ว เมื่อเดินไปก็เห็นชวี่ชิงหนานนั่งอยู่บนเตียงมองเป้ยเปย แต่ก็ไม่ได้อุ้ม:“พี่ชาย เป้ยเปยมองมาที่ฉัน ทำไมคุณไม่อุ้มเขาล่ะ ? ”

เขาหยิบซุปแก้เมาและส่ายหัว “บนตัวฉันมีกลิ่นเหล้า ไม่อุ้มละ ”

ฉันยิ้มและสัมผัสไปที่ใบหน้าเล็กของเป้ยเปย:“เป้ยเปยเด็กดี บนตัวลุงมีกลิ่นเหม็น ไว้วันหลังลุงจะมาอุ้มนะ ! ”

ตอนนี้เป้ยเปยอยู่ในวัยที่กำลังเรียนรู้ เมื่อฟังที่ฉันพูด มองไปที่ชวี่ชิงหนาน ยกรถไฟคันเล็กขึ้นมาและพูดว่า:“เหม็น เหม็น !”

ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “เรียนรู้แต่สิ่งแย่ๆทั้งนั้น”

“พรุ่งนี้คุณจะไปโรงพยาบาลเมื่อไหร่ ?”

ฉันคิดอยู่พักหนึ่ง ฉันคิดว่าจะไปประมาณบ่ายสองกว่า จงฮุ่ยหรานบอกว่าตอนนี้อาการของคุณลู่ไม่ค่อยดี เวลาตื่นไม่นาน ทุกวันเขาจะตื่นตัวประมาณบ่ายสองถึงบ่ายสี่ของทุกวัน

เขาพยักหน้า:“ฉันจะให้ฟางหลินไปส่งพวกคุณ”

เดิมทีฉันจะปฎิเสธ แต่เมื่อคิดไปคิดมา เพื่อสะดวกต่อเป้ยเปย ฉันจึงพยักหน้า: “ตกลง”

“คุณรีบนอนเถอะ สองวันนี้ฉันค่อยข้างยุ่ง รอฉันผ่านชั่วงนี้ไปก็จะโอเคแล้ว”

ฉันรู้ว่าเขาจะไปแล้ว จึงลุกขึ้นเดินไปส่งเขา

เขาเดินไปได้ครึ่งทาง ทันใดนั้นก็หันกลับมามองฉัน “คุณเจอพ่อแม่ผมไหม ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้