ฉันไม่ได้คาดเดาว่าเขาสามารถจะทำเช่นนี้ ถูกเขากดลงไปบนโซฟา เงยหน้าขึ้นมา ก็ได้ยินฉันว่าเขากำลังเรียกชื่อฉัน
ดวงตาสีดำคู่นั้นมองจ้องมองมาที่ฉัน มึนงงเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น: “ลู่จือสิง คุณกำลังแกล้งเมาใช่ไหม?”
ฉันเพิ่งจะพูดจบ ในช่วงเวลาฉับพลันลู่จือสิงก็คล้ายกับหมาน้อย โน้มเข้ามาที่ลำคอของฉัน พลางโน้มเข้ามาพลางเรียกชื่อของฉัน: “ซูยุ่น คุณกลับมาแล้วเหรอ? ซูยุ่น?”
ได้ยินคำพูดของเขาทำให้ทรวงอกของฉันเจ็บปวด ผมสั้นๆนั้นกวาดอยู่บนลำคอของฉัน เส้นผมที่นุ่มและหนา มารบกวนจนทำให้ฉันรู้สึกจั๊กจี้
ทั่วทั้งร่างกายของเขามีแต่กลิ่นเหล้า ฉันใช้แรงผลักเขา ก็ไม่ขยับ แต่กลับเป็นลู่จือสิง ที่ถูกฉันผลัก ในช่วงเวลาฉับพลันนั้นก็ยื่นมือขึ้นมาจับมือฉันไว้
ฉันมองดูเขาที่กำลังจะจูบลงมา รีบหันหน้าหลบ
จูบของเขาหยุดลงบนข้างแก้มของฉัน อุ่น และนุ่ม
ในใจของก็ฉันสั่นเทา ใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออกไป
เขานั่งอยู่บนโซฟา ดวงตาสีดำคู่นั้นจ้องมองมาที่ฉัน มีความปรารถนา: “ซูยุ่น ผมอยากจูบคุณ”
ฉันใช้กำลังสุดความสามารถที่จะมองข้ามหัวใจของตัวที่เต้นไม่เป็นปกติ ใช้ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกจ้องมองเขา: “คุณเมาแล้ว”
“ผมไม่ได้เมา!”
คนที่เมามักจะเป็นเช่นนี้ ไม่ยอมรับว่าตัวเองเมา
ฉันก็ขี้เกียจจะสนใจเขาแล้ว ช่วยเขาถอดเนคไทออกมา และปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขา หลังจากนั้นให้เขานั่งลง ฉันก็ไปต้มซุปที่ทำให้สร่างเมา
ผลลัพธ์คือลู่จือสิงดื่มจนเมาและอยู่ไม่สงบเสงี่ยม ฉันเพิ่งจะก้าวเข้ามาในห้องครัวได้ไม่นาน เขาก็เดินโซซัดโซเซตามฉันเข้ามา
“ซูยุ่น”
ในเวลาที่ได้ยินเสียงของเขา ฉันก็มือไม้สั่นเล็กน้อย เกือบจะทำให้น้ำผึ้งที่อยู่ในมือหล่น
ฉันหันกลับมามองเขา ตัวเขาเองยืนพิงอยู่ที่ขอบประตู และเรียกชื่อฉันอยู่ตลอด
เห็นว่าเขาไม่ได้เดินเข้ามา ฉันก็เลยไม่ได้สนใจเขา
วัตถุดิบในตู้เย็นก็มีจำกัด ฉันจึงทำได้แค่หยิบน้ำผึ้งกับมะนาวทำเป็นเครื่องดื่มผสมเข้าด้วยกัน
หลังจากทำเสร็จหันหน้ากลับไปก็พบว่าลู่จือสิงนั่งลงบนพื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ถึงแม้ตอนนี้จะผ่านพ้นช่วงหน้าหนาวแล้ว แต่ว่าพื้นก็ยังหนาวอยู่ และเขายังดื่มเหล้า นั่งลงบนพื้นนิดหน่อยก็ไม่ดี
ฉันกัดฟัน หรือว่าจะต้องเข้าไปดึงเขาให้ลุกขึ้นยืน
แต่ว่าเขาเป็นผู้ชาย ในเวลาที่ทั่วทั้งร่างกายนั่งและไม่ขยับก็เหมือนกับก้อนหิน ฉันใช้พลังเยอะมากถึงจะดึงขึ้นมาจากบนพื้นได้
เวลาที่ลุกขึ้นมาเขาก็มองที่ฉัน ก็ไม่รู้ว่าสร่างเมาสักนิดแล้วรึเปล่า: “ซูยุ่น?”
“ฉันเอง คุณดื่มจนเมาแล้ว”
“ซูยุ่น. อย่าไป ซูยุ่น”
ฉันเพิ่งจะพูดจบ เขาก็โอบลำคอของฉันไว้ เมื่อเปิดปาก กลิ่นเหล้าก็ปะทะเข้ามาที่ใบหน้า
ฉันฟังเขาที่เรียกชื่อฉันอยู่ตลอด ในหัวใจคล้ายกับว่าถูกดึง
บังคับตัวเองไม่ให้คิดมาก กัดฟันพาเขาลากกลับไปที่โซฟา
ครั้งนี้ลู่จือสิงเมาจริงๆ ฉันป้อนซุปที่ทำให้สร่างเมาให้เขา ทั่วทั้งร่างกายของเขาต่อต้าน ก็คือไม่ให้ความร่วมมือ เวลาต่อมาฉันทนไม่ไหวแล้วจริงๆ นั่งคร่อมลงบนตัวของเขาจับคางของเขา: “อ้าปาก!”
ก็ไม่รู้ว่าฉันทำรุนแรงไปรึเปล่า คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่พูดอะไรอีก ทำเพียงแค่อ้าปาก
ฉันนำน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวเข้าไปในปากของเขา เขากลืนลงไปทีล่ะคำ สายตาจ้องมองมาที่ฉัน จนกระทั่งฉันเริ่มสงสัยว่าความจริงแล้วลู่จือสิงไม่ได้เมา
ฉันชะงักไปเล็กน้อย รีบยกมือผลักเขาออก เขาตัวโตขนาดนี้ นึกไม่ถึงว่าเขายืนไม่มั่นคง เห็นว่าเขากำลังจะล้ม ฉันก็รีบยกมือไปดึงเขาเอาไว้: “ลู่จือสิง!”
เขายืนอยู่ตรงนั้น น้ำสาดจากบนศีรษะลงมา ทำให้เส้นของเขาผมเสียทรง ไม่มีความทรงพลังหลงเหลืออยู่ ตอนนี้ก็เหมือนกับสุนัขพันธ์ปักกิ่ง
มองไปที่เขา แล้วถอนหายใจออกมา: “ คุณยืนดีดี!”
พูดจบก็ปิดน้ำที่ฝักผัว ยื่นมือไปช่วยเขาถอดเสื้อผ้า
จริงๆแล้วฉันไม่ได้คิดอะไรพวกนั้น แต่เป็นเขาที่ทำให้ตัวเองเปียก นอกจากเขายื่นอยู่ที่ใต้ฝักบัวแล้วก็ไม่ได้ทำอะไร หรือว่าจริงๆแล้วฉันอยากจะมองดูเขายืนอยู่เช่นนี้ทั้งคืนเหรอ?
ลู่จือสิงเป็นผู้ชายที่เวลาสวมใส่เสื้อผ้าแล้วดูผอมเมื่อถอดออกก็มีกล้ามเนื้อ เมื่อก่อนฉันรู้ แต่คิดไม่ถึงว่าสามปีที่ไม่เจอกัน กล้ามเนื้อหน้าท้องบนร่างกายของเขาก็ยิ่งแสดงให้เห็นได้ชัดเจน
เสื้อเชิ้ตที่รัดแน่นติดอยู่บนร่างกายของเขา มือของฉันไม่ระวังก็ไปสัมผัสเข้ากับกล้ามเนื้อบนร่างกายของเขา ร่างกายที่แข็งแรงนั้นทำให้หัวใจฉันสั่นเทา ใช้แรงที่มีทั้งหมดบังคับตัวเองไม่ให้คิดอะไรไร้สาระ
หลังจากลู่จือสิงถอดเสื้อผ้าออกแล้ว สีหน้าของฉันก็ร้อนผ่าวจนสามารถทอดไข่ไก่ได้
สายตาหยุดอยู่ที่เข็มขัดที่บนกางเกงของเขา ฉันยื่นมือขึ้น หลายวินาทีต่อมาก็ยังไม่ยื่นมือลงไป
“หนาว”
ในช่วงเวลาฉับพลันนั้นลู่จือสิงก็สั่นขึ้นมา ฉันชะงักไปเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นไปมองเห็นริมฝีปากของเขาเริ่มเป็นสีม่วง กัดฟันกรอด หลับตาแล้วช่วยถอดกางเกงเขาออก
หลังจากเสร็จแล้วฉันก็ยื่นฝักบัวให้เขา: “คุณอาบน้ำเอง อาบน้ำเสร็จก็ออกมาเอง”
พูดจบ ฉันก็อยู่รอไม่ไหวแล้ว
เพียงแต่ฉันรออยู่ด้านนอกสิบกว่านาทีแล้ว ลู่จือสิงก็ยังไม่ออกมา คิดขึ้นได้ว่าเขาเมาหนักมาก ฉันก็ไม่อาจที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้
ลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ฉันก็ผลักประตูเดินเข้าไป เพิ่งจะดึงประตู ลู่จือสิงก็ยืนเปลือยกายอยู่ตรงหน้าของฉัน……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้